'เครียด' ต้องระวังเส้นเลือดในสมองตีบ

'เครียด' ต้องระวังเส้นเลือดในสมองตีบ

"เครียด" อาจส่งผลให้เกิดโรคเส้นเลือดในสมองตีบได้ เพราะทำให้เกิดการเกร็งและเส้นเลือดหดตัว ต่อมใต้สมองไฮโปทาลามัสและต่อมพิทูอิทารี จะส่งสัญญาณระบบประสาทอัตโนมัติให้ผลิตสารอีพิเนฟรินและคอร์ติซอล หรือ "สารความเครียด" เพื่อเพิ่มค่าออกซิเจนในเลือด

แต่เมื่อเกิดความเครียดต่อเนื่อง การบีบรัดตัวของเส้นเลือดและความดันที่สูงขึ้นจะทำให้หลอดเลือดเป็นแผลเกิดคราบเกาะอยู่บนผนังหลอดเลือด เมื่อมีลิ่มเลือดหรือไขมันที่ลอยอยู่ในหลอดเลือดไปติดบริเวณดังกล่าวอาจทำให้เส้นเลือดตีบลง และถ้าเกิดการตีบตรงเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองพอดี จะเสี่ยงทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองทำให้เป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ได้

"นพ.สุวินัย บุษราคัมวงษ์" แพทย์สาขาอายุรกรรมสมอง ร.พ.กล้วยน้ำไท 1 กล่าวว่า สมองควบคุมทุกส่วนในร่างกายทั้งกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ความคิด ความจำ การมองเห็น หากขาดเลือดเพียง 5 นาทีเนื้อสมองบริเวณที่ขาดเลือดก็จะถูกทำลายถาวร

"80% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเกิดจากเส้นเลือดในสมองตีบและอุดตัน อาการต่างๆ ขึ้นอยู่กับจะไปอุดตันสมองส่วนไหนทำให้สมองบริเวณนั้นขาดเลือด เช่น ถ้าอุดตันบริเวณที่ควบคุมปาก และลิ้น จะทำให้ปากเบี้ยวพูดไม่ชัด มุมปากตก ถ้าเกิดบริเวณควบคุมแขนขาจะทำให้ชาหรือขยับไม่ได้ เรียกว่าอัมพาต ถ้ามีอาการอ่อนแรงเรียกว่าอัมพฤกษ์ เกิดบริเวณตาจะทำให้เกิดตามัว มองภาพซ้อน หรือตาบอดข้างเดียว"

"ถ้าเป็นการขาดเลือดแบบชั่วคราวจะมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นแล้วหายไปเอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นหลายครั้งก่อนเกิดอาการสมองขาดเลือดแบบถาวร อาการดังกล่าวเป็นสัญญาณเตือนของโรคหลอดเลือดสมอง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจจะกลายเป็นโรคอัมพาต อัมพฤกษ์ ซึ่งต้องใช้เวลารักษานานอาจหลายปี และอาจเสี่ยงต่อชีวิต" นพ.สุวินัยกล่าว

ด้าน "แพทย์แผนจีน บุญเหลือ รุ่งสกาวเลิศ" ร.พ.กล้วยน้ำไท 1 กล่าวว่า ความดันเลือดเป็นเรื่องสำคัญ ผู้หญิงมักมีปัญหาเรื่องเส้นเลือดตีบมากกว่าผู้ชายเพราะความดันเลือดน้อยกว่า ส่วนผู้ชายมักเจอเรื่องเส้นเลือดแตก ผู้บริหาร คนสูงอายุ และผู้ที่ต้องเผชิญกับความเครียดเป็นประจำเส้นเลือดจะไม่ค่อยยืดหยุ่น เพราะปกติแล้วเส้นเลือดจะฝังตัวอยู่ในกล้ามเนื้อ เมื่อเกิดความเครียดกล้ามเนื้อจะหดตัวทำให้เส้นเลือดในกล้ามเนื้อถูกบีบไปด้วย ยิ่งช่วงอากาศร้อนผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดตีบควรระวัง เพราะน้ำจะระเหยออกจากตัวมากทำให้เลือดข้นเกิดเป็นลิ่มเลือดและอาจทำให้เส้นเลือดอุดตันได้

"ผู้ป่วยโรคนี้ควรฝึกนั่งสมาธิ ปล่อยวาง หาอะไรที่ทำแล้วสบายใจและหาเวลาพักผ่อนเพื่อปล่อยวางจากความเครียด"