[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 14:04:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: กำเนิดและคาถาอาราธนา "ลูกประคำ"  (อ่าน 10489 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2304


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 มีนาคม 2559 20:21:00 »

.



ลูกประคำ
ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ปี พ.ศ.2542 ได้ให้คำนิยาม "ลูกประคำ" ไว้ว่า เป็นลูกกลมๆ ที่ร้อยเป็นพวง สำหรับเป็นเครื่องหมายการนับในเวลาบริกรรมภาวนาหรือสำหรับใช้เป็นเครื่องราง

และในสารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 17 ได้เขียนอธิบายเกี่ยวกับ "ลูกประคำไทย" ว่า แต่เดิมใช้วิธีนับจำนวนคำด้วยนิ้วมือ แล้วต่อมาใช้เป็นเครื่องอาภรณ์ประดับกายที่ใช้คล้องคอหรือข้อมือ

สำหรับวัตถุที่ใช้ทำเม็ดประคำนั้น มีหลายอย่างสุดแต่ผู้ใช้และฐานะของผู้ใช้ ซึ่งใครนับถือลัทธินิกายหรือศาสนาใดก็จะประดิษฐ์ขึ้นตามคตินิยมของตน ทั้งจำนวนเม็ดลูกประคำก็มีมากน้อยไม่แน่นอน บางศาสนามีจำนวนถึง 1,008 เม็ดก็มี สำหรับให้นักบวชหรือเจ้าพิธีทางศาสนาใช้ในการบริกรรมภาวนา โดยเชื่อถือกันว่าเป็นเครื่องยั้งจิตใจให้เข้าสู่ภาวนาสมาธิ เพื่อฝึกจิตตานุภาพให้แข็งแรง อดทนต่อการก่อกวนแห่งกิเลสทั้งปวงที่มีให้พ้นไป

สายประคำ หรือที่เรียกกันว่า "ลูกประคำ" นี้ มีต้นกำเนิดมาจาก "พระปัทมสัมภวะ" ผู้เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธในเนปาล ภูฏาน และทิเบต เป็นอย่างมาก ได้รับการยกย่องว่าเป็น "กูรูรินโปเช (Guru Rinpoche)" ซึ่งแปลว่า อาจารย์ผู้ประเสริฐ ผู้นำพระพุทธศาสนาวัชรยานเข้าสู่ดินแดนทิเบตในศตวรรษที่ 8 เชื่อกันว่าท่านเป็นวัชรนิรมาณกายของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั่วทุกทิศ

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อครั้งไปบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำทองสัมทุนดา (Tongsum Tunda) เมืองกัฟเรแพลนโช้ก ขณะบำเพ็ญสมาธิใต้ต้นโพธิจิตก็เริ่มคิดที่จะสร้างเครื่องมือนำทางให้คนในท้องถิ่นที่เลื่อมใสพุทธศาสนาได้พบความสงบแห่งจิตใจ มีความสุข และมั่งคั่งด้วยปัญญาและความรู้แจ้ง ท่านจึงได้ประดิษฐ์สิ่งใหม่มอบเป็นของขวัญพิเศษแก่ผู้สนใจการปฏิบัติภาวนา

โดยนำเมล็ดของ "ต้นโพธิจิต" ต้นไม้ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่เนปาล ลักษณะเป็นเม็ดกลมสวยงามมาร้อยเป็นสายแล้วผูกปลายเป็นวง ให้ชาวพุทธใช้เป็นหลักยึดในขณะสวดมนต์ ศรัทธาแห่ง "สายประคำ" หรือ "ลูกประคำ" จึงเป็นเสมือนแหล่งรวมสมาธิที่ตั้งของจิตตภาวนา

ชาวพุทธมหายานจะนับลูกประคำไปด้วยในขณะสวดมนต์ ไม่ว่าจะเปล่งเสียงสวดมนต์ออกมาหรือสวดในใจ บางครั้งก็เอ่ยพระนามเทพเจ้าที่เคารพศรัทธา การนับจำนวนรอบที่ได้สวดไปแล้วช่วยให้จิตจดจ่อและมั่นคงอยู่กับบทสวดมนต์ โดยจำนวนลูกประคำนั้น มีมาตรฐานว่า หนึ่งสายจะร้อยด้วยลูกประคำจำนวน 18, 27, 54 หรือ 108 เม็ด แต่ส่วนใหญ่จะเป็น 108 เม็ด ตามความเชื่อของทั้งพุทธและพราหมณ์

ลูกประคำแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระสงฆ์บางรูปทางภาคเหนือก็นิยมใช้ประคำในการเจริญภาวนา เช่น ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา, ครูบาพรหมา พรหมจักโก วัดพระพุทธบาทตากผ้า ฯลฯ แต่ตามความหมายและความรู้สึกของนักนิยมสะสมพระเครื่องและเครื่องรางของขลังนั้น จะมีความหมายนอกเหนือไปจากคำจำกัดความดังกล่าว โดยนิยามความหมายและความเชื่อว่า "ลูกประคำ" เป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่นิยมพกพาหรือคล้องคอ เพื่อขอพุทธานุภาพในการคุ้มครองป้องกันภัย และป้องกันการกระทำคุณไสยต่างๆ เป็นต้น

"ลูกประคำ" นั้น ตามตำรับโบราณจะต้องใช้ว่านมงคล 108 มาบดผสมกับเครื่องยาจินดามณีครั้งหนึ่งก่อน จึงโยงยึดด้วยรักหรือปูน แล้วเจาะรูตรงกลาง นำเอาแผ่นเงินหรือแผ่นทองมาลงอักขระม้วนเป็นตะกรุด เสียบเข้าไปเป็นแกนกลางสำหรับร้อยเชือก ส่วนเชือกนั้นต้องใช้ไหมเจ็ดสีมาฟั่นเป็นเชือกร้อยตรงปลายสุด ปั่นให้ฟูและถักเป็นพู่ให้สวยงาม หรือโดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้กะลามะพร้าว ตาเดียว งาช้าง (งากำจัด) เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมูตัน หรือเขี้ยวจระเข้ นำมากลึงให้เป็นรูปกลมแล้วเจาะรูตรงกลาง

ในปัจจุบันวัสดุที่ใช้ทำ "ลูกประคำ" ยังมี ไม้จันทน์ หยก พลาสติก ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับจิตใจ เจตนา และความแน่วแน่ของผู้ใช้- ผู้ภาวนา ก็จะสัมฤทธิผลในการเจริญสมาธิภาวนา ได้เมตตา แคล้ว คลาด และคุ้มครองป้องกันภัยทั้งสิ้นครับผม

คาถาอาราธนา ตั้งนะโม 3 จบ ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์

ก่อนจะนำติดตัวให้ว่า "สาธุ พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง อุกาสะ อาราธนานัง อิมังกายะพันธะนัง อธิฏฐามิ"


พันธุ์แท้พระเครื่อง
 ราม วัชรประดิษฐ์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2304


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 29 มีนาคม 2559 19:11:18 »

.

ลูกประคำยอดบายศรี หลวงปู่ศุข

"ลูกประคำ" ในทางพระพุทธศาสนา ผูกขึ้นโดยถือตามจำนวนพุทธคุณ 56 ธรรมคุณ 38 และสังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 หรือหากถือตามเทวดานพเคราะห์ ซึ่งพระเคราะห์แต่ละองค์มีกำลังไม่เท่ากัน แต่เมื่อนับรวมเข้าด้วยกันก็ได้ 108 เช่นกัน ลูกประคำจึงมักนิยมใช้จำนวน 108 เม็ด ซึ่งถือเป็นมงคลอันสูงสุด

โดยนับตามตัวอักษรดังนี้

พระพุทธคุณ "อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ ระ หัง สัม มา สัม พุท โธ วิช ชา จะ ระ ณะ สัม ปัน โน สุ คะ โต โล กะ วิ ทู อะ นุต ตะ โร ปุ ริ สะ ทัม มะ สา ระ ถิ สัต ถา เท วะ มะ นุส สา นัง พุท โธ ภะ คะ วา ติ"

นับได้ 56 คำ

พระธรรมคุณ "สฺวาก ขา โต ภะ คะ วะ ตา ธัม โม สัน ทิฏ ฐิ โก อะ กา ลิ โก เอ หิ ปัส สิ โก โอ ปะ นะ ยิ โก ปัจ จัต ตัง เว ทิ ตัพ โพ วิญ ญู หี ติ"

นับได้ 38 คำ

พระสังฆคุณ "สุ ปะ ฏิ ปัน โน ภะ คะ วะ โต สา วะ กะ สัง โฆ"

นับได้ 14 คำ

สำหรับ "ลูกประคำ" ที่นิยมใช้กันในพิธีกรรมของไทยแต่โบราณ จะแยกออกเป็นของหลวงและของราษฎร์ "ลูกประคำของหลวง" ใช้พระราชทานเมื่อไปทัพ มีหลายชนิด ทำด้วยทองคำ แก้ว หิน และยางไม้กาเยน (ยางไม้ชนิดหนึ่งสีเหลืองแก่ คล้ายอำพัน) จำนวนลูกประคำก็มีตั้งแต่ 105, 107, 108 และ 115 เม็ด ส่วนพวงลูกประคำจะมีสายทิ้งเป็นสายทองหรือสายไหม มีลูกประคำ 3 เม็ด ขนาดลดหลั่นกันดังรูปเจดีย์ สำหรับ "ลูกประคำของราษฎร์" มีจำนวนอย่างมาก 108 เม็ด ใช้ในการบริกรรมภาวนาหรือปลุกเสกลงเลขยันต์คาถา

นอกจากนี้ ยังมีลูกประคำอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งมีขนาดเล็ก เรียกกันว่า "ประคำแขน" คือ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางพอที่จะสวมข้อมือ แล้วรูดขึ้นไปไว้บนต้นแขนคล้ายกับเชือกคาด และ "ประคำมือ" คือ มีขนาดเล็กสวมที่มือไม่ได้ แต่จะใช้สวมไว้กับหัวนิ้วโป้ง มักใช้สำหรับนักดาบโบราณ ที่เห็นกันอยู่ก็จะมี หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จะสังเกตเห็นว่าท่านมีติดมืออยู่เสมอ เพื่อใช้นั่งทำภาวนาของท่าน และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ที่เลื่องลือกันมากในอานุภาพอันสูงส่ง

พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า "เจ้าสำนักทางพุทธาคมอันยิ่งใหญ่แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา" พระอาจารย์ทางพุทธาคมรูปแรกของเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ วัตถุมงคลของท่านนั้น มีมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นที่เคารพศรัทธาและเป็นที่นิยมสะสมกันแทบทั้งสิ้น ด้วยพุทธคุณอันแก่กล้าที่ปรากฏประจักษ์แก่ผู้สักการบูชา ทั้งด้านเมตตามหานิยม และด้านแคล้วคลาด คงกระพัน

สำหรับลูกประคำยอดบายศรี หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า นั้น เรียกว่าโด่งดังในอันดับต้นๆ ทีเดียว มีอานุภาพเป็นเอกในทางป้องกันเขี้ยวงา ศาสตราวุธ ป้องกันคุณไสย และใช้ภาวนาเป็นคาถาแคล้วคลาด เวลาพกติดตัวไปก็จะเป็นมหาเสน่ห์อีกด้วย

แต่กว่าจะมาเป็น "ลูกประคำยอดบายศรี หลวงปู่ศุข" ได้นั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ตั้งแต่ "การเลือกสรรวัสดุ" อาทิ "เม็ดประคำ" ต้องทำจาก งา กะลา และเขาสัตว์ บางเส้นทำจากผงคลุกรัก ส่วน "ยอดบายศรี" ทำด้วยงาช้าง "การจัดสร้าง" ก็จะมีทั้งที่จารและไม่จาร ปลายยอดบายศรีต้องมีลักษณะเป็นเส้นๆ คล้ายพู่ คนโบราณจะเรียกว่า "ไหม" จะมีทั้งไหม เจ็ดสีและไหมสีเหลือง และ "พิธีกรรมการปลุกเสก" ต้องถูกต้องตามแบบแผนโบราณ ทุกประการ ดังที่ พยัพ คำพันธุ์ ได้ประพันธ์ไว้ว่า

ตามตำนานสร้างประคำ ยอดบายศรี ทำพิธีบวงสรวง เสกของขลัง

ทั้งราชวัตรฉัตรธง ให้ทรงพลัง มีบายศรีพร้อมพรั่ง ทั้งหมากพลู

หลวงปู่ศุขปลุกเสก ประคำยอด ห้ามใครถอดก่อนพิธี ถือลบหลู่

โยงสายศีลรอบมณฑล อัญเชิญครู อ่านโองการเชิญพ่อปู่ และเทวดา

เสร็จพิธีนำประคำ มอบแด่ศิษย์ ผู้สัมฤทธิ์ฝึกฝน มนต์คาถา

มอบประคำแทนครู เพื่อบูชา น้อมนำพาติดตัว เป็นมงคล

ลูกประคำบายศรี หลวงปู่ศุข มีอายุการสร้างกว่า 100 ปี มีด้วยกันหลายขนาด ทั้งใหญ่ กลาง เล็ก และจิ๋ว จำนวนการจัดสร้างน้อยมาก แต่ประสบการณ์เรียกได้ว่า "สุดยอด" ผู้มีไว้บูชาจึงต่างหวงแหนเก็บรักษาไว้เป็นมรดกสืบต่อลูกหลาน ทำให้มีการทำเทียม เลียนแบบค่อนข้างสูง ต้องพิจารณากันให้ถี่ถ้วนครับผม

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.425 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 14 มีนาคม 2567 10:47:53