[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 10:48:58 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องแมวๆ & ตำราดูลักษณะแมว  (อ่าน 7269 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 15 สิงหาคม 2559 19:34:04 »




ไม่ว่าแมวขาวหรือแมวดำ แค่ร้องเหมียวๆ ก็คือแมว
ประธานเหมาไม่ได้กล่าว แต่ประธานแม็คได้กล่าวไว้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 กันยายน 2559 18:57:20 โดย กิมเล้ง » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 สิงหาคม 2559 17:30:00 »


   แมวกวัก

จากบทความเสริมความรู้เกี่ยวกับญี่ปุ่น โรงเรียนสอนภาษาเจซีซี เขียนถึง แมวกวัก ว่า มาเนะคิเนโคะ (Manekineko) คือชื่อของแมวกวักที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าจะนำความสุข โชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมาให้

จากความเชื่อดังกล่าว จึงพากันนำมาเนะคิเนโคะมาทำเป็นตุ๊กตาแมวตั้งไว้ในบ้าน โดยเฉพาะในร้านค้า เพราะเชื่อว่าจะช่วยทำให้การค้าขายดีเจริญร่ำรวย

ประวัติเป็นมาของแมวกวัก ค้นพบว่าปรากฏขึ้นครั้งแรกในตอนปลายสมัยเอโดะ (ค.ศ.๑๖๐๓-๑๘๖๗) โดยพบจากหลักฐานเอกสารที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ปี ๑๘๗๐ (ยุคเมจิ) ซึ่งระบุว่า มีการแจกแมวกวักในศาลเจ้าแห่งหนึ่งที่เมืองโอซากา และมีการลงโฆษณาเกี่ยวกับแมวกวักในหนังสือพิมพ์เมื่อปี ๑๙๐๒ ด้วย

ส่วนลักษณะของแมวกวัก สันนิษฐานว่ามีที่มาจากท่าทางของแมวที่ทำความสะอาดหน้าตนเองก่อนฝนจะตก เนื่องจากธรรมชาติของแมวมักกระวนกระวายเมื่อสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง มันจึงใช้เท้าป้ายไปตามหน้าตา

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้เกิดความเชื่อต่างๆ อาทิ จีนมีความเชื่อว่าเมื่อแมวล้างหน้า ฝนจะตก ขณะที่ญี่ปุ่นเชื่อว่าใครเห็นแมวทำความสะอาดหน้า จะมีแขกมาหา จึงทำให้มีความเชื่อต่อไปอีกว่า หากเห็นแมวทำความสะอาดหน้าของตนเองเมื่อไหร่ จะมีลูกค้าเข้าร้าน นี่จึงอาจเป็นต้นกำเนิดของมาเนะคิเนโคะ

เชื่อกันอีกว่า หากมาเนะคิเนโคะ กวักขวา หมายถึงโชคลาภ เงินทอง, กวักซ้าย หมายถึงโชคดีด้านการงาน ความรัก, กวักทั้งสองข้าง หมายถึงโชคดีสองเด้ง คือได้ครบหมดทั้งการเงิน การงาน ความรัก

นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่า ถือลูกแก้ว หรือ แมวพนมมือ หมายถึง การขอพร, ถือถุง หมายถึง ร่ำรวยเงินทอง เก็บตังค์อยู่ ค้าขายเจริญก้าวหน้า, ถือปลา หมายถึง รวยๆ, ถือมะเขือ หมายถึง ปราศจากโรคภัย และ ความโชคดี

มีเรื่องเล่าขานตำนานแมวกวักอยู่ ๓ เรื่อง คือ

เรื่องแรก เศรษฐีคนหนึ่งบังเอิญไปหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ใกล้กับวัดโกโตกุจิ วัดนี้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ในขณะที่หลบฝนอยู่นั้น ได้เห็นแมวตัวหนึ่งกวักเรียกเชื้อเชิญให้เข้าไปในวัด และเมื่อเศรษฐีเดินเข้าไป ทันใดฟ้าก็ผ่าลงที่ต้นไม้นั้น เศรษฐีเชื่อว่ารอดตายมาได้เพราะแมวกวักเรียกเขา ด้วยสำนึกในบุญคุณจึงบูรณะวัดให้กลับมางดงาม และเมื่อแมวตัวนั้นตายลง เขาก็ได้สร้างมาเนะคิเนโคะขึ้นด้วยความเคารพระลึกถึง

