[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
30 เมษายน 2567 02:36:33 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: the reason of travel to die  (อ่าน 2267 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 01 เมษายน 2553 11:39:06 »

http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif
the reason of travel to die

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae3"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva3"><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/allhits/18.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc3"></td></tr></table>

ฉันและทุกคนตายกันทุกวันอยู่แล้วไม่โดนฆ่าทิ้งมันก็แปรไปเป็นอื่นอยู่แล้ว
ทั้งสภาพร่างกาย สภาพจิตใจและความรู้สึกนึกคิดไม่มีซ้ำตัวเดิมเลยสักวันที่สืบ ๆ ต่อมาเรื่อยคือความเข้าใจผิด
คิดว่าแต่ละวันเป็นทุกข์ตัวเดียวกันและสำคัญว่าจะเป็นทุกข์ตลอดไปเท่านั้นดับความเข้าใจผิดเสียได้ ความทุกข์ก็ดับ
ตามไปด้วยเดี๋ยวนั้นเอง
พ่อครับ ทำไมคุณตาถึงต้องตายด้วยล่ะครับ?เป็นธรรมดาของพวกเราทุกคนน่ะลูก ถึงเวลาตายก็ต้องตาย
อ๊อดก็ต้องตายเหรอครับ ? ต้องตายเหมือนกัน แต่อ๊อดยังเด็กอยู่ กว่าจะแก่และถึงเวลาตายเท่าคุณตายังอีกนาน
แล้วเมื่อไหร่คุณตาจะตื่น เห็นนอนอยู่ในโลงตั้งหลายวันแล้ว?ถ้าตายก็ไม่ตื่นแล้วล่ะลูก ต้องอยู่ในโลงอย่างนั้นตลอดไป
ตกลงต้องตายทุกคนเลยหรือครับ ? ใช่ลูก เป็นอย่างนั้น คนทุกคนที่ลูกเห็นจะต้องตายกันหมด
พ่อครับ ทำไมทุกคนต้องตายด้วยล่ะครับ?
อ๊อดเพิ่งเห็นคนตายน่ะลูก ความตายเลยเป็นของแปลกใหม่ต่อไปอ๊อดจะเห็นคนตายมากขึ้น แล้วลูกจะรู้ว่าเป็นของธรรมดา อ๊อด
ดูเศษใบไม้แห้งบนพื้นนั่นสิ เห็นไหม ตอนนี้มันเป็นสีเหลือง แต่ก่อนมันเป็นสีเขียวเหมือนที่อยู่บนต้นนะ พอถึงเวลามันก็ต้องทิ้งตัวเองลง
จากกิ่งก้านมารวมกันบนพื้น เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลือง ร่างกายคนเราก็เหมือนกัน วันนี้ดูสดใสมีชีวิตชีวา แต่วันหนึ่งก็ต้องแห้งลง
แล้วหายไปจากโลกนี้เช่นเดียวกับใบไม้ตกพื้น..................................

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 เมษายน 2553 12:27:27 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 01 เมษายน 2553 11:43:37 »

http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif
the reason of travel to die


