20 เมษายน 2567 16:56:41
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ไปรษณีย์
.:::
ร้อน แล้ง รุนแรงสะท้านโลก
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ร้อน แล้ง รุนแรงสะท้านโลก (อ่าน 1318 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2321
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ
ร้อน แล้ง รุนแรงสะท้านโลก
«
เมื่อ:
18 พฤษภาคม 2559 20:01:45 »
Tweet
ร้อน แล้ง รุนแรงสะท้านโลก
โดย ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน
ปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งที่ประเทศไทยเราประสบกับภัยแล้งรุนแรง ภาคเกษตรประสบปัญหาอย่างหนัก อากาศร้อนจนผู้คนทุกข์ใจไปตามๆกัน ไฟป่าที่เกิดจากการเผาทำลายก็เป็นอีกประเด็นที่กลายเป็นข่าวดังไปทุกสื่อ ซึ่งในความสูญเสียก็มีข้อดีที่ทำให้หลายคนหันมาตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และพยายามหาทางแก้ไข หากพวกเราใส่ใจและร่วมมือกันปกป้องโลกนี้อย่างจริงจัง เมื่อธรรมชาติถูกรบกวนน้อยลง ก็จะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในเร็ววัน ขอเพียงแต่เมื่อเราผ่านพ้นความร้อนแล้งแล้วก็อย่าลืมเลือนถึงสิ่งที่เคยคิดไว้ก็แล้วกันครับ
โดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูน มีเรื่องร้อนๆแบบแสนสาหัสสุดหฤโหดในอดีตมาเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นอุทาหรณ์จากวันวานให้เราได้มองต่อไปถึงอนาคตในวันหน้า จะได้ไม่ตั้งอยู่ในความประมาทกันครับ
ทั้งคนและสัตว์หนีตายจากไฟป่าลงน้ำ ในปี 1871
.
ไฟป่าในประเทศไทยนั้น นับว่ายังไม่รุนแรงมาก เมื่อเทียบกับที่เคยเกิดขึ้นหลายๆแห่งบนโลกนี้ ตามที่มีการบันทึกไว้ ที่สหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ.1871 เกิดความแห้งแล้งอย่างมากในช่วงฤดูร้อนที่ยาวนาน ทำให้เมื่อวันที่ 8-14 ตุลาคม 1871 มีไฟไหม้ป่าครั้งมโหฬารทางตอนเหนือของรัฐวิสคอนซินและมิชิแกน ความแห้งแล้งและลมพัดแรงจัดทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว มีพื้นที่ได้รับความเสียหายกว่า 5 ล้านไร่ ประชาชนอย่างน้อย 1,500 คนต้องเสียชีวิต
ในวันที่ 8 ตุลาคม เมืองชิคาโก ในรัฐอิลลินอยส์ซึ่งอยู่ติดกับวิสคอนซินและมิชิแกนก็ถูกเพลิงผลาญจนย่อยยับไปในช่วงเวลาเดียวกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นมีชื่อเรียกขานว่าเกรทชิคาโกไฟร์ (
Great Chicago Fire
) คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 300 คน บ้านเรือนซึ่งสร้างด้วยไม้ถูกเผาไปกว่า 18,000 หลัง คนนับแสนไร้ที่อยู่อาศัย เพลิงไหม้ครั้งนั้นลุกลามอย่างรวดเร็วเนื่องจากกระแสลมจากทะเลสาบมิชิแกนพัดโหมจนกลายเป็นประวัติศาสตร์เพลิงไหม้ในเมืองครั้งใหญ่ที่สุดของอเมริกา ซึ่งสาเหตุของอภิมหาเพลิงผลาญนั้น เล่าลือกันว่าเกิดจากเหตุขี้ปะติ๋ว คือวัวตัวหนึ่งเตะตะเกียงน้ำมันล้มลงไปบนกองฟาง แต่ในภายหลังมีการวิเคราะห์ว่าเป็นแค่การแต่งเรื่องให้น่าตื่นเต้นของนักข่าวยุคนั้น สาเหตุที่แท้จริงน่าจะมาจากสะเก็ดไฟจากไฟไหม้ป่าในวิสคอนซิน ที่ถูกกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้อันรุนแรงพัดมาเจอเข้ากับเมืองที่เต็มไปด้วยอาคารไม้ซึ่งเป็นเชื้อไฟชั้น
ชิคาโกทั้งเมืองวอดวายในกองเพลิง
ในช่วงวันที่ 20-21 สิงหาคม 1910 ก็เกิดเหตุไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐไอดาโฮและมอนตานา ผืนป่าวอดวายไปกว่า 3 ล้านไร่ มีผู้เสียชีวิตไปถึง 87 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักดับเพลิงที่เสี่ยงภัยเข้าไปช่วยหยุดไฟป่าในครั้งนั้น
ข้ามมาดูทางทวีปออสเตรเลีย ก็เคยเกิดไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ ซึ่งเรียกกันว่า แบล็กฟรายเดย์บุชไฟร์ (
Black Friday Bushfire
) ในรัฐวิกตอเรียเมื่อวันที่ 13 มกราคม ค.ศ.1939 สร้างพิบัติภัยไปกว่า 5 ล้านไร่ มีผู้เสียชีวิต 71 คน บ้านเรือนและอาคารเป็นเหยื่อไฟไปกว่า 1,100 หลัง ควันและเถ้าธุลีจากการเผาไหม้ปลิวไปไกลถึงประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งห่างออกไปนับพันไมล์ และในช่วงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ -14 มีนาคม 2009 ก็เกิดไฟไหม้ใหญ่ที่วิกตอเรียอีกครั้ง กินพื้นที่ถึง 1.1 ล้านไร่ สิ่งปลูกสร้างถูกทำลายไปกว่า 3,500 หลัง มีผู้เคราะห์ร้าย 173 คนต้องตาย ซึ่งส่วนมากเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์ที่พวกเขาพยายามขับหนีให้พ้นเปลวไฟมหากาฬ
เปลวไฟจากถังแก๊สระเบิดเนื่องจากไฟป่าในปี 1939 ที่ออสเตรเลีย.
เรามาดูฤทธิ์พระเพลิงที่เกิดจากการปะทุของความร้อนใต้โลกกันบ้างครับ เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดสร้างมหันตภัยมาแล้วมากมายนับแต่โบราณกาล เหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราต้องเผชิญได้แก่การระเบิดของภูเขาไฟตัมโบรา (
Tambora
) บนเกาะซุมบาวา (
Sumbawa
) ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ.1815 การระเบิดครั้งนั้นรุนแรงพอๆกับระเบิดปรมาณู 60,000 ลูกพร้อมกันเลยล่ะครับ
เสียงจากการระเบิดของภูเขาไฟดังสะเทือนเลือนลั่นไปไกลกว่า 2,000 กิโลเมตร ลาวาร้อนฉ่าไหลบ่าท่วมไปทั่วเกาะและไหลลงไปไกลในทะเล เกิดคลื่นสึนามิซัดไปยังเกาะอื่นๆ ผู้คนบนเกาะซุมบาวาไม่น้อยกว่า 11,000-12,000 คนตาย เพราะการระเบิดโดยตรง และอีกกว่า 70,000 คน ทั้งบนเกาะซุมบาวาและเกาะใกล้เคียงล้มตายจากการเจ็บป่วยและโรค ระบาด รวมถึงความอดอยากหิวโหย ผู้คนอีกเรือนแสนต้องป่วยหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอดไปตามๆ กัน
ภูเขาไฟตัมโบราระเบิดคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมหาศาล.