เรื่องที่ ๒ มีโสเภณีชื่ออึสุกุโมะ เธอเก็บแมวตัวหนึ่งมาเลี้ยงด้วยความรัก ดูแลทะนุถนอมเป็นอย่างดี คืนหนึ่ง แมวตัวนั้นดึงชุดกิโมโนของเธอ แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร นานวันไปแมวตัวนั้นยังทำพฤติกรรมเหมือนเดิมจนเจ้าของสำนักเห็น และเชื่อว่ามันเป็นแม่มด จึงตัดหัวมัน หัวของแมวกระเด็นไปถึงเพดานไปกระแทกงูที่ซ่อนอยู่บนเพดานตาย

อึสุกุโมะเศร้าโศกเสียใจมาก จนลูกค้าคนหนึ่งเห็นใจ ให้ของขวัญเธอเป็นแมวที่เขาแกะสลักขึ้น เชื่อกันว่าแมวนั้นคือมาเนะคิเนโคะ

เรื่องที่ ๓ หญิงชราคนหนึ่งมีฐานะยากจนมาก แต่ก็พยายามเจียดอาหารเท่าที่มีแบ่งเลี้ยงแมวที่รัก แต่วันหนึ่งไม่สามารถเลี้ยงแมวตัวนั้นต่อไปได้อีก จึงนำมันไปปล่อย คืนนั้นเธอนอนร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกเสียใจจนหลับไป แมวตัวนั้นมาเข้าฝันบอกให้ปั้นรูปแมวด้วยดินเหนียว เมื่อเธอตื่นขึ้นมาและปั้นตามความฝัน ในวันนั้นมีแขกมาหาและขอซื้อแมวตัวนั้นไป

ยิ่งหญิงชราปั้นแมวมากเท่าใด ก็มีคนมาขอซื้อมากขึ้นเท่านั้น จนที่สุดก็มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงแมวที่รักตลอดไป

ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสีของมาเนะคิเนโคะด้วยว่า แมวลำตัวสีขาว มีจุดดำอยู่บนพื้นสีส้ม เป็นสีแห่งโชคลาภ และเป็นที่นิยมมากที่สุด ลักษณะคล้ายคลึงกับ Japanese Bobtall Cat หรือแมวหางกุดสายพันธุ์โบราณของญี่ปุ่น

ส่วน แมวกวักสีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์, สีดำ มีความหมายเกี่ยวกับ สุขภาพดี ขับไล่สิ่งชั่วร้าย, สีทอง มั่งคั่งร่ำรวย, สีแดง เป็น สีแห่งความคุ้มครอง ป้องกันปีศาจร้าย และความเจ็บป่วย, สีเขียว จะนำพาความสำเร็จในด้านการศึกษา,

สีชมพู สีนี้ที่ไม่ได้มีมาแต่ดั้งเดิม แต่เป็นที่นิยมว่าจะให้โชคเกี่ยวกับความรัก และสีม่วง ให้พลังแห่งศิลปะ
...ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 13 กันยายน 2559 20:14:14 »



ตำราดูลักษณะแมวไทย
จากสมุดข่อยโบราณ
Kimleng

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงซุกซน น่ารัก เลี้ยงง่าย เล่าสืบต่อกันมาว่า แมวอยู่กับคนมานานนับเป็นเวลาพันๆ ปี จึงเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ป่าชนิดเดียวที่ไม่กลัวคนและอยู่ใกล้ชิดคนมากที่สุด แมวมาอาศัยอยู่บ้านคนนั้้นเพราะเหตุเดียวคือในบ้านคนมีอาหารมากที่สุด ได้แก่หนู ซึ่งแมวจะจับกินเอง

