ทุกครั้งที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่าจะมีการเปิดอภิปรายเรื่องใดเรื่องหนึ่งในสภา ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรืออภิปรายกฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่ง หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่งก็แล้วแต่ ผมมักจะเกิดความรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนคนจะเป็นไข้
เกิดความวิตกกังวล เกิดความห่วงใยจนหนาวๆร้อนๆไปทั่วตัว ว่าอย่างนั้นเถิดครับ
ไม่ใช่เพราะผมเอาใจช่วยรัฐบาล กลัวรัฐบาลจะเพลี่ยงพล้ำ และขณะเดียวกัน ก็ไม่ใช่เพราะผมเอาใจช่วยฝ่ายค้าน กลัวว่าการทำงานของฝ่ายค้านจะล้มเหลว
ผมไม่รักใคร ไม่เชียร์ใครทั้งสิ้น ไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ขอยืนยันได้
แต่ที่ผมเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเป็นเพราะผมสงสารและเป็นห่วงระบอบประชาธิปไตย
อยากจะถนอม อยากจะรักษา และอยากจะเห็นระบอบประชาธิปไตยอยู่เคียงคู่ประเทศไทยไปตราบกาลนิรันดร์
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นเวลาหลายปีแล้ว ผมมีความรู้สึก และความจริงก็เคยบ่นผ่านคอลัมน์นี้ไปหลายครั้งหลายหนว่า การอภิปรายของท่านผู้ทรงเกียรติในสภานี่แหละที่เป็นสาเหตุหนึ่งของการทำร้าย "ประชาธิปไตย"
ทำให้ระบอบประชาธิปไตยที่เรารักและอยากให้คงอยู่ไปอีกนานแสนนาน ต้องสะดุดหยุดลง หรือต้องเผชิญเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาครั้งแล้วครั้งเล่า
เพราะลีลา วาทะ ตลอดจนถ้อยคำและเนื้อหาสาระที่ใช้ในการอภิปรายแทบทุกครั้ง มักจะรุนแรงเกินเหตุ, ใส่อารมณ์เกินเหตุ รวมทั้งหยาบคายเกินเหตุ ฯลฯ
ขณะเดียวกัน การกล่าวคำหยาบก็มากขึ้นในระยะหลังๆ โดยเฉพาะการปล่อยสิงสาราสัตว์ที่ไม่สมควรปล่อย...ท่านผู้มีเกียรติก็ปล่อยออกมาเต็มสภา
รวมไปถึงการตีรวน การยกมือประท้วง และอะไรอีกร้อยแปดพันอย่างที่แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการกระทำของบุคคลที่แต่งชุดสากล ผูกเนกไทอย่างเรียบร้อยขณะอภิปราย
นอกจากจะห่วงว่าผู้คนจะเบื่อประชาธิปไตยแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือการเลียนแบบ หรือการทำตามอย่างของเด็กๆและเยาวชน
ถ้าเป็นการอภิปรายในสภาอย่างเดียว ไม่ได้ถ่ายทอดสดไปที่ไหน... ท่านจะแสดงกิริยามารยาทไม่เหมาะสม ใช้กลยุทธ์ไม่เหมาะสมอย่างไรก็แล้วไปเถิด
เพราะมันจะอยู่แต่ในสภาเท่านั้น ไม่มีเด็กเล็กที่ไหนมาพบเห็น อันจะเป็นเหตุให้จดจำและเอาอย่างเมื่อเติบใหญ่ขึ้น
เว้นเสียเด็กๆจากโรงเรียนที่โชคร้ายอยากเรียนรู้ระบอบประชาธิปไตยจากของจริง ขออนุญาตท่านประธานสภาเข้าไปฟังการอภิปราย ซึ่งมีอยู่บ้างเป็นครั้งเป็นคราว
แต่นี่ท่านเล่นถ่ายทอดสดโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ เด็กๆได้ดูได้เห็นกันทั้งประเทศ
ก็ย่อมจะจดจำกิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสม การพูดจาแบบก้าวร้าว การตีรวนแบบศรีธนญชัย และการเอาชนะคะคานอย่างไม่มีเหตุผล ฯลฯ ติดตัวไปบ้างไม่มากก็น้อย
ผมยังนึกเสียดายว่า สมัยนี้ไม่มีคณะกรรมการที่เรียกว่า กบว. อันมีอำนาจที่จะเซ็นเซอร์โทรทัศน์อีกแล้ว...ไม่เช่นนั้นจะขอให้ กบว.ทำหน้าที่ควบคุมการถ่ายทอดสดทุกครั้ง
มีอะไรที่ไม่เหมาะสมเกิดขึ้นจะได้หั่นภาพออกกลางอากาศแบบทันทีทันควันไม่ให้เด็กๆดู
แต่ก็เอาเถอะ ไหนๆเราก็ไม่มี กบว.อย่างสมัยก่อนแล้ว...มีเพียงการกำหนดเรตติ้ง ที่เห็นเขาบอกเป็นประเภทต่างๆไว้ก่อนจะเริ่มรายการ
ว่าเป็นรายการทั่วไป รายการเด็กดูได้ ดูไม่ได้ ควรมีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ฯลฯ
ต่อไปอยากจะขอให้ขึ้นหน้าจอทุกๆ 10 นาทีได้ไหมครับเวลาถ่ายทอดสดการอภิปรายว่า รายการนี้ห้ามเด็กๆดู หรืออย่างน้อยก็อย่าปล่อยให้ดูคนเดียว และควรจะให้ออกอากาศได้หลัง 4 ทุ่ม เมื่อเด็กๆนอนหลับแล้วเท่านั้น
เพราะเป็นพิษเป็นภัยกว่ารายการทีวีประเภทรักๆใคร่ๆ หรือรุนแรง หรือรายการที่มีสปอนเซอร์เป็นเครื่องดองของเมาเสียด้วยซํ้า
เห็นข่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปแล้ว และท่านประธานสภาก็คงจะกำหนดให้อภิปรายในเร็วๆนี้
อย่าลืมประกาศเรตติ้งด้วยนะครับ ช่อง 9 กับช่อง 11 ว่ารายการนี้ห้ามเด็กๆดูคนเดียว หรือถ้าออกอากาศหลัง 4 ทุ่มได้จะขอบคุณมาก
เพราะผมเชื่อว่าท่านผู้ทรงเกียรติทั้งหลายจะแสดงความไม่สมเกียรติออกมาอย่างมากมายและเปรอะสภาด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง.
"ซูม"
http://www.thairath.co.th/column/pol/hehapatee/152594