ดร.อาจอง เล่าว่า องค์การนาซา
มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคารเพราะมีสภาพเหมือนกับโลก ขณะที่ดาวดวงอื่นเต็มไปด้วยอากาศพิษ ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป ดาวพฤหัสฯมีสภาพเป็นกรด ดาวอังคารแม้อากาศหนาวและมีสภาพไร้น้ำหนัก แต่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่ บนโลกได้ เพราะสภาพไร้น้ำหนักทำให้กระดูกเราอ่อนไม่แข็ง กล้ามเนื้อจะหายไป ใน เบื้องต้นจะส่งคนออกไปสร้างอุตสาหกรรมในอวกาศ ใช้วัตถุดิบจากดวงจันทร์ของดาวอังคาร ซึ่งมีอยู่ 2 ดวง จะมีสารทุกอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ยิปซัม แร่ธาตุต่าง ๆ และการ ขนย้ายแร่ธาตุเหล่านี้จะเป็นไปโดยง่ายบนสภาพไร้น้ำหนัก
มีการวางแผนว่ามนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร มีการออกแบบสร้างเมืองจะแบ่งเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่สัก 2 แสนคน เป็นเมืองในอวกาศโดยสร้างระบบให้มีน้ำหนัก สามารถเดินไปมา ไม่ใช่ลอยไปมา ส่วนการเดินทางในอวกาศจะสร้างเรือใบรับรังสีพลาสม่าเพื่อให้พาหนะนี้เคลื่อน ไปในอวกาศได้
ดร.อาจองบอกว่าองค์การนาซาวางแผนไว้ปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรกเพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษาอยู่ที่ นั่นสักพักว่าจะอยู่กันได้สะดวกสบายแค่ไหน หลังจากนั้นจะเริ่มเอาคนไปอยู่สร้างตึกสร้างเมือง ตอนแรกจะมีเรือนกระจกแบบกลม ๆ เราเข้าไปอยู่ในนั้นปลูกผักปลูกข้าว ต้นไม้บนดาวอังคารจะโตเร็วกว่าโลกของเรา ที่โตเร็วเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะเดียวกันเราไม่ต้องขนออกซิเจนไป ปลูกต้นไม้ก็คายออกซิเจนให้กับตัวเราได้
เมื่อผู้คนอพยพมามากขึ้นอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ปกติบนดาวอังคารอุณหภูมิตอนนี้ติดลบ เมื่อมนุษย์อยู่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นแต่ตรง นั้นไม่ต้องห่วงเพราะอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส มนุษย์เข้าไปอยู่ได้อีกเยอะ และยิ่งอยู่เยอะยิ่งดีทำให้อากาศร้อนขึ้น
ในที่สุดการเดินทางไปดาวอังคารจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ ระยะทางจากโลกไปดาวอังคารไม่แน่นอนบางครั้งอยู่ใกล้กัน บางครั้งไกลออกไป แต่ระยะเวลาที่ใกล้สุดระหว่างดาวอังคารกับโลกคือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับจังหวะว่าโลกจะหมุนเข้าใกล้ดาวอังคารช่วงไหนของปี
องค์การนาซ่าได้เริ่มดำเนินการทดลองสร้างโดมที่ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งกำลังวางแผนจะสร้างเทองหลวงขึ้นใหม่ ประเทศนี้มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย ฤดู ร้อน ร้อนจัด ฤดูหนาว หนาวจัด ซึ่งไม่แตกต่างกับดาวอังคารมากนัก ภายในเต็นท์หรือโดมมีการปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โครงสร้างเต็นท์ครอบคลุมกว่า 10 สนามฟุตบอล ยอดเต็นท์สูงกว่า 150 เมตร มีการผลิตออกซิเจน และทดลองให้มนุษย์อยู่และอาศัยในโดมนั้นจริง
จะเห็นได้ว่าเรื่องที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่บนดาวอังคารจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความเป็นจริง ...แล้วคนไทยทำอย่างไรดีเอ่ย ? แต่ความคิดเห็นดังกล่าวก็ยังมีนักวิชาการออกมีโต้แย้งกันในวงกว้าง และไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุไป (ฟังหูไว้หู ประมาณนั้น)
แหล่งที่มาของข้อมูลในบางส่วนจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และนิตยสารต่วยตูนฉบับพิเศษ โดยคุณทวิชัย สุวพาณิช เป็นผู้เขียน ต่วยตูนเป็นหนังสือที่ผู้บันทึกอ่านเป็นประจำ (ติดเลยก็ว่าได้) ความรู้มากมายเหลือคณานัปเลยทีเดียว