คนเหมือนใบไม้ได้ไง แล้วทำไมคนต้องตายด้วยล่ะ ?เพราะเหมือนใบไม้ไงลูก วันหนึ่งก็ต้องร่วงหล่นลงดินและกลายเป็นพวกเดียวกับดิน ไม่มีใครกำหนดหรอกว่าทำไม ทุกสิ่งทุกอย่างต่างมีสภาพที่ต้องเสื่อมสลายกลายเป็นอื่นไปทั้งนั้น คุณตารู้ตัวไหมว่าจะตาย ? รู้ซีคุณตารู้ล่วงหน้านานทีเดียวเตรียมตัวยกสมบัติให้แม่
ของอ๊อดตั้งแต่อ๊อดยังไม่เกิดแน่ะรู้ก่อนตายแล้วทำไมคุณตาไม่หนีล่ะ ?จะไปหนียังไงลูกเอ๋ย ถ้าโจรมาไล่ฆ่าเรา เราอาจใช้สองเท้า
วิ่งหนีได้ แต่ถ้าร่างกายจะฆ่าตัวเอง แม้แต่เท้าก็ยกไปไหนไม่ไหวแล้วถ้าคนเราต้องตาย แล้วจะเกิดมาทำไมล่ะครับ?เพราะยังติดค้างอยู่กับความไม่รู้งัยลูก คนเราเกิดมาเพื่อเรียนรู้เหมือนอย่างที่ลูกอ๊อดถามพ่อเพื่อให้รู้คำตอบอยู่นี่ไง แต่ถ้ายังติดค้าง
ยังไม่รู้แจ้ง ก็ต้องเกิดใหม่มาถามใหม่อีก คนเราเกิดมาเพราะยังติดค้างอยู่กับความไม่รู้ฉันเฝ้าแต่เก็บงำความสนใจและสงสัยใคร่รู้คำตอบว่าชีวิตเรา
ควรรู้อะไรมากที่สุดไว้ในใจ แล้วโอกาสก็มาถึง ในงานวันเผาคุณตาน้องอ๊อด บรรยากาศในวัดทำให้ฉันไม่รู้สึกกระดากนักกับการกระแซะ
เข้าไปถาม โดยเกริ่นตามตรงว่าฉันเคยได้ยินแกตอบคำถามลูกเสมอและบางคำตอบน่าสนใจมาก เช่นคนเราเกิดมาเพราะติดค้างอยู่กับ
ความไม่รู้ เลยต้องมาเรียนรู้ ทีนี้ฉันอยากรู้ว่าที่ไม่รู้นั้นคืออะไร แล้วที่ควรรู้นั้นคืออะไรมนุษย์ทุกคนไม่รู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองครับ
ฉันถามว่าถ้ารู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองแล้วจะได้อะไร ?คุณพ่อน้องอ๊อดตอบด้วยความมั่นใจว่าได้รู้ด้วยตนเองว่าหมดความติดค้าง เหมือนคนที่ชำระหนี้
หมด ไม่จำเป็นต้องหาเงินมาจ่ายเพิ่ม หรือเหมือนคนที่ทำงานใช้โทษในบ่อน้ำครำจบสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลับลงมาลงน้ำโสโครกอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 เมษายน 2553 12:00:03 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 01 เมษายน 2553 11:48:05 »

http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif
the reason of travel to die


กับคำถามว่าต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับตัวเองให้ละเอียดลออทุกแง่มุมเลยไหม เพื่อนบ้านผู้ทรงภูมิให้คำตอบคือ
รู้นิดเดียวครับ ไม่ต้องมากหรอก คือรู้ว่ากายใจนี้ไม่เที่ยงเกิดแล้วต้องดับลงเป็นธรรมดา เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของใคร เพียงมี
อะไรมาประกอบประชุมเป็นรูปเป็นร่างชั่วคราวคล้ายแผ่นเหล็ก ล้อยาง เครื่องยนต์เข้ามารวมรูปร่างขึ้นเป็นรถเก๋ง แต่พอหมดอายุก็ถูก
ถอดเป็นชิ้นๆ แบบต่างคนต่างไป มองไม่เห็นรูปรถเก๋งคันเดิมในชิ้นส่วนใด ๆ อีก
ใจฉันวาบว่างไปชั่วขณะเมื่อจินตนาการเห็นความว่างเปล่าไร้แก่นแท้ของรถยนต์ ถึงกับอึ้งเงียบเป็นครู่ก่อนถามต่อ คือสงสัยว่า
เมื่อฉันรู้สึกว่ากายใจเป็นของว่างเปล่าเหมือนรถยนต์ที่ปราศจากตัวตนอย่างนี้แล้วถือว่าพอหรือยัง ครูทางธรรมคนแรกของฉันก็ตอบว่า
ไม่พอหรอกครับ รู้แค่นี้เรียกว่าเป็นปัญญาจากการฟัง และปัญญาจากการจินตนาการตาม ยังเป็นปัญญาในระดับคิด ๆ ไม่ใช่
ปัญญาเห็นจริงประจักษ์แจ้งด้วยจิตฉันจึงถามว่าทำอย่างไรจะรู้แจ้งได้ด้วยจิตต้องปฏิบัติธรรมตามหลักสติปัฏฐาน 4 ครับ คือเราย้ายที่ตั้งของสติจากการงานและการเล่นในชีวิตประจำวัน เปลี่ยนมาเป็นอีกที่ตั้งหนึ่งคือกายใจนี้ คอยตามระลึกรู้ว่ากายใจนี้ไม่เที่ยง เห็นชัดว่า
อะไรอย่างหนึ่ง ๆ เช่นลมหายใจหรืออารมณ์สุขทุกข์ มีธรรมดาเกิด ขึ้นแล้วต้องดับลงเป็นธรรมดา แม้แต่ความลังเลสงสัยอยากรู้คำตอบของ
น้องในเวลานี้ก็มีขณะของการเกิดขึ้น เมื่อได้คำตอบก็จะดับลงเช่นกันหรือถ้ายังสงสัยอยู่ มีความคาใจอยู่ ก็ต้องแปรปรวนไป อาจอ่อนตัวลงหรือเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม พอเห็นความไม่เที่ยงในกายใจเสมอ ๆ จิตก็เลิกยึดมั่นสำคัญผิด เลิกมองว่าสิ่งนั้น ๆ เที่ยง เลิกหลงเขลาว่าสิ่งนั้น
เป็นตัวเป็นตน พอเห็นอย่างต่อเนื่องมากเข้าจิตก็ขาดจากอุปาทานที่ครอบงำมาแต่อ้อนแต่ออก เรียกว่าบรรลุมรรคผล มีดวงตาเห็นธรรม
เป็นอริยบุคคลของพุทธศาสนา............................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 เมษายน 2553 12:00:25 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 เมษายน 2553 11:51:36 »

