[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
30 เมษายน 2567 22:31:44 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานแม่โพสพ  (อ่าน 3998 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5469


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 20 ธันวาคม 2558 11:44:14 »

.


แม่โพสพ

สถาบันวิจัยข้าว กรมวิชาการเกษตร บันทึกเรื่องแม่โพสพไว้ว่า เสฐียรโกเศศ (ศาสตราจารย์ พระยาอนุมานราชธน นักปราชญ์และนักการศึกษาคนสำคัญของไทย) ให้ข้อวิเคราะห์ว่า การที่ผีหรือเทวดาประจำพืชพรรณธัญญาหารของชาติต่างๆ ในโลกมักเป็นเทวดาผู้หญิง คงเป็นเพราะข้าวเป็นสิ่งที่เลี้ยงชีวิตให้เจริญ เปรียบเหมือนมารดาที่เลี้ยงบุตร

ประเทศไทยเราเรียกว่า แม่โพสพ หรือเพี้ยนเป็น พสพ หรือ ประสพ ก็มี เข้าใจว่าโพสพเป็นคำเพี้ยนจาก ไพสพ ซึ่งเป็นเทพพิทักษ์ขุมทรัพย์ในดิน หรือมาจากคำว่า ไพสพราช ชื่อตราตำแหน่งดวงหนึ่งของเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการของโบราณ

ตำนานหรือนิทานเกี่ยวกับแม่โพสพ หรือแม่โคสก (อีสาน) มีเล่าต่อกันมาทุกภาค แตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละท้องถิ่น โดยแตกต่างกัน ๒ แนวคือ นิทานภาคกลางและภาคใต้จะมีเรื่องตรงกันแนวหนึ่ง อีกแนวหนึ่งเป็นนิทานภาคเหนือและภาคอีสาน

ตำนานแม่โพสพของภาคกลางและภาคใต้ เล่าว่า แม่โพสพเป็นเทวีแห่งข้าว มีพาหนะเป็นปลากรายทองและปลาสำเภา วันหนึ่งที่เมืองไพสาลี กลางสโมสรสันนิบาต มนุษย์ปรึกษากันว่าระหว่างพระพุทธเจ้าและแม่โพสพใครมีคุณมากกว่ากัน ที่ประชุมเห็นกันว่า คุณของพระพุทธเจ้าใหญ่กว่าแม่โพสพ

แม่โพสพได้ฟังดังนั้นก็ข้องใจว่ารักษามนุษย์อยู่ มนุษย์ไม่เห็นความดี จึงทรงปลากรายหนีไปยังป่าหิมพานต์เขาคชกูฏ เมื่อแม่โพสพจากไปก็เกิดความอดอยากขึ้นในโลกมนุษย์ ทำไร่ไถนาไม่มีข้าว มีแต่แกลบ มนุษย์จึงชวนกันไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้พระมาตุลีไปเชิญนางกลับ พระมาตุลีตามไปถึงเขาทบกันก็ไปไม่ได้ จึงใช้ให้ปลาสลาดไปตามต่อจนพบ

ปลาสลาดอ้อนวอนขอให้แม่โพสพกลับคืนโลก นางตอบว่า "อยู่ที่นี่เราสบาย ถ้าจะไปใจแม่หายเพราะเขาไม่รู้บุญคุณ แม่จะให้แต่เมล็ดข้าวไปดูแลฝูงคน เมื่อเก็บนึกถึงเรา เราจะไปปีละหน ตรวจดูผู้คนเก็บเกี่ยวแล้วให้ทำขวัญ" จากนั้นนางได้มอบเมล็ดข้าว ๗ เมล็ด (บ้างก็ว่า ๙ เมล็ด) ไปทำพันธุ์ และให้แม่เหล็ก ๑ อันสำหรับตั้งพร้า นางยังสั่งด้วยว่า มนุษย์ทำไร่ไถนา เมื่อข้าวใกล้สุกก็ให้จัดพิธีทำขวัญข้าว และด้วยที่ปลาสลาดเป็นผู้บอกทางที่นางซ่อนแก่พระมาตุลี

นางจึงสั่งให้นำปลาสลาดมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวยด้วย ปลาสลาดก็ลากลับมาเล่าให้พระมาตุลีฟังตามคำแม่โพสพ

พระมาตุลีรับเมล็ดข้าวแล้วเหาะกลับ ระหว่างทางหยุดพักอาบน้ำ นกกระจาบมาแอบลักเมล็ดข้าวสองเมล็ดบินหนี ข้าวสองเมล็ดตกลงมายังโลกมนุษย์กลายเป็นข้าวผี พระมาตุลีนำเมล็ดข้าวพันธุ์ข้าวถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกมนุษย์มาพร้อมกัน ทรงอธิบายให้มนุษย์ฟัง และแจกเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ ตั้งแต่นั้นมาเมื่อข้าวใกล้สุกมนุษย์จะทำขวัญเชิญแม่โพสพเป็นประจำทุกปี



ตำนานแม่โพสพของภาคเหนือและภาคอีสาน เสฐียรโกเศศระบุว่ามี ผู้จารึกไว้ในใบลานด้วยอักษรธรรมที่วัดศรีภูมิ บ้านนาหอ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ว่า

นานมาแล้ว พญาวิรูปักขาเป็นผู้ให้กำเนิดข้าว ต่อมาสมัยพระพุทธเจ้า ผู้มีพระนามว่า กุกกุสันโท ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์แรก มีผู้นำเอาข้าวมาเลี้ยงคนและสัตว์ในชมพูทวีป ปรากฏว่าข้าวในสมัยนั้นเมล็ดใหญ่โตมาก มีกลิ่นหอมและรสอร่อย แต่เมื่อจะกินต้องใช้มีดพร้า ผ่ามานึ่งกิน ต่อมาถึงพระพุทธเจ้าผู้มีพระนามว่า โกนาคมโน เมล็ดข้าวก็เล็กลงบ้าง แต่ยังมีกลิ่นหอมและรสอร่อยเหมือนเช่นเคย