แมวเป็นสัตว์รักอิสระเสรีภาพ เวลาคนส่งเสียงเรียกให้มาหา แมวชอบใจก็จะมา ไม่ชอบใจก็ไม่มา นึกสนุกขึ้นมาก็ไปเที่ยวที่อื่นเสียหลายวัน และนึกจะกลับบ้านเมื่อไรก็กลับ สรุปแล้วแมวก็มีลักษณะดึงดูดให้คนได้หามาเลี้ยงดูสืบต่อเรื่อยมาจนปัจจุบัน  อย่างน้อยๆ ก็ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา ดังบทดอกสร้อยว่า "...ร้องเรียกเหมียวๆ เดี๋ยวก็มา เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู" และที่เคล้าแข้งเคล้าขานั้นก็ไม่รู้ว่าแมวว่าง่าย หรือแมวรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้ทำกิริยาเช่นนั้น ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าไม่มีขาคน แมวก็จะเคล้าขาโต๊ะหรือขาเก้าอี้

ในหนังสือโบราณของหอสมุดแห่งชาติ มีสมุดข่อยโบราณ เรียกว่า ตำราดูลักษณะแมว แสดงประเภทแมวดี ๑๗ ชนิด และแมวร้าย ๖ ชนิด เป็นข้อพิจารณาในเบื้องต้นแก่ผู้รักแมวและกำลังมองหาแมวมาอุปการะเลี้ยงดู เพื่อจักได้บังเกิดผลประโยชน์ต่อกัน เพราะคนไทยมีความเชื่อว่า การเลี้ยงแมวลักษณะดีย่อมเป็นมงคล จะนำสิ่งดี มีโชคลาภ นำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตนและครอบครัว ในทางตรงกันข้ามเชื่อว่า หากได้แมวลักษณะไม่ดี หรือแมวร้ายมาเลี้ยงไว้ เปรียบดังเงาร้าย ครอบครัวจะหาความสุขไม่ได้  มีทุกข์ภัยที่ประดังเข้ามาอย่างไม่คาดฝัน เป็นต้น


ตำราดูลักษณะแมว จากสมุดข่อยโบราณ
แมวดี ๑๗ ชนิด ได้แก่




๑.แมว “วิลาศ” "แม้ใครใคร่เลี้ยงโดยหมาย จักได้เป็นนายผู้ใหญ่เลื่อนที่ถานา ศฤงคารโภคา ทรัพย์สินจักมาเนืองๆ บริบูรณ์พูลมี"  
       ราวคอทับถงาดท้อง      สองหู
       ขาวตลอดหางดู          ดอกฝ้าย
        มีเสวตรสี่บาทตรู        สองเนตร์ เขียวแฮ
       งามวิลาศงามคล้าย       โภคพื้น กายดำ
แมววิลาศ ลักษณะตั้งแต่คอถึงท้องและสองหู ตลอดถึงหางและขาทั้ง ๔ มีสีขาวตลอดเหมือนดอกฝ้าย ลูกตาสองตามีสีเขียว ลำตัวส่วนอื่นๆ เป็นสีดำ ลักษณะสวยงาม
 



๒.แมว “นิลรัตน์"  ถ้าเลี้ยงไว้ย่อมมีคุณเอนกา ศฤงคารโภคา จะเนื่องเป็นนิจบริบูรณ์
       สมยานามชาติเชื้อ       นิลรัตน์
       กายดำสิทธิสามรรถ      เลิศพร้อม
       ฟันเนตรเล็บลิ้นทัต       นิลคู่ กายนา
       หางสุดเรียวยาวน้อม      นอบโน้มเสมอเศียร
“นิลรัตน์” แปลว่า มณีสีดำ ลักษณะขนสีดำสนิท ฟัน นัยน์ตา เล็บและลิ้นก็เป็นสีดำ หางยาวเรียวยกตวัดได้ถึงหัว




๓.แมว “นิลจักร”   กายดำคอขาวรอบขน ใครเลี้ยงเกิดผลทรัพย์สินสมบัติมากมี
       นิลจักรบอกชื่อช้อย     ลักษณา
       กายดุจกลปีกกา         เทียบแท้
       เสวตรอบรัดกรรฐา      โดยที่
       เนาประเทศได้แม้         ดั่งนี้ควรถนอม
แมวนิลจักร ลักษณะสีกายดำเหมือนสีปีกของกา รอบลำคอมีสีขาว ดูเหมือนกับสวมปลอกคอสีขาว เป็นแมวดีที่ควรเลี้ยงรักและถนอมรักษา




