[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 01:45:39 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แมวผี-ผีและแมว  (อ่าน 4944 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
wondermay
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 23 มีนาคม 2554 12:09:23 »





" เรื่องแมวดำกับผีนับว่าเป็นเรื่องน่ากลัวคู่กับไสยศาสตร์คู่กับคนกลัวผีมายาวนานก็ว่าได้ "

      โดยเฉพาะคนไทยที่เชื่อว่าหากงานศพใด มีแมวดำเข้ามาเพ่นพ่าน สมควรไล่ไปให้พ้น เพราะหากวันดีคืนดีเจ้าแมวดำดันมากระโดดข้ามโลงศพ มีหวังแขกแตกตื่นวิ่งไปคนละทิศคนล่ะทาง
เหตุเพราะเป็นการฝึกคนตายให้ฟื้นคืน หากเป็นการฟื้นคืนมาพร้อมลมหายใจ คงไม่มีใครเตลิด แต่เพราะเป็นการเรียกวิญณาณให้หวนนคืน แถมฟื้นคืนมาคราวนี้จะมาพร้อมความอาฆาต
พยาบาท อาละวาดหลอกหลอนคนอื่น หรือว่าจะมาดีก็ยังไม่รู้ เป็นใครก็ต้องวิ่งไปก่อนตามประสาคนกลัวผี นั่นเป็นความเชื่อหนึ่งของคนรักไสยศาสตร์


       
       พิธีศพต่อให้เป็นพิธีกรรมพิธีกรรมที่คึกคักอย่างไร แต่ในงานพิธีแล้ว ความจริงก็วังเวงและเต็มไปด้วยความโศกสลด เฉพาะบรรยากาศก็ชวนให้ขนลุกขนพองแล้ว ผสมปนเปไปกับเจ้าแมวดำ
กับแววตาลุกโซน หรือทั้งเสียงร้องที่ก้องกังวานทั่วศาลาการเปรียญในยามที่ทุกคนตกอยู่ในความ นิ่ง ก็ยังชวนให้ขนพองสยองกันไปใหญ่ แต่เรื่องแมวดำยังคงเป็นเรื่องลี้ลับในประเทศ และ
ประเทศเพื่อนบ้านอีกหลายๆ ประเทศ

       อย่างในตำนานเก่าแกของอินเดียโบราณ เชื่อกันว่าแมวดำเป็นสัตว์ผี อันเป็นพาหนะของพระษัษฐีซึ่งคนอินเดียเขารู้จักกันดีว่าเป็นเทวีแห่งความตาย ของทารก หรือผีแม่ซึ่งประจำตัวเด็กนั่นเอง
ว่ากันว่าหากใครเห็นแมวดำที่ไหนในทุกวันที่ 6 มักจะเห็นพระษัษฐีปรากฎกายอยู่ ณ ที่นั่น และหมายถึงว่าจะมีเด็กหรือมีคนตายที่นั่นด้วยเช่นกัน มาถึงพิธีศพก็เช่นกัน ทางอินเดียก้อจะขับไล่แมวดำ
ที่มาป้วนเปี้ยนออกไป และถ้าหากบังเอิญแมวดำไปโดนศพเข้า ก็เชื่อกันว่าจะกลายเป็นรอยมลธินกับศพนั้นๆไปตลอด นี่คือความเชื่อของชาวอินเดีย

       ในคติความเชื่อของจีน ก็ถือกันว่าหากแมวข้ามสพผีนั้น จะฟื้นคืนชีพและกลายเป็นผีที่ดุร้ายมากซึ่งก็ไม่ต่างจากไทย แต่ที่พิเศษกว่าคือ ต้องเอากรรไกรหรือเหล็กวางไว้บนอกศพ เพื่อเป็นเหมือน
ตัวการสะกดวิญญาณ ไม่ให้ลุกขึ้นมาเกี้ยวกราด และวิธีการนำกรรไกรมาวางไว้บนอกนั้น ก็ยังพบเห็นในงานพิธีศพของชาวมลายูด้วย