ในสมัยต่อมามีหญิงชราม่ายคนหนึ่งเคยมีสามีถึง ๗ คน สามีตายหมดต้องอยู่คนเดียว ทั้งไม่มีลูกหลานจะพึ่งพาอาศัย คราวหนึ่งขณะนางกำลังทำยุ้งข้าวอยู่ เมล็ดข้าวก็พากันบินหลั่งไหลมารวมกัน ณ ใต้ถุนบ้านของนาง แม่ม่ายโกรธมากที่เมล็ดข้าวมามากมาย เพราะนางยังทำยุ้งไม่เสร็จ นางจึงเอาไม้ขนาดใหญ่ตีเมล็ดข้าวเหล่านั้นให้แตกกระจายเป็นซีกเล็กๆ

ข้าวตกใจพากันไปอยู่ตามเถื่อน (ป่า) ถ้ำ และหนอง ชาวบ้านให้ชื่อข้าวว่านางโพสพ และข้าวนั้นไม่กลับมาหามนุษย์อีก ผู้คน พากันอดข้าวเป็นเวลานานถึงพันปี

กระทั่งมีลูกเศรษฐีคนหนึ่งไปเที่ยวป่าหลายวัน อดอาหาร จึงเอาเหล็กแทงลงไปในน้ำเพื่อหาปลา เหล็กแทงไปถูกปลาไหลทองตัวหนึ่งจนท้องแตกกระจายไปทั่ววังน้ำ พญาปลากั้ง (คล้ายปลาช่อน) ตัวหนึ่งมาพบเข้าจึงอ้อนวอนขอแลกปลาไหลทองด้วยนางโพสพ คือข้าว ลูกเศรษฐีตกลง พญาปลากั้งจึงเรียกนางโพสพ คือข้าว มาหาและมอบให้ลูกเศรษฐีไป แต่นางโพสพขัดขืน ไม่อยากไปเมืองมนุษย์เพราะกลัวถูกตีอีก

กระทั่งเทวดา ๒ องค์ เนรมิตปลาและกวางทองมาช่วยพูด ขอให้นางโพสพไปอยู่เมืองมนุษย์เพื่อเลี้ยงคนและสืบพระศาสนา นางโพสพเห็นเป็นเทวดาก็ไม่อาจ ขัดได้จึงตกลงไปกับลูกเศรษฐี พอมาถึงพระพุทธเจ้าพระนามว่า กัสสโป เมล็ดข้าวก็เล็กลงมาอีกและมีกลิ่นหอมและรสอร่อยเช่นเดิม จนถึงพระพุทธเจ้าที่ทรงพระนามว่า โคตโม เมล็ดข้าวเล็กลงอีกมีกลิ่นหอมและรสอร่อยเช่นเคย

ต่อมามีพญาองค์หนึ่งเสวยราชเป็นกษัตริย์อธรรม เกิดฝนแล้ง ผู้คนอดอยาก พญาองค์นั้นได้ทำยุ้งฉางหลวงข้าวไว้แจกจ่าย ประชาชนจึงมาขอรับข้าวไปแลกของกินและสิ่งของต่างๆ และขายเอาเงินมาใช้ ข้าวโกรธจึงหนีไปอยู่ในหนองอีก

ใกล้กันนั้นพระฤๅษีตนหนึ่งพำนักอยู่ ประชาชนอดอยากอยู่สามร้อยปี ล้มตายกันทั้งเมือง ยังเหลือแต่ตายายผัวเมียที่เข้าป่าไปหาพระฤๅษีเพื่อขออาหาร และเล่าถึงความอดอยากให้พระฤๅษีฟัง พระฤๅษีจึงเรียกนางโพสพ หรือข้าว มาหาแล้วมอบให้สองเฒ่า ชั้นแรกนางโพสพไม่ยอมไป พระฤๅษีจึงบอกคาถาให้สองเฒ่าเสกใส่นางโพสพ นางโพสพถูกคาถาจึงต้องไปยังเมืองมนุษย์อีก

และพระฤๅษียังเสกข้าวชนิดต่างๆ ให้สองเฒ่านำไปปลูก คราวแรกต้นเหี่ยวตาย สองเฒ่าจึงแต่งเครื่องขวัญเรียกวิญญาณนางโพสพ และเอาคาถาที่พระฤๅษีบอกให้มาเสกใส่น้ำนำไปรดต้นข้าว ต้นข้าวงอกงามดี และเมล็ดข้าวแตกออกเป็นเมล็ดเล็กมากมาย

สองเฒ่าจึงเอาเมล็ดข้าวแจกจ่ายไปยังบ้านเมืองต่างๆ แนะนำวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับข้าวด้วย เช่น ให้ทำบุญคูณลาน เมื่อนวดข้าวกองไว้ที่ลาน และทำพิธีเรียกขวัญข้าว หรือเจ้าแม่โพสพด้วย สองเฒ่าอายุยืนถึงพันปีจึงถึงแก่กรรม ส่วนพันธุ์ข้าวก็แพร่หลายไปตามบ้านเมืองต่างๆ อย่างกว้างขวางตลอดมาจนตราบเท่าทุกวันนี้




ที่มา (เรื่อง-ภาพ) : หนังสือพิมพ์รายวันข่าวสด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.423 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 14 เมษายน 2567 17:32:09