[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 07:03:16 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดสิงห์ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ชมศาสนสถานโบราณครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี  (อ่าน 4823 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5458


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 15 พฤศจิกายน 2558 18:07:02 »

.



วัดสิงห์
ตำบลสามโคก  อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

วัดสิงห์ เป็นวัดตั้งอยู่ริมคลองไม่ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกบริเวณคุ้งน้ำที่กว้างใหญ่ ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหม่ ซึ่งขุดลัดเตร็ดใหญ่ในสมัยพระเจ้าทรงธรรม ตรงหน้าวัดไก่เตี้ย

ที่ตั้งของวัดอยู่ห่างจากริมแม่น้ำลึกเข้าไปประมาณ ๕๐๐ เมตร โดยมีลำคลองสำหรับเรือเข้าออก เรียกว่า “คลองวัดสิงห์” อยู่ทางทิศใต้ของวัด แผ่นดินบริเวณนี้เรียกว่า “บ้านสามโคก”

“วัดสิงห์” เป็นวัดโบราณเก่าแก่คู่เมืองสามโคกมานาน  สันนิษฐานว่าวัดแห่งนี้เดิมเป็นวัดร้างที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งกรุงอยุธยาเป็นราชธานี สมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

 
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อพม่ารบกับจีน ในปี พ.ศ.๒๐๒๒ ชาวมอญที่ถูกเกณฑ์เข้าร่วมในกองทัพพม่า ได้พากันหลบหนีจากกองทัพพม่า โดยพาครอบครัวประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน ออกจากแว่นแคว้นเมืองเมาะตะมะ มาทางเมืองสมิ ถึงด่านพระเจดีย์ ๓ องค์  ในปีระกา นพศกนั้น จึงสมิงนายอำเภอทั้ง ๑๑ นาย ก็แต่งหนังสือบอกให้รามัญ ถือเข้ามาแจ้งกิจการแก่พระยากาญจนบุรีว่าจะเข้ามาสวามิภักดิ์เป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาท พระยากาญจนบุรีก็ส่งหนังสือบอกเข้ามาถึงอัครมหาเสนาธิบดี ให้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระกรุณาให้ทราบ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระพุทธเจ้าช้างเผือกให้ทรงทราบเหตุ  ก็ทรงพระโสมนัสดำรัสให้สมิงรามัญเก่าในกรุงถือพลพันหนึ่ง ออกไปรับครัวเมืองเมาตะมะเข้ามายังพระมหานคร แล้วทรงพระกรุณาโปรดให้พวกครัวมอญใหม่ไปตั้งบ้านเรือนอยู่สามโคกบ้าง ที่คลองคูจามบ้าง ที่ใกล้วัดตองปุบ้าง โดยพระภิกษุที่อพยพหนีศึกพม่ามาด้วยกันได้อยู่พักจำพรรษาที่วัดแห่งนี้  ดังนั้น วัดสิงห์จึงเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองสามโคกที่มีมาก่อนชาวรามัญจะอพยพเข้ามาอยู่บ้านสามโคก

ต่อมาราวสมัยอยุธยาตอนปลาย ต่อเนื่องถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้นได้มีชาวมอญอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนชุมชนบริเวณอำเภอสามโคกมากขึ้น และได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ จนเป็นวัดมอญดังเช่นปัจจุบัน
 

ด้วยความที่วัดสิงห์เป็นวัดเก่าแก่โบราณ
ทำให้สถาปัตยกรรมและสิ่งก่อสร้างล้วนสะท้อนศิลปะอยุธยา
ไม่ว่าจะเป็นวิหารโถง หรือที่เรียกว่าศาลาดิน วิหารน้อย โกศพญากราย ฯลฯ











วิหารน้อย เป็นวิหารทรงไทยก่อด้วยอิฐไปจรดอกไก่ มุงด้วยกระเบื้องดินเผากาบู
ด้านหน้ามีพาไลยื่นออกมา ฐานของอาคารทำเป็นท้องสำเภาก่ออิฐเป็นฐานปัทม์แอ่นโค้ง
ผนังเจาะเป็นช่องลูกกรงแทนหน้าต่าง มีประตูเข้าช่องทางเดียว วงกบประตูทำด้วยไม้สักทอง
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางมารวิชัย ประดิษฐานบนฐานชุกชีประดับกระจกสีเขียว
ด้านข้างมีพระพุทธรูปยืนพนมมือ


