พระพุทธรูปประธานภายในวิหาร
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง
ภาพเขียนหน้าบันหน้าพระวิหาร
วิถีการดำรงชีวิตของคนไทยสมัยโบราณที่มีวัฒนธรรมเรียบง่าย จิตใจผูกพันกับพระศาสนา
จะเห็นได้ว่าชายไทยตัดผมสั้น นุ่งโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อ บางคนมีผ้าคล้องคอ
ส่วนผู้หญิงไว้ผมมีจอน นุ่งซิ่น ห่มสไบ ซึ่งลักษณะการแต่งกายดังกล่าว
เป็นวัฒนธรรมไทยสมัยอยุธยาตอนปลาย สอดคล้องกับตำนานการสร้างวัด
ที่กล่าวว่าสร้างในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (ไม่เกินรัชกาลที่ ๔)
ภาพเล่าเรื่องพระมาลัยเสด็จไปโปรดสัตว์นรกในนรกภูมิ
ภาพนี้ จารึกข้อความกำกับภาพ ว่า "พระนอนองค์นี้ นายสวย สร้างไว้ในพระศาสนาฯ"
พระพุทธองค์ประทับนั่งทับบนบัลลังก์นาคขนด ซึ่งแผ่พังพานปกป้องพระพุทธองค์
ในสระขนาดใหญ่แวดล้อมด้วยพญานาคและเหล่าฝูงปลา ทรงพิจารณาธรรม
เหล่าสัตว์ทั้งหลายในโลก อุปมาเปรียบกับดอกบัว ๓ เหล่า
(ต่อมาภายหลังมีผู้กำหนดเพิ่มอีก ๑ เหล่า รวมเป็น ๔ หล่า)
เจดีย์ มีลักษณะเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนขนาดใหญ่
ตั้งอยู่บนฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เหนือขึ้นไปเป็นฐานสิงห์ซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป
ส่วนเรือนธาตุก่อเป็นซุ้มโค้งแหลม มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายในซุ้มทั้งสี่ด้าน
องค์ระฆังมีขนาดเล็ก ตั้งแต่เหนือชั้นฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสรองรับองค์เจดีย์ขึ้นไป
จนถึงบัลลังก์ขององค์ระฆัง โดยย่อมุมด้านละ ๓ มุม ทั้งสี่ด้าน ส่วนเหนือบัลลังก์ขึ้นไป
เป็นบัวกลุ่ม และปลียอดตามลำดับ
พระอุโบสถหลังปัจจุบันก่อสร้างเป็นครั้งที่สามในที่แห่งเดียวกัน เนื่องจากอุโบสถเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม
หน้าบันด้านหน้าพระอุโบสถประดับพระนามาภิไธยย่อ “ส.ก.” ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ได้โปรดพระราชทานก่วัด เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๒๖