http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif
the reason of travel to die


ฉันจึงยิงคำถามถัดมาคือ จะทราบได้อย่างไรว่าเรารู้สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรรู้แล้วหรือยัง? วาระนั้นอะไรจะเป็นตัวบอก ว่าเราไป
ถึงแก่นของพระศาสนาแล้ว ? พระพุทธเจ้าตรัสว่าถ้าใครเข้าป่าหาแก่นไม้ แต่ไปเจอกิ่งใบ
เจอสะเก็ด เจอเปลือก เจอกระพี้ ก็อาจสำคัญว่าเป็นแก่น เพราะไม่ทำความรู้จักแก่นให้ดีเสียก่อน เลยได้สิ่งที่ไม่ใช่แก่นติดมือกลับบ้าน
ลาภและสรรเสริญเปรียบเหมือนกิ่งใบ ศีลเปรียบเหมือนสะเก็ด สมาธิเปรียบเหมือนเปลือก ญาณหยั่งรู้ต่าง ๆ เปรียบเหมือนกระพี้ แต่แก่น
สารที่แท้จริงคือความหลุดพ้นแห่งใจ ชนิดไม่กลับกำเริบอีก สรุปคือถ้าเรายังไม่รู้จักภาวะของใจที่หลุดพ้นเด็ดขาด ก็ยังไม่ได้ชื่อว่าเรารู้สิ่ง
สำคัญที่สุดที่ควรรู้ เหมือนสายน้ำที่ปะทะใจครืนโครม ดวงตาฉันตื่นเต็มกับคำว่า ความหลุดพ้นแห่งใจแบบไม่กลับกำเริบอีก
คือแก่นสารที่แท้จริง ชีวิตเป็นสิ่งไม่ควรประมาท จะตายเมื่อใดไม่อาจพยากรณ์มัจจุราชมักมาถึงตัวโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ถ้าวันนี้ยังมีกำลังก็ควร
ทำกิจที่คิดว่าควรทำที่สุด ทำแล้วคุ้มกับการเกิดมากที่สุด เพื่อจะไม่เสียใจในภายหลังว่าวันสุดท้ายมาถึงแล้วยังไม่ใช้โอกาสทองให้สมค่า
จากการศึกษาเรื่องกรรมอย่างละเอียด ฉันเชื่อว่านิสัยจะเป็นสิ่งติดตัวข้ามภพข้ามชาติ มนุษย์เป็นภูมิมีศักยภาพในการสร้างนิสัย สั่งสมไว้อย่างไรก็ได้สมบัติติดตัวไปสร้างตนอย่างนั้น นิสัยที่ฉันจะสร้างต่อไปนี้คือเชื่อพระพุทธเจ้า ศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างละเอียดเหมือนทุกคำเป็นทองที่ไม่อาจปล่อยปละให้ตกหล่น“กรรมจะพยายามรักษาเราไว้กับทางเดิม อย่างเช่นที่พระพุทธองค์ตรัสว่า พวกเรามีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ฉันปลงใจเชื่อว่าสร้างนิสัยไว้อย่างนี้เป็นอาจิณ หรือที่เรียกว่าอาจิณณกรรม หากมีโอกาสเกิดใหม่เป็นมนุษย์ อาจิณณกรรมที่ทำ
ไว้ในชาตินี้ย่อมส่งให้ไปเกิดกับพ่อแม่แบบนี้ มีเหตุปัจจัยแวดล้อมตั้งแต่วัยเด็กส่งเสริมให้เข้าลู่ทางของความเป็นเช่นนี้ รวมทั้งมีกำลัง
กายและแรงบันดาลใจให้มุ่งมั่นเพียรเพื่อหลุดพ้นอย่างเอาจริงเอาจังเช่นนี้อีก..................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 เมษายน 2553 12:01:03 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 เมษายน 2553 11:57:25 »

http://img258.imageshack.us/img258/2079/b9ab7a531c95a34032f1ddd.gif
the reason of travel to die