เถ้าภูเขาไฟตัมโบราที่พุ่งสูงขึ้นไปหลายสิบกิโลเมตรในอากาศทำให้บริเวณนั้นไร้ซึ่งแสงอาทิตย์ นักวิทยาศาสตร์พบว่า ภายหลังการระเบิดทำให้โลกได้รับพลังงานจากแสงอาทิตย์น้อยลงถึง 20% อุณหภูมิอากาศในแถบซีกโลกเหนือลดลงอย่างมาก เพราะฝุ่นละอองเถ้าภูเขาไฟลอยฟุ้งปิดบังผืนฟ้าจนมืดมัว อณูเถ้าธุลีเหล่านี้ลอยปะปนอยู่ในอากาศนานหลายปีกว่าจะตกสู่พื้นโลกจนหมด ในทวีปยุโรป, อเมริกาเหนือ และจีน ต้องเผชิญกับช่วงเวลากลางวันที่มืดมิดเป็นเวลานานนับสัปดาห์ ในปี 1816 ทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือไม่มีฤดูร้อน การเกษตรและปศุสัตว์ในซีกโลกเหนือต้องเสียหายไปมหาศาล ทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารอย่างเลวร้ายในช่วงเวลาหลังจากนั้นต่อเนื่องไปอีกนานหลายปี
การระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟตัมโบรา ซึ่งรุนแรงถึงระดับ 7 จากที่มีการจัดแบ่งความรุนแรงไว้เพียง 8 ระดับ ทำให้ยอดของภูเขาแหลกสลายไปถึง 1,400 เมตร กลายเป็นหลุมกว้าง 6 กิโลเมตร ลึก 1 กิโลเมตร เกิดทัศนียภาพที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น เกาะซุมบาวากลายเป็นเกาะร้างไร้ผู้คนไปอีกนาน
เถ้าธุลีจากภูเขาไฟกรากะตัว พวยพุ่งขึ้นสูท้องฟ้า.
เหตุภูเขาไฟระเบิดรุนแรงอีกครั้งหนึ่งที่อินโดนีเซีย ซึ่งแม้จะรุนแรงน้อยกว่าแต่ก็เป็นที่รู้จักกันมากกว่า เพราะเกิดขึ้นทีหลังเกือบ 70 ปี คือการระเบิดของภูเขาไฟกรากะตัว (
Krakatoa
) บนเกาะกรากะตัว ในวันที่ 26-27 สิงหาคม ค.ศ.1883 ลาวาอันร้อนแรงไหลท่วมทำลายทุกสรรพสิ่ง รวมถึงชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตจากผลกระทบของการระเบิดกว่า 36,000 คน เถ้าธุลีจากการระเบิดลอยสูงกว่า 80 กิโลเมตร บนเกาะโรดริเกซที่อยู่ห่างออกไปถึง 4,776 กิโลเมตร ก็ยังได้ยินเสียงระเบิด เกิดคลื่นสึนามิสูงกว่า 30 เมตร ซัดไปถล่มเกาะอื่นๆ แรงสะเทือนของแผ่นดินไหววัดได้ไกลถึงเกาะอังกฤษ
เหตุร้ายจากความร้อนใกล้บ้านเราเข้ามาอีกนิดหนึ่ง คือแผ่นดินจีนนั้นเคยเจอกับภาวะแล้งจัดจนเกิดทุพภิกขภัย อาหารขาดแคลนครั้งร้ายแรง เมื่อปี ค.ศ.1942 ซึ่งในช่วงนั้นเกิดสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น รวมทั้งฝ่ายพรรคคอมมิวนิสต์จีนกับฝ่ายรัฐบาลพรรคก๊กมินตั๋งก็กำลังรบกันอยู่ด้วยเช่นกัน
มณฑลเหอหนานประสบภัยแล้งติดต่อกันมาหลายปี และความแห้งแล้งยิ่งแสนสาหัสในปี 1942 รัฐบาลก็เร่งเก็บภาษีเพื่อนำไปบำรุงกองทัพ ชาวบ้านแทบไม่เหลือพืชพันธุ์ไว้ปลูกและยังชีพ ใครจ่ายภาษีไม่ครบก็ต้องถูกบังคับขายทรัพย์สินอื่น รวมทั้งสัตว์เลี้ยงเพื่อนำมาชำระภาษีให้กับทางก
ปี 1942 ชาวเหอหนานอดอยากจนต้องกินเปลือกไม้.