วิหารโถง หรือที่เรียกว่าศาลาดิน เป็นอาคารทรงไทยจั่วลูกฟักหน้าพรหม
มีมาลัยโดยรอบ มุงด้วยกระเบื้องกาบู กระเบื้องเชิงชายทำเป็นบันแถลงรูปสามเหลี่ยม
ปลายเรียวโค้งรูปเทพนมสลับกับดอกบัวอ่อนช้อยสวยงาม  




หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา ก่อด้วยอิฐถือปูนปิดทอง ปางมารวิชัย
ภายใต้ซุ้มเรือนแก้ว อายุมากกว่า ๓๒๐ ปี ประดิษฐานในวิหารโถง หรือ ศาลาดิน


หลวงพ่อเพชร  พระพุทธรูปปางไสยาสน์ (ปางสุบินนิมิต)
ขนาดยาว ๕ ศอก ๑ คืบ ๕ นิ้ว อยู่ด้านหลังซุ้มเรือนแก้วหลวงพ่อโต


มีพระยิ้มและพระหน้าบึ้ง ประดิษฐานอยู่ด้านหน้า
ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกันมาก


โกศพญากราย ก่อด้วยอิฐฉาบปูนรูปแบบโกศโถทรงกระบอกกลมปากผาย
บรรจุอัฐิพระเถระมอญที่อพยพเข้ามาจากเมืองเมาะตะมะ เมื่อราว ๒๐๐ ปีก่อน  
ลักษณะโกศมีขนาดใหญ่ สร้างตามรูปแบบศิลปะแบบมอญผสมไทย
ประดับลวดลายปูนปั้นและประดับกระจกอย่างประณีตงดงาม
สะท้อนถึงความเป็นอริยสงฆ์ ศูนย์รวมแห่งศรัทธาสักการะของผู้คนในสมัยนั้นเป็นอย่างดี


เมื่อคราวที่เมือง "สามโคก" นี้จะได้รับพระราชทานนามว่า “ประทุมธานี”
จากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒
พระสุนทรโวหาร (ภู่) กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้พรรณนาถึงพระองค์
ดังความปรากฏในนิราศภูเขาทอง เมื่อพุทธศักราช ๒๓๗๑ ว่า
“ถึงสามโคกโศกถวิลถึงปิ่นเกล้า
พระพุทธเจ้าหลวงบำรุงซึ่งกรุงศรี
ประทานนามสามโคกเป็นเมืองตรี
ชื่อปทุมธานีเพราะมีบัว”

นิราศข้างต้นเกิดขึ้นหลังแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยไม่นาน
และ กล่าวถึง “สามโคก” ซึ่งเป็นนามเมืองเก่า อันมีรากเหง้าความเป็นมาอย่างยาวนานกว่า ๓๘๕ ปี
ก่อนที่จะได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “ประทุมธานี” ด้วยเหตุที่เมืองนี้มีดอกบัวเหลือคณนา
และมีส่วนสำคัญต่อการรักษาวัฒนธรรมประเพณีอันประณีตลุ่มลึกและหลากหลาย
ในสังคมเมืองหลวงจนสืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าแก่ลูกหลานในปัจจุบัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
หลวงปู่บุญธรรม ญาณวโร วัดสามัคคียาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
ใบบุญ 0 1765 กระทู้ล่าสุด 03 มีนาคม 2559 19:04:51
โดย ใบบุญ
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 1487 กระทู้ล่าสุด 03 สิงหาคม 2560 13:44:48
โดย ใบบุญ
หลวงปู่บุญธรรม ญาณวโร วัดสามัคคียาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 681 กระทู้ล่าสุด 27 มกราคม 2563 15:48:12
โดย ใบบุญ
หลวงปู่หร่ำ เกสโร วัดกร่าง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
ใบบุญ 0 586 กระทู้ล่าสุด 10 พฤษภาคม 2563 08:49:29
โดย ใบบุญ
สักการะหลวงพ่อโต วัดโบสถ์ ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 219 กระทู้ล่าสุด 29 เมษายน 2566 17:21:58
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.555 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 08 เมษายน 2567 21:23:13