๔.แมว “เก้าแต้ม” ใครได้แมวเก้าแต้มไว้เลี้ยงดูก็จะทำให้การค้าขายรุ่งเรือง ร่ำรวย
       สลับดวงคอโสตรัตต้น       ขาหลัง
       สองไหล่กำหนดทั้ง           บาทหน้า
       มีโลมดำบดบัง               ปลายบาท สองแฮ
       เก้าแห่งดำดุจม้า             ผ่าพื้นขาวเสมอ
แมวเก้าแต้ม ลักษณะลำตัวเป็นสีขาว มีดวงตาสีดำ แต้มตามลำตัวที่คอ หู สองไหล่ ปลายเท้าหน้าทั้งสองข้าง รวม ๙ แห่ง ลักษณะแต้มสีดำนี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ปลายหางเรียวยาว สีขาว




๕.แมว “มาเลศ” หรือ “ดอกเลา”  ใครพบเร่งให้อุปถัมภ์ แมวนั้นจักนำสุขสวัสดิ์มงคล
       วิลามาเลศพื้น            พรรณกาย
       ขนดังดอกเลาราย        เรียบร้อย
       โคนขนเมฆมอปลาย      ปลอมเสวตร
       ตาดั่งน้ำค้างย้อย          หยาดต้องสัตบง
แมวมาเลศ หรือแมวดอกเลา ลักษณะลำตัวมีสีดอกเลา คือขนสีเทามอๆ เหมือนเมฆสีเทายามฟ้าพยับฝน มีนัยน์ตาขาวใสหยาดเยิ้มเหมือนสีหยดน้ำค้างบบกลีบดอกบัว




๖.แมว “แซมเสวตร
       ขนดำแซมเสวตรสิ้น     สรรพภางค์
       ขนคู่โลมกายบาง        แบบน้อย
       ทรงระเบียบสำอาง        เรียวรุ่นห์ งามนา
       ตาดั่งแสงหิ่งห้อย         เปรียบน้ำทองทา
แมวแซมเสวตร ลักษณะตลอดลำตัวมีขนสีดำแซมด้วยสีขาว ขนเส้นเล็กบาง ละเอียด และค่อนข้างสั้น รูปร่างบางรูปทรงสวยเพรียว ดวงตาสีเขียวเป็นประกายสดใสเหมือนแสงหิ่งห้อย หรือเปรียบเสมือนทาด้วยน้ำทอง




๗.แมว “รัตนกำพล” "ใครเลี้ยงจักมียศถา มีเดชานุภาพแก่คนเกรงกลัว"
       สมยากาเยศย้อม      สีสังข์
       ชื่อรัตนกำพลหวัง     ว่าไว้
       ดำรัดรอบกายจัง       หวัดอก หลังนา
       ตาดั่งเนื้อทองได้        หกน้ำเนียรแสง
แมวรัตนกำพล ลักษณะ ขนสีขาวนวลเหมือนสีหอยสังข์  ช่วงอกถึงหลังมีสีดำรอบลำตัว สีนัยน์ตาเหมือนสีทองน้ำหกเป็นประกายดูเนียนตา  




๘.แมว “วิเชียรมาศ” "มีคุณยิ่งล้ำนัก จักนำโภคาพิพัฒน์สมบัติเพิ่มพูล"  
       ปากบนหางสี่เท้า        โสตสอง
       แปดแห่งดำดุจปอง       กล่าวไว้
       ศรีเนตรดั่งเรือนรอง      นาคสวาดิ ไว้เอย
       นามวิเชียรมาศไซร้       สอดพื้นขนขาว
แมววิเชียรมาศ ลักษณะขนสีขาว แต่ที่ปากส่วนบน หาง เท้าทั้งสี่ และหูทั้งสองข้าง รวม ๘ มีสีดำ(สีเข้ม) มีนัยน์ตาประกาย สดใส




๙.แมว “ศุภลักษณ์” