[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 16:33:35 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กับผลงานจิตรกร  (อ่าน 1825 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2303


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2559 20:26:56 »




อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ กับผลงานจิตรกร

อดอล์ฟ ฮิตเลอร์
ก่อนที่อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ จะก่อสงครามโลกครั้งที่ 2 และฆ่าประชาชนบริสุทธิ์กว่า 17 ล้านคนอย่างเหี้ยมโหดที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้โลกตะลึงในความอำมหิตผิดมนุษย์มนานั้น เขาเคยเป็นจิตรกรหนุ่ม ผู้มีหัวใจอ่อนไหว ละเมียดละไม และได้สร้างสรรค์ภาพสีน้ำสวยหวานจรรโลงใจไว้มากมาย

นับตั้งแต่เด็กๆ มาแล้ว ฮิตเลอร์ได้แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในการวาดรูป ซึ่งเป็นสิ่งที่ประจักษ์ชัดในหมู่ครูที่โรงเรียนมัธยม เช่นเดียวกับความเกียจคร้านไม่เอาใจใส่ใจการเรียนของเขา พออายุ 16 ปี เขาก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียน



พ่อของฮิตเลอร์ไม่ชอบเสียเลยที่ลูกชายมีใจรักในศิลปะ อยากให้ลูกชายมีงานมีการที่มั่นคง เป็นเหตุให้ต้องขัดแย้งกันเรื่อยมา ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่มีความสุข มีปมด้อย เรียนก็ไม่เอาไหน  เมื่อพ่อเสียชีวิต ฮิตเลอร์เหมือนได้รับอิสรภาพ ในฤดูร้อนของปี 1906 หนุ่มน้อยฮิตเลอร์วัย 17 ก็เดินทางมุ่งสู่กรุงเวียนนาเป็นครั้งแรก ที่นี่เป็นศูนย์กลางที่สำคัญของโลกทางด้านศิลปะ ดนตรีและวัฒนธรรมเก่าแก่ของยุโรป  ฮิตเลอร์ไม่ได้ไปดื่มเหล้าเมายาหรือเล่นเกกมะเหรกเกเรตามซอกซอยที่ไหน หากแต่ไปดูโอเปร่า ศึกษาภาพเขียนตามพิพิธภัณฑ์ นั่งชมวิวริมแม่น้ำดานูบ พลางฝันถึงการได้เป็นจิตรกรมีชื่อ มีชีวิตอิสระ ไม่ต้องทำงานประจำอันซ้ำซากจำเจ และอยู่ใต้คำสั่งของคนอื่น


ภาพวาดห้องอาหารในบ้านของฮิตเลอร์ เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มักมาจากการออกแบบของเขาเอง

ในภายหลัง ฮิตเลอร์มักรำพึงรำพันถึงชีวิตในช่วงวัยรุ่นที่ได้เตร็ดเตร่เที่ยวไปตามใจนี้ว่า เป็นช่วงที่เขามีความสุข “ที่สุด” ในชีวิต

ที่นี่เอง ฮิตเลอร์ได้พบความลุ่มหลงในสถาปัตยกรรม บางครั้งเขายืนอยู่เป็นนานหลายชั่วโมง สายตาดื่มด่ำไล่ไปตามเค้าโครงของโรงละครเวทีและตึกรัฐสภาอันอลังการสง่างาม และสามารถวาดขึ้นจากความทรงจำโดยอาศัยเห็นเพียงครั้งเดียว

นัก (ไม่ได้) เรียนศิลปะ
ในปี 1907 แม่ของฮิตเลอร์เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง ฮิตเลอร์ในวัย 18 ปีตัดสินใจนำเงินมรดกที่ได้รับไปเป็นทุนเรียนต่อที่สถาบันวิจิตรศิลป์แห่งเวียนนา แต่เขาสอบไม่ผ่าน ด้วยเหตุผลว่า  “ความสามารถยังไม่ดีพอ” พร้อมทั้งได้รับคำชี้แนะว่า “ควรจะไปเอาดีทางด้านสถาปัตยกรรม”

หนุ่มน้อยฮิตเลอร์กลุ้มอกกลุ้มใจและระบายลงในสมุดไดอารี่ “ผมรู้เลยว่า สักวันหนึ่งผมควรจะไปเป็นสถาปนิก แต่หนทางก็ช่างลำบากยากเย็นเหลือเชื่อ เพราะจะเข้าเรียนต่อทางด้านสถาปัตยกรรมได้ ก็ต้องอาศัยวิชาต่างๆ ที่ผมเกลียดและไม่เคยสนใจเรียนเลยในสมัยมัธยม ความฝันในอาชีพทางศิลปะนี้ ดูไกลเกินเอื้อม”

ฮิตเลอร์ไม่มีวุฒิมัธยมปลาย จึงเข้าศึกษาต่อทางสถาปัตยกรรมไม่ได้ เขาก็ยังไม่ย่อท้อ ตัดสินใจสอบเข้าสถาบันวิจิตรศิลป์แห่งเวียนนาอีกในปี 1908 แต่ก็ต้องผิดหวังเป็นหนสอง




ภาพนี้วาดในวัยเพียง 17 ปี เพื่อสอบเข้าสถาบันวิจิตรศิลป์ แห่งเวียนนา แต่ถูกปฏิเสธ

จิตรกรไร้ที่พำนัก
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1910 ฮิตเลอร์ซึ่งเป็นจิตรกรไร้สำนักในเวียนนามาหลายปี ก็มีสถานะเพิ่มขึ้นเป็นจิตรกรไร้ที่พำนัก เงินที่เอาติดตัวมาก็หมดลง จำต้องย้ายไปอยู่สถานสงเคราะห์คนไร้บ้าน วางมือจากพู่กันเป็นครั้งคราวเพื่อไปรับจ้างสารพัด เช่น กวาดหิมะ และแบกกระเป๋าตามสถานีรถไฟ จนกระทั่งมารู้จักกับไรน์โฮลด์ ฮานิช ซึ่งอาศัยอยู่ที่เดียวกัน เขาเห็นลู่ทางหาเงินโดยให้ฮิตเลอร์วาดภาพสถานที่สำคัญๆ ในกรุงเวียนนา ลอกเลียนจากโปสต์การ์ด ส่วนเขาก็ออกไปเร่ขายภาพให้กับนักท่องเที่ยวและร้านรวงต่างๆ ที่เอาไปใส่กรอบรูปเพื่อไม่ให้มันดูว่างโล่งตา...ก็เท่านั้นเอง

ภาพเหล่านี้เป็นภาพโหลที่วาดลวกๆ อย่างรวดเร็วไปตามจังหวะเสียงท้องร้องจ๊อกๆ รวมแล้วนับพันภาพ ซึ่งก็ช่วยประทังชีวิตของเขาไปได้ระยะหนึ่ง สุดท้ายเกิดขัดแย้งกันเรื่องเงิน ความเป็นหุ้นส่วนขาดสะบั้นลง อันว่าหัวใจของศิลปินนั้นแสนจะบอบบาง ฆ่าได้แต่โกงไม่ได้ ในปี 1938 เมื่อฮิตเลอร์มีอำนาจ เขาก็ไม่ลืมที่จะสั่งตามล่าฮาร์นิชและฆ่าทิ้ง เพื่อชำระความแค้นที่มีมาตั้งแต่ 29 ปีก่อน

ฮิตเลอร์ใช้ชีวิตอยู่สถานสงเคราะห์คนไร้บ้านอีกหลายปีจนถึงเดือนพฤษภาคม ปี 1913 เขาได้รับที่ดินก้อนสุดท้ายจากพ่อที่เสียชีวิตไป จิตรกรที่สิ้นไร้อนาคต จึงตัดสินใจเดินทางกลับสู่บ้านเกิดในเยอรมนี




พลทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1
ในปี 1914 ชีวิตจิตรกรของฮิตเลอร์ก็มีอันเปลี่ยนไปตลอดกาล เขาไปเข้าร่วมกองทัพเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างนี้ก็ยังคงสร้างงานศิลปะกลางสนามรบ หรือวาดการ์ตูนลงในวารสารของกองทัพ พลทหารฮิตเลอร์ได้รับเหรียญกล้าหาญถึงสองเหรียญ  ต่อมาเขาได้รับบาดเจ็บจากระเบิดขณะที่นอนพักฟื้นอยู่นี่เอง เขาเล่าว่า “ความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้น ผมจะปลดปล่อยเยอรมนี ทำให้เยอรมนีกลายเป็นมหาอาณาจักร ผมรู้ในเดี๋ยวนั้นเองว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริง”

แม้ร่างกายจะทุกข์ทรมาน แต่สิ่งที่ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างรักษาไม่หาย คือการที่เยอรมนีพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 และถูกยึดดินแดนบางส่วนไป รวมทั้งต้องกลายเป็นฝ่ายผิดและชดใช้ค่าเสียหายให้กับประเทศต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในการลงนามสงบศึก

ระหว่างนอนพักรักษาตัว เลือดรักชาติในตัวฮิตเลอร์กลับเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มาบัดนี้ เขาค้นพบความลุ่มหลงในสงคราม เหมือนที่ครั้งหนึ่งเขาเคยพบความงามในสถาปัตยกรรม




โปสต์การ์ดที่วาดเพื่อหาเงินประทังชีวิตที่กรุงเวียนนา

วิกฤตการณ์สร้างผู้นำเผด็จการ
สนธิสัญญาแวร์ซายเป็นผลให้เยอรมนีถูกบีบคั้นทั้งในทางการเมือง สังคม และเศรษฐกิจอย่างหนัก ประชาชนเสียขวัญกำลังใจ ต้องประสบความยากจนและอดอยากเป็นจำนวนมาก ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดหลังสงครามนี้เอง เป็นจุดวิกฤติที่พลิกชีวิตให้ฮิตเลอร์ได้ก้าวขึ้นสู่อำนาจ และมีบทบาททางการเมือง

ฮิตเลอร์ค้นพบว่าเขามีฝีปากคมคาย สามารถพูดโน้มน้าวจิตใจคนได้ดียิ่งจนประชาชนพากันเชื่อถือ เขาเข้าร่วมพรรคนาซี และไต่เต้าขึ้นจนได้เป็นหัวหน้าพรรคในเวลาต่อมา

ในปี 1924 ฮิตเลอร์นำขบวนทหาร 2,000 นายเดินขบวนเข้าสู่กลางเมืองมิวนิก เพื่อยึดอำนาจรัฐ แต่ไม่สำเร็จ ถูกศาลตัดสินจำคุกและให้ยุบพรรคนาซี ระหว่างอยู่ในคุกเขาก็ได้ทำการเคลื่อนไหวที่สำคัญ คือเขียนหนังสือชื่อ Mein Kampf (การต่อสู้ของข้าพเจ้า) จุดประกายความคิดเหยียดชาติพันธุ์อย่างรุนแรง นำไปสู่การฆ่าล้างชาวยิวและคนบริสุทธิ์รวม 17 ล้านคน

หนังสืออันตรายเล่มนี้ถูกระงับเผยแพร่ในเยอรมนีนาน 75 ปี และเพิ่งได้รับการตีพิมพ์เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อครั้งรัฐบาลของฮิตเลอร์ครองอำนาจ กฎหมายระบุให้คู่สมรสที่เข้าพิธีแต่งงานจะต้องมีหนังสือเล่มนี้ไว้ในครอบครอง ฮิตเลอร์จึงร่ำรวยจากค่าลิขสิทธิ์ที่มากถึง 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี





นายกรัฐมนตรี
ฮิตเลอร์ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 5 ปี แต่ไม่ถึงปีเขาก็ได้รับการปล่อยตัว หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งเขาได้ เขาประกาศต่อสาธารณชนว่าจะนำความยิ่งใหญ่กลับมาสู่เยอรมนี และแล้วในปี 1933 เพียง 15 ปีหลังถูกปฏิเสธเข้าเรียนในโรงเรียนศิลปะ เขาก็ได้ขึ้นครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรี!

นโยบายของฮิตเลอร์ คือ ต้องการรวมชาติเยอรมนีเข้าในจักรวรรดิเดียวกัน โดยถือว่าที่ใดมีชาวเยอรมันที่นั่นจะต้องถูกผนวกดินแดนเข้ากับเยอรมนี “มหาอาณาจักรเยอรมนี จะไม่มีวันแยกออกจากกันได้!”

ด้วยความฮึกเหิม ฮิตเลอร์จึงยาตราเข้าสู่ออสเตรีย ตามด้วยเช็กโกสโลวาเกีย เท่านี้ยังไม่พอ ในวันที่ 1 กันยายน 1939 ก็บุกโปแลนด์เป็นอันดับต่อไป สงครามโลกครั้งที่สองจึงเกิดขึ้นตามมา ฮิตเลอร์เข้าร่วมกับญี่ปุ่นและอิตาลี เริ่มยึดดินแดนส่วนใหญ่ของยุโรปได้เกือบหมด อาศัยกลยุทธ์การบุกอย่างฉับไวที่เรียกว่า  “สงครามสายฟ้าแลบ” ไม่นาน ฝรั่งเศส เดนมาร์ก เบลเยียมก็ตกอยู่ใต้จักรวรรดิของเยอรมนี




บางช่วงเขาก็โปรดปรานบรรยากาศของความหายนะและสิ่งปรักหักพัง

ในวันที่ 6 มิถุนายน 1944 ฝ่ายสัมพันธมิตร ประกอบด้วยฝรั่งเศส โปแลนด์ อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแอฟริกาใต้ รวมตัวกันเป็นแนวร่วมต่อสู้เยอรมนี และเริ่มโต้ตอบกลับ โดยเข้ายึดนอร์มังดี และในที่สุดก็ปลดปล่อยฝรั่งเศสได้สำเร็จในปี 1945 มีนาคม กองทัพเยอรมนีถูกโจมตีแตกกระเจิง ฮิตเลอร์ฆ่าตัวตายหนีความพ่ายแพ้ในวันที่ 30 เมษายน 1945 ทิ้งตำนานบาดแผลสงครามที่เล่าขานไม่รู้จบไว้เบื้องหลัง

เมื่อได้ชมภาพสีน้ำเหล่านี้แล้ว ได้แต่ถอนหายใจว่า หากฮิตเลอร์เลือกเดินบนเส้นทางศิลปะในฐานะจิตรกรโลกของเราคงสวยงามกว่าที่เป็นอยู่นี้อย่างจินตนาการไม่ถึงเลยทีเดียว.


โดย :หลานไดโนเสาร์
ทีมงานนิตยสาร ต่วย'ตูน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.378 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 25 มีนาคม 2567 23:28:46