สุดท้ายผู้คนจำนวนนับล้านพากันอพยพไปยังมณฑลซานซีที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อหนีความแห้งแล้ง คนที่พอมีเงินก็โดยสารรถไฟที่แน่นราวกับจับยัด เบียดเสียดกัน ทั้งในรถและบนหลังคา ที่ไม่มีเงินก็หอบหิ้วกันเดินเท้าไปอย่างน่าเวทนา ทั้งทารกและคนชรา เครื่องบินญี่ปุ่นก็บินมาโจมตีอย่างไร้ทางตอบโต้ ซากศพผู้คนล้มตายเกลื่อนกลาดตลอดทาง ความหิวโหยทำให้ต้องยอมกินทุกสิ่งทุกอย่าง ทว่าภัยแล้งก็ทำลายความอุดมสมบูรณ์ไปสิ้น ไม่มีแม้แต่ใบไม้ให้เก็บกิน บางคนถากเปลือกไม้มาทุบกิน บางคนขุดรากต้นข้าวที่แห้งกรังในนามาเป็นอาหาร ร่ำลือกันว่าถึงกับมีการกินเนื้อมนุษย์ รัฐบาลในช่วงนั้นก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คนของรัฐยังฉ้อฉลทำให้การช่วยเหลือไปไม่ถึงประชาชน ผลจากความยากแค้นทุกข์ทรมานในช่วงปี 1942-1944 ทำให้ผู้คนล้มตายไปมากกว่าสามล้านคน
ความแห้งแล้งและอดอยากนี้ก็เป็นข้อสันนิษฐานหนึ่งที่เชื่อกันว่าอาณาจักรมายาซึ่งเคยยิ่งใหญ่อยู่ในทวีปอเมริกาต้องล่มสลายไป ชาวมายานั้นเคยมีอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ตั้งแต่ 500 ปี ก่อนคริสตกาลจนถึงราว ค.ศ.1500 พวกเขาก็หายสาบสูญไป ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าแปลกที่ชนเผ่าอันยิ่งใหญ่ มีความสามารถสูง มีความรู้ด้านดาราศาสตร์ คณิตศาสตร์ อักษรศาสตร์ ศิลปะ มีปฏิทิน ชำนาญในการก่อสร้าง ทั้งพีระมิดแบบขั้นบันไดและวิหารที่สร้างไว้อย่างยิ่งใหญ่
มีข้อสันนิษฐานว่าชนเผ่ามายาต้องสูญสิ้นเพราะภัยแล้ง.
หลักฐานจากการสำรวจทางโบราณคดี ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานว่า ชาวมายานั้นล้มตายและแตกกระสานซ่านเซ็นจนสูญสิ้นความรุ่งเรืองไปเนื่องจากความแห้งแล้ง ซึ่งทำให้ขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำ จากการศึกษาซากเมืองเพเตน ในประเทศกัวเตมาลา พบว่า พื้นดินบริเวณนั้นมีแต่ละอองเกสรของหญ้า แทบไม่พบเกสรของต้นไม้ใหญ่เลย เป็นไปได้ว่าป่าไม้บริเวณนี้ถูกโค่นทำลายไปจนหมด เนื่องจากประชากรชาวมายามีอยู่อย่างหนาแน่นมาก การวิเคราะห์ชี้ว่าเมื่อป่าไม้หายไป อุณหภูมิจะสูงขึ้นราว 5-6 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ฝนตกน้อยลง น้ำในแหล่งน้ำระเหยมากขึ้น ความแห้งแล้งก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนชาวมายาทนอยู่ไม่ได้ในที่สุด
แม้จะเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน ซึ่งอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ก็เป็นอุทาหรณ์ให้เราได้หันกลับมามองประเทศของเราในยุคปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร และอนาคตของเราจะก้าวไปทางไหน หวังว่าเราจะเลือกคำตอบสุดท้ายได้ถูกต้อง เพื่อจะดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขไปอีกหลายยุคสมัย.
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ
เริ่มโดย
ตอบ
อ่าน
กระทู้ล่าสุด
ร้อน ร้อน ร้อน แก้กระหายด้วย water
สุขใจ ห้องสมุด
sometime
1
1832
25 เมษายน 2553 12:18:08
โดย sometime
กำลังโหลด...