ผีจะกละ

ประวัติความเป็นมา : ในพจนานุกรมฉบับรวมฮิต บอกว่าจะกละเป็นชื่อผีชนิดหนึ่งมีรูปเป็นแมวอยู่ในจำพวกผีป่า หมอผีเลี้ยงไว้สำหรับใช้ไปทำร้ายศัตรูหรือคู่อริ 
ลักษณะของผีจะกละ : จะกละคือผีแมว และน่าจะเป็นผีแมวป่าด้วย เพราะในตำราบอกว่าสามารถ พบเห็นได้ในป่า
วิธีป้องกันและจัดการกับผีจะกละ : บรรดาหมอผีและชาวป่านิยมเลี้ยงเอาไว้สำหรับใช้ให้ทำร้ายศัตรู ด้วยเหตนี้ชาวป่าทั้งหลายจึงไม่ค่อยพิสมัยหรือชื่นชอบเท่าใดนัก
การถ่ายทอดหรือรักษาเผ่าพันธุ์ : เนื่องจากผีจะกละเป็นสิ่งที่หมอผีปลุกเสกขึ้นมากฉะนั้นจึงไม่สามารถทราบได้ว่าสามารถถ่ายทอดได้โดยวิธีใด

ตำนาน ผีกละ

          เมื่อเจ้าของผีเม็งไม่ได้เลี้ยงดูปล่อยให้ผีอดอยาก ผีจะออกหากินเอง สิ่งที่ชอบกินคือของสดของคาว เช่น เลือด น้ำคร่ำของหญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ บางครั้งจะฆ่าเด็กทารก
แล้วล้วงกินตับไตของทารก หรือจะเข้าสิงร่างของคนโดยเฉพาะผู้หญิง เหตุที่ผีกละเข้าสิงร่างคน นอกจากเพราะความอดอยากแล้ว ยังเป็นเพราะคนที่ถูกสิงไปทะเลาะกับเจ้าของผี
หรือไปทำให้เจ้าของผีโกรธด้วยเรื่องใดๆ ก็ตาม ผีกละก็จะเข้าสิงร่างเพื่อแก้แค้นแทนเจ้าของ เมื่อถูกหมอผีบังคับถามชื่อเจ้าของ ผีจะไม่ยอมบอกให้เป็นที่ขายหน้าเจ้าของโดยง่ายดาย
แต่จะเที่ยวหากินไปอย่างตะกละตะกราม จึงเรียกกันว่า "ผีกละ" เมื่อมีอายุมากขึ้นจะเป็นผีแก่ หงอนจะงอกขึ้นที่ศีรษะคล้ายกับหงอนของไก่ เรียกกันว่า "ผีกละหงอน"


          คนโบราณนั้นมีความคิดตรงกันว่า ส่วนบนของผีกละ มีลักษณะคล้ายกับไก่ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า คนที่มีอาคมกล้าแข็งได้แอบเปิดดูหม้อที่อยู่ของผีกละ บางคนเห็นเป็น
ดั่งตัวหนอนยั้วเยี้ย บางคนเห็นเป็นดั่งหัวไก่อยู่เต็มหม้อ และยังมีเรื่องเล่าเป็นนิทานว่า ครอบครัวหนึ่งเป็นตระกูลผีกละ ต่อมาได้ลูกสะใภ้มาอยู่ร่วมเรือนเดียวกัน วันหนึ่งก่อนที่ทุกคนจะ
ออกไปทำนา โดยให้ลูกสะใภ้เฝ้าบ้าน แม่ผัวได้สั่งลูกสะใภ้ให้ดูแลบ้านให้ดี อย่าให้ใครมาปีนดูโน่นดูนี่เป็นอันขาด โดยเฉพาะบนควั่นเพดาน เมื่อคนในบ้านพากันออกไปทุ่งนากันหมดแล้ว
ลูกสะใภ้เกิดความสงสัยว่ามีอะไรอยู่บนเพดาน จะเป็นผีกละที่เคยได้ยินได้ฟังมาหรือไม่ ก็อยากจะพิสูจน์ดูให้รู้แจ้ง จึงปีนขึ้นไปดู ก็เห็นหม้อดินปิดปากด้วยผ้าขาว จึงเปิดออกดูสิ่งที่เห็น
อยู่ในหม้อเป็นสัตว์ มีลักษณะคล้ายกับไก่ มีหงอนเต็มไปหมด จึงต้มน้ำร้อนแล้วนำขึ้นไปราดลงในหม้อใบนั้น ปรากฏว่าต่อมาคนในครัวเรือน รวมทั้งลูกสะใภ้คนนั้น ได้เสียชีวิตทั้งหมด

          มีผู้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า หญิงสาวคนใดที่เป็นตระกูลผีกละ ในเวลากลางคืนสาวคนนั้นจะดูสวยซึ้งกว่าปกติ ยิ่งดึกยิ่งสวยบาดใจ เมื่อมีหนุ่มไปแอ่วสาวคุยกับสาวคนนั้นตามประเพณีเก่าก่อน
สาวคนนั้นจะมีเสน่ห์ทำให้หนุ่มๆ พากันหลงใหล เล่ากันว่าคนที่มีอาคมหากได้ท่องมนต์แล้วมอง หรือยืนหันหลังให้กับหญิงคนนั้น แล้วก้มศีรษะลงมองผ่านระหว่างขาของตัวเอง จะเห็นว่ามีลิง 2 ตัว
นั่งอยู่บนไหล่ของหญิงคนนั้น คอยเลียแก้มข้างละตัวอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้หญิงนั้นสวยเข้มมีแก้มแดงระเรื่อสดใสอยู่ตลอดเวลา

          ศัตรูของผีกละ คือ นกฮูก ซึ่งมีอยู่หลายชนิด แต่มีชนิดหนึ่งที่คนล้านนาเรียกว่า "นกเค้าผีกละ" นกเค้ามีเรื่องโกรธกันกับผีกละ แต่ไม่ทราบว่าโกรธกันด้วยเรื่องใด เมื่อผีกละจะออกไป
ทางไหน นกเค้าจะไปส่งเสียงร้องอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อเตือนให้คนรู้ว่า ผีกละกำลังจะมา ครอบครัวใดที่มีเด็กทารก เมื่อได้ยินเสียงร้องของนกเค้า จะป้องกันเด็กทารกให้ปลอดภัยจากผีกละ
รบกวนด้วยเครื่องรางหลายชนิด

          ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2505 ลงไป เรื่องที่ผีกละเข้าสิงคนมีให้เห็นอยู่ทั่วไป และถือเป็นเรื่องธรรมดา ผู้เขียนเองก็เคยพบเห็นมากับตาตัวเอง ผีกละจะเลือกเข้าสิงผู้หญิงตั้งแต่สาว
ไปจนถึงหญิงที่มีอายุประมาณ 50 ปี การเข้าสิงของผีในคน เท่าที่เคยรู้มา ส่วนมากจะเข้าตอนที่คนไปทำกิจธุระที่ต่างๆ เมื่อกลับมาบ้าน จะเดินดุ่มๆ ขึ้นเรือน ไม่ทักทายใครทั้งนั้น อาการของ
คนที่ถูกผีกละเข้าสิง ตอนแรกจะโหยไห้ คนเมืองเรียกว่าการ "หุย" คล้ายกับการโหยไห้ของลูกหลานเมื่อพ่อแม่เสียชีวิตลง มีเสียงดังไปไกล ชาวบ้านที่ได้ยินเสียงก็จะพากันมาดู ถึงตอนนี้
คนที่ถูกผีกละสิง จะอาย หลบหน้าไม่กล้าสบสายตากับใคร มีท่าทางซึมเซา ผู้ที่พบเห็นจะรู้ได้ทันทีมีผีสิงอยู่ในร่าง ญาติๆ จะถามว่ามาจากไหน ใครเป็นเจ้าของ ผีจะไม่ยอมบอกชื่อผู้เป็นเจ้าของ
เมื่อถามว่าต้องการอะไร หรือว่ามีใครไปทำให้โกรธ ก็จะขออภัย และอ้อนวอนผีให้ออกจากร่างของคนนั้นแล้วกลับไปเสีย บางครั้งถ้าคนพูดมีศิลปะหรือจิตวิทยา รู้จักกล่าวเยินยอ ขอร้อง
ช่วยกันอ้อนวอน ผีก็จะยอมออกจากร่างไป มีข้อสังเกตง่ายๆ เมื่อผีจะออกจากร่าง คนที่ถูกผีเข้าสิงจะอาเจียนเอาลมออกมาทางปาก เสียงดังโอ้กอ้าก และจะล้มลงนอนแน่นิ่ง พอรู้สึกตัว
จะพรวดพราดลุกขึ้นนั่ง เมื่อเห็นชาวบ้านรุมดูอยู่ ก็จะถามด้วยความแปลกใจว่ามากันทำไม

