[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 00:58:10 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: จิตวิวัฒน์ : ยาโยอิ คุซามะ ป็อปอาร์ตจากสวรรค์  (อ่าน 1186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5065


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2559 20:16:24 »



โดย ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 12 มีนาคม 2559

“ชีวิตฉันคือ จุดๆหนึ่ง ในบรรดาล้านอนุภาค ตาข่ายสีขาวแห่งความว่างเปล่า เกิดมาจากการรวมตัวกันของจุดมหาศาลที่เชื่อมโยงกัน มันจะทำลายตัวฉันและคนอื่น และทั้งจักรวาล” ยาโยอิ คุซามะ

นี่คือคำพูดของ “ราชินีลายจุด” หนึ่งในศิลปินญี่ปุ่นที่ห้างเซ็นทรัลเอ็มบาสซีนำผลงานมาแสดงในงาน Japanese Contemporary Art Show เปิดโอกาสให้คนไทยได้ชมงานของศิลปินผู้ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคนนี้ (นับจากจำนวนผู้เข้าชมผลงานของเธอในพิพิธภัณฑ์) คุซามะยังเป็นศิลปินหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ที่ขายงานได้แพงที่สุดในโลกอีกด้วย เอกลักษณ์โดดเด่นจากงานศิลปะลายจุดสร้างชื่อเสียงให้กับเธอตั้งแต่ยุค 60 ทำให้เธอเป็นศิลปินป็อปอาร์ตแถวหน้าของนิวยอร์ค เคยแสดงงานร่วมกับแอนดี้ วอร์ฮอล ราชาแห่งป็อปอาร์ตหลายครั้ง วันนี้ ในวัย 87 ปี คุซามะยังคงสร้างสรรค์ผลงานศิลปะและอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช ในกรุงโตเกียว ที่ที่เธอเรียกว่าบ้านมา 40 กว่าปีแล้ว !

ลายจุดอันโดดเด่นของเธอมีเบื้องหลังที่น่าพิศวงเป็นอย่างยิ่ง ในทางการแพทย์ ศิลปินผู้โด่งดังนี้ถูกระบุว่ามีอาการประสาทหลอน เธอบอกว่า “เมื่อเขียนรูป ลวดลายจะขยายออกจากผืนผ้าใบ ไปเต็มทั่วพื้นและผนัง พอฉันมองออกไปไกล ฉันจะเห็นภาพหลอนและฉันจะถูกโอบล้อมด้วยภาพเหล่านั้น” นอกจากนั้นเธอยังมีภาวะย้ำคิดย้ำทำอีกด้วย เราจึงเห็นงานของเธอเต็มไปด้วยภาพซ้ำๆ โดยเฉพาะจุดซ้ำๆ มากมายทั่วทั้งภาพ ตั้งแต่เด็กแล้วที่คุซามะเห็นภาพหลอนเหล่านี้ และศิลปะเป็นทางออกที่จะแปรเปลี่ยนความ “ผิดปกติ” ทางการแพทย์ให้ออกมาเป็นความสร้างสรรค์ เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ต้องการพยายามจะเป็นศิลปิน ฉันแค่พยายามจะนำรูปวงกลมสีขาวเหมือนเมล็ดข้าวฟ่างที่มากมายทวีคูณไม่รู้จบลงไปอยู่ในฝาผนังและกระดาษวาดรูป” ภาวะทางจิตนี้กลับส่งผลให้เธอผลิตผลงานออกมาอย่างสร้างสรรค์ล้ำเกินกว่าใครจะจินตนาการได้