เนื้อหาสำคัญของพุทธศาสนาในสายตาของฉันนั้น ต้นสุดคือให้มาเอา ไม่ใช่มาทิ้ง แต่ยอดสุดคือให้ไปทิ้ง ไม่ใช่ไปเอา
เบื้องต้นพุทธศาสนาให้มาเอาอะไร? ให้มาเอาบุญเพื่อให้ตาสว่างเห็นความจริง ยิ่งบุญมากเท่าไร จิตยิ่งต้องเห็นความจริงชัด
ขึ้นเท่านั้นเบื้องปลายพุทธศาสนาให้ไปทิ้งอะไร? ให้ไปทิ้งความยึดมั่น
ถือมั่น ด้วยมรรคาคือทางที่พระพุทธองค์ปูไว้ให้แล้วพร้อมสรรพเป้าหมายของฉันไม่ใช่เพื่อเอา แต่เพื่อทิ้ง
ทิ้งอะไร? ดูดี ๆ แล้วก็คือ ทิ้งทุกข์ ทิ้งสัมภาระพะรุงพะรังทั้งปวงนั่นเอง คนเราพากันหวงทุกข์ไว้ กอดทุกข์ไว้แนบอก แบก
ทุกข์ ไว้หลังแอ่นยังไม่รู้ตัว มีคนบอกให้ทิ้งยังร้องอีกว่าเรื่องอะไรจะทิ้งหรืออย่างดีก็ถามว่าทำไมต้องทิ้ง
มองไม่เห็นเหตุผลสมควรเลยเวลาคนเราทุกข์หนัก ก็มักปักใจเชื่อว่าไม่สามารถผ่านความทุกข์นั้น ๆ ไปได้เผลอ ๆ อาจทึกทักว่าวันเวลาที่เหลืออีกทั้งชีวิตคงต้องจมปลักอยู่อย่างนี้ ทั้งที่จริงแล้วถ้าแค่หยุดเพิ่มเหตุแห่งทุกข์ ทางใจเข้าไป ความทุกข์ก็จะแสดงความไม่เที่ยง ไม่อาจตั้งอยู่ได้เกือบทันที
เหตุแห่งทุกข์ทางใจที่ว่านั้นก็คือ อาการครุ่นคิดซ้ำซากนั่นเองเพียงถ้ารู้ด้วยสติ เห็นตามจริงว่าอาการครุ่นคิดซ้ำซาก ก็แค่ของจร
เข้ามา ไม่ได้มีอยู่ก่อนในใจ และไม่อาจคงสภาพคิด ๆ ๆ ได้ตลอดโดยไม่แปรปรวนไปเป็นระดับอ่อนแก่ต่าง ๆ เท่านั้น ก็ได้ชื่อว่าเหตุแห่งทุกข์
ถูกจับได้ไล่ทัน ถูกแทรกแซง ถูกแทนที่แล้ว................................................


.......................................THE END....................................

......................................จากหนังสือ ณ. มรณา โดย dungtrin..................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 เมษายน 2553 12:01:42 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
the best beautiful chinese song 2011 (The reason to let you go)
หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
เงาฝัน 2 2593 กระทู้ล่าสุด 14 กรกฎาคม 2555 12:52:01
โดย เงาฝัน
REASON OF FAITH เหตุผลของความศรัทธา(ดร.กฤษดาวรรณ หงศ์ลดารมภ์)
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1062 กระทู้ล่าสุด 27 มิถุนายน 2559 04:14:34
โดย มดเอ๊ก
[ไลฟ์สไตล์] - เที่ยวสงกรานต์ปลอดภัย ภายใต้แนวคิด TRAVEL WITH CARE
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 278 กระทู้ล่าสุด 05 เมษายน 2565 15:43:19
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ไลฟ์สไตล์] - Travel The World with Nespresso x Le Du ท่องมหานครแห่งกาแฟผ่านไฟน์ไดนิ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 270 กระทู้ล่าสุด 07 เมษายน 2565 14:35:00
โดย สุขใจ ข่าวสด
[การเงิน] - Krungthai Travel UnionPay Debit Card เปิดฟีเจอร์จ่ายเงินผ่าน QR
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 180 กระทู้ล่าสุด 10 มิถุนายน 2565 19:11:01
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.215 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 20 กุมภาพันธ์ 2567 06:47:29