          หากขอร้องวิงวอนแล้ว ผีก็ไม่ยอมออกจากร่าง ญาติก็จะไปขอให้หมอผีในหมู่บ้านที่มีคาถาอาคมมาทำพิธีไล่ผี โดยการเฆี่ยนตีตามร่างกายของหญิงที่ถูกผีสิง พร้อมกับด่าว่าต่างๆ
นานา บางครั้งถึงกับตบหน้าก็มี เมื่อถูกข่มขู่มากเข้า หมอผีบังคับให้บอกชื่อเจ้าของ ผีก็จะบอก สุดท้ายหมอผีจะบังคับให้ผีออกจากร่างไป

          แต่ถ้าเป็นผีกละที่เป็นผีแก่ จนถึงมีหงอนงอกที่ศีรษะแล้ว จะไม่ยอมออกง่ายๆ เหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นหมอผีที่ไม่เก่งจริง พอเหยียบบันไดขึ้นบ้าน ผีจะหัวเราะเสียงดัง เมื่อข่มขู่บังคับ
ผีจะบอกว่าไม่กลัว ไม่กลัว ทำให้หมอผีผู้นั้นต้องเหงื่อตกเหมือนกัน เมื่อไม่ยอมออกจริงๆ ญาติก็จะต้องไปหาหมอผีที่มีชื่อเสียงและเก่งจริงๆ มาบังคับ พอหมอที่มีอาคมเก่งกล้ามาถึง
ผีจะมีอาการหวาดกลัวไม่ยอมหันหน้ามาหา หมอจะให้ญาติไปตัดเอาต้น "กุ๊ก" (มีลักษณะคล้ายต้นข่า) มา หมอจะเสกด้วยคาถา แล้วเฆี่ยนตีไปที่ลำตัวของคนที่ถูกผีสิง ผีจะร้องโหยหวนด้วย
ความเจ็บปวด หมอจะบังคับให้บอกชื่อเจ้าของ ถ้ายังไม่บอก หมอจะเคี้ยวพริกไทยแห้งพ่นเข้าไปที่ตา พร้อมกับขู่ว่า "ถ้ามึงไม่บอก กูจะทำให้ตามึงบอด" ถึงตอนนี้ผีจะบอกชื่อเจ้าของว่าเป็นใคร
บ้านอยู่ที่ไหน และจะบอกสาเหตุที่เข้าสิง หมอบางคนที่อยากจะแสดงความสามารถของตนให้คนเห็นมากขึ้น อาจจะบังคับให้ผีที่อยู่ในร่างของคนใช้ลิ้นแลบเลียฝ่าเท้าของหมอ บางครั้งจะใช้
หม้อแกงดินเผาครอบไปที่ศีรษะของคนที่ถูกผีสิง แล้วใช้มีดหมอเสกด้วยคาถาแล้วเอาไปโกนไปที่ก้นหม้อ ทำเหมือนกับการโกนผม แต่โกนไม่ทั่วทั้งหมด ถ้าหมอทำแบบนี้เชื่อว่าเจ้าของผีจะผมร่วง
ลักษณะเหมือนกับที่โกนก้นหม้อ เพราะจะเหลือผมบนศีรษะเป็นหย่อมๆ ต้องใช้ผ้าโพกศีรษะไว้ไม่ให้คนเห็น ไม่ออกจากบ้านไปไหนนานเป็นเดือน รอจนกว่าผมจะขึ้นใหม่ หมอผีที่ใช้วิธีนี้จะสร้าง
ความอาฆาตแค้นให้กับผีและเจ้าของผีรายนั้นเป็นอย่างมาก