ฉันเห็นภาพและอ่านเบื้องหลังการสร้างงานของเธอแล้ว สงสัยเหลือเกินว่านี่คือความ “บ้า” หรือคือภาพ “นิมิต” อย่างที่บรรดาแม่มดสมัยโบราณเห็นจากการเพ่งมองลูกแก้วกันแน่ อย่างเช่น ภาพชุด Infinity Nets ที่เป็นงานราคาแพงที่สุดของคุซามะ เป็นการจุดลวดลายลงบนผืนผ้าใบจนทำให้เกิดลายตาข่ายขึ้น ข่ายใยนั้นดูราวกับกำลังเคลื่อนไหวแผ่ขยายออกไปทั่วทุกทิศอย่างสงบเงียบ หากเปี่ยมด้วยพลังล้ำลึก เธอบอกเล่าถึงเบื้องหลังการสร้างสรรค์ภาพชุดนี้ว่า ขณะที่เธอกำลังวาดตาข่ายลงบนผืนผ้าใบ เธอเห็น “มันวิ่งจากโต๊ะไปถึงพื้น แล้วไปทั่วตัวฉัน เมื่อทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตาข่ายแผ่กว้างไปไม่มีที่สิ้นสุด อีกแง่หนึ่งคือถึงจุดนั้น ฉันลืมตัวเอง ถูกครอบคลุมด้วยตาข่าย ทั้งมือและเท้า เสื้อผ้าที่ฉันใส่ ทั้งห้องเต็มไปด้วยตาข่าย”ภาพนิมิตเช่นนี้ทำให้เธอขยายงานออกจากผืนผ้าใบไปสู่สิ่งรอบตัว เธอรังสรรค์ผลงาน Environmental Art อันเลื่องลือ ด้วยการสร้างลายจุดไปทั่วทั้งห้อง ทั้งบนประติมากรรม บนพื้น ฝาผนัง ทั้งเพดาน บางครั้งบนตัวคน บนเรือนร่างของเธอเองหรือแม้กระทั่งบนม้าที่ยังมีชีวิต ทุกอย่างถูกคลุมด้วยจุดสีสันต่างๆ จนแทบจะไม่เห็นรูปร่างที่แท้จริงของวัตถุ

การสร้างสรรค์ผลงานของเธอไม่ได้มาจากจินตนาการธรรมดาอย่างแน่นอน “ต่อหน้า แปรงและผืนผ้าใบ มือของฉันมีปฏิกิริยาและสร้างงานก่อนที่ฉันจะคิดอะไร” เธอกล่าว “พอผลงานเสร็จ ฉันจะมองดูมันและประหลาดใจกับผลของมันเสมอ” แม้แต่ลายจุดที่โด่งดังของเธอ ก็ไม่ใช่เป็นเธอที่คิดขึ้นมา “ฉันไม่ได้บังคับตัวเองให้ใส่ลายจุดลงไป มันเกิดจากจิตใต้สำนึก มันกลายเป็นลายจุดด้วยตัวเองเสมอ ฉันไม่รู้ว่านี่เป็นผลมาจากความเจ็บป่วยของฉัน หรือว่าฉันต้องการจะทำเช่นนั้นเพราะฉันถูกดูดกลืนลงไปในการสร้างงาน เมื่อฉันกำลังสร้างงาน ทุกๆสิ่งรอบตัวฉันจะหายไป และมือของฉันจะสร้างผลงาน” ราวกับว่าตัวเธอเป็นเพียงทางผ่านให้นิมิตหลั่งไหลเข้ามา แล้วสื่อออกมาให้ผู้คนรับรู้ผ่านงานศิลปะ แม่มดแห่งวงการป็อปอาร์ตกล่าวว่างานหลักของเธอคือ “การชำเลืองมองภาพนิมิต”

งานแสดงภาพช่วงหลังของเธอมักจะมี “Infinity Room” ที่ได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น ผู้คนอดทนเข้าคิวรอหลายชั่วโมง บางครั้งถึงกว่า 8 ชั่วโมง เพียงเพื่อจะได้เข้าไปอยู่ในห้องนี้เป็นเวลา 40 วินาที ห้องที่ว่านี้คือห้องที่บุกระจกทุกด้าน มีหลอดไฟ Led หลากสีสันห้อยแขวนลงมาทั่วห้อง หลอดไฟจะเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ ปล่อยแสงสีสะท้อนกับกระจกและหลอดไฟอื่นๆ คุซามะร่ายเวทมนตร์ทางศิลปะสร้างห้องแห่งอนันตกาล “ด้วยการใช้แสง เงาสะท้อนและสิ่งอื่นๆ ฉันต้องการแสดงถึงภาพของจักรวาล ไกลเกินกว่าโลกที่เราอาศัยอยู่”ภาพอันแปลกตาทำให้คนที่อยู่ในนั้นเหมือนกระเด็นหลุดออกนอกโลก ไปแหวกว่ายอยู่บนจักรวาลอันลี้ลับ ท่ามกลางจุดหลากสีอันไม่มีที่สิ้นสุด

มามิ คาทาโอกะ หัวหน้าภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะโมริ ในกรุงโตเกียว วิเคราะห์ว่า งานของคุซามะสะท้อนจักรวาลวิทยาของตะวันออกที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนประสานสัมพันธ์กัน หรือที่ทางพุทธเรียกว่าปฏิจจสมุปบาท ไม่ว่าจะรู้หรือไม่รู้ตัว เราต่างเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งสร้างทั้งหมด มีความสัมพันธ์อันมองไม่เห็นเชื่อมโยงอยู่ หรือมีความสัมพันธ์บนพื้นฐานของเหตุและผล