          หลังจากแกล้งเจ้าของผีให้ได้อายแล้ว หมอผีจะบังคับให้ผีกละออกจากร่างคน ผีกละที่เข้าสิงในตัวคนนานๆ จะออกจากร่างลำบาก หมอก็จะเร่งให้ออกด้วยการเอามือดึงผมจนหน้าแหงน
แล้วพ่นน้ำมนต์ไปที่ใบหน้าบ้าง เสกมีดหมอจี้ไปตามร่างกายบ้าง ผีจะร้องว่า "กลัวแล้วๆ" หมอจะตะคอกว่า "เมื่อกลัวก็ออกไปเสียซิ" ผีจะร้องบอกว่า "ออกไม่ได้ เพราะติดหงอน" คือหมายถึงหงอน
ของผีไปติดอยู่ในร่างคน หมอจึงต้องใช้มีดหมอเสกด้วยอาคม แล้วเอาไปตัด โดยถูไปมาบนศีรษะของคนที่ถูกผีสิง พร้อมกับพูดว่า "เอ้าตัดหงอนให้แล้ว จงออกไปเสีย และอย่าได้กลับมาอีก"
คนที่ถูกผีสิงจะอาเจียนเสียงดังโอ้กอ้าก พร้อมกับล้มลง ฟุบหน้ากับพื้น แสดงว่าผีได้ออกไปจากร่างของคนแล้ว

          ต่อมาภายหลังเมื่อหมอมีอายุมากขึ้น พลังเวทมนต์คาถาที่มีอยู่ จะค่อยๆ อ่อนลงไปตามวัย เมื่อพลังเวทไม่กล้าแข็งดังเดิม ผีกละที่เก็บความอาฆาตแค้นไว้ จะกลับมาทำร้ายหมอผู้นั้น
ให้ตายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง คนโบราณท่านจึงสอนหมอผีไว้ว่า เมื่อผีกลัวแล้วก็อย่าได้ไปบังคับข่มขู่ผีให้มากจนเกินไป ให้พูดจาด้วยความนิ่มนวล ผีก็เหมือนกับคน ถ้าคนพูดดี บางทีผีก็ยอมออก
จากร่างคนโดยง่าย





ที่มาจาก showded.com






猫又
เนโกะมาตะ

        เนโกะมาตะ (「猫又」, Nekomata, 猫又?) หรือ แมวผี มีเรื่องเล่ามาว่า เมื่อแมวบางตัวมีอายุมากจะมีตะบะสูงขึ้น แล้วกลายเป็นแมวผี ที่เรียกว่าบากะเนโกะ ซึ่งมีหลายวิธีที่มัน
จะสามารถกลายเป็นบากะเนโกะได้ และเมื่อหางมันแยกออกเป็น 2 หาง มันถึงจะพัฒนากลายเป็นเนโกะมาตะ ซึ่งเนโกะมาตะสามารถขยายตัวได้ถึง 1 เมตร และส่วนมากจะเดินด้วยขาหลัง 2 ขา
และมันเป็นผีที่ไม่ยอมให้ใครมาดูถูก ถ้าใครปฏิบัติกับมันไม่ดี มันจะจดจำอย่างฝังใจ เชื่อกันว่าการเต้นรำของเนโกะมาตะสามาถควบคุมคนตายได ้ และยังเชื่ออีกว่าเนโกะมาตะเป็นสาเหตุของ
เพลิงไหม้ทีผิดปกติ จึงมีความเชื่อบางอย่างที่จะตัดหางแมวออกซะ เพื่อป้องกันไม่ให้มันกลายเป็นเนโกะมาตะ

       เรื่องเล่าของเนโกะมาตะ แตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ บ้างก็เชื่อว่าเนโกะมาตะจะกิน แม้กระทั่งเจ้านายของตัวเอง และการที่ทิ้งแมวไว้กับศพเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เพราะมันอาจจะปลุกศพ
ให้คืนชีพ และควบคุมศพได้ แต่ขณะเดียวกันก็มีเรื่องที่เล่าถึงเนโกะมาตะซึ่งหลง รักเจ้านายของตน และแปลงร่างเป็นสาวงามเพื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน




Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น: แมวผี ผี แมว  
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.468 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 09:47:35