สำหรับฉันแล้ว ทั้ง Infinity Nets และ Infinity Room สะกิดใจให้นึกถึงตาข่ายแห่งอินทรา ในอวตัมสกสูตร พระสูตรสำคัญของฝ่ายมหายานนี้พรรณนาไว้ว่า บนสวรรค์ของพระอินทร์นั้น มีตาข่ายที่ประดับด้วยอัญมณีในทุกจุดที่ข่ายใยตัดกัน ตาข่ายนี้แผ่ขยายออกทุกทิศทางอย่างไร้ที่สิ้นสุด อัญมณีที่ประดับประดาอยู่บนตาข่ายก็มีมากมายไร้ที่สิ้นสุดเช่นกัน มันเปล่งประกายราวกับดวงดาว แต่ละชิ้นต่างก็สะท้อนให้เห็นถึงอัญมณีอื่นๆ ทั้งหมด ท่านติช นัท ฮันห์กล่าวไว้ในหนังสือสู่ชีวิตอันอุดมว่า “เวลาเรามองตามสายตาของอวตัมสกสูตร เราก็จะเห็นสกลจักรวาลและสรรพธรรมในตาข่ายของพระอินทร์”

สำหรับคุซามะ “ที่สุดแล้ว พระจันทร์ก็คือจุด พระอาทิตย์ก็คือจุด และโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ก็คือจุด และคุณก็จะพบจุดในรูปของจักรวาลที่ลี้ลับตลอดกาลอีกด้วย และผ่านทางสิ่งเหล่านี้ ฉันต้องการเห็นปรัชญาชีวิต” นิมิตของตาข่ายจากสรวงสวรรค์ ที่สื่อออกมาเป็นงานป็อปอาร์ต เปลี่ยนการรับรู้โลกของผู้ชม พื้นที่อันจำกัดคับแคบถูกแปรเปลี่ยนให้ไร้ขอบเขต เส้นขอบเขตที่แบ่งแยกวัตถุออกจากกันถูกกลืนหายไปด้วยจุด ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นจุด ตัวตนของเราที่ดูเหมือนจะสำคัญนักหนากลับถูกกลืนหายไปในจุดอันอเนกอนันต์นั้นด้วย เรากลายเป็นจุดๆหนึ่ง ที่เชื่อมสัมพันธ์และสะท้อนจุดอื่นๆ ในจักรวาลอันไร้ที่สิ้นสุดนี้ นี่เป็นปรัชญาชีวิตของการดำรงอยู่อย่างอิงอาศัยซึ่งกันและกัน

แม่มดโบราณเพ่งมองลูกแก้วให้เห็นนิมิตสะท้อนออกมา แล้วนำสารสำคัญมาบอกแก่ผู้คน ในวันเปิดการแสดงงาน “I Who Have Arrived in Heaven” ที่นิวยอร์คเมื่อปี 2013 คุซามะผู้ผ่านชีวิตมาเกือบเก้าทศวรรษ กล่าวกับผู้ชมงานราวกับแม่เฒ่าที่ได้ขึ้นไปบนสวรรค์ เห็นนิมิตแห่งความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันของทุกสรรพสิ่ง แล้วกลับลงมาบอกเล่าด้วยความห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ว่า สันติภาพและความรักสำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด


“ไม่กี่ปีมานี้ โลกของเราไม่มีสันติภาพ และเต็มไปด้วยความปั่นป่วน ในฐานะศิลปิน ฉันคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ฉันจะแบ่งปันความรักและสันติภาพ แต่เมื่อฉันคิดถึงปัญหาเหล่านี้ ฉันนอนไม่หลับ ดังนั้น ฉันจึงอยากทำงานร่วมกับพวกคุณ เพื่อสื่อความสุขจากศิลปะแห่งความรักและสันติภาพ ไปยังผู้คนที่กำลังทุกข์ยาก และไม่มีโอกาสชื่นชมความสุขจากศิลปะ...ขอให้ทุกคนช่วยสื่อถึงความปรารถนาจากหัวใจที่ฉันต้องการจะเผยแพร่ นั่นคือ ความรักต่อโลกและความเคารพต่อจักรวาล ถ้าคุณรับรู้บางสิ่งได้จากงานเหล่านี้ ความพยายามของฉันก็จะคุ้มค่าจริงๆ”

จาก http://jitwiwat.blogspot.com/2016/03/blog-post_11.html#more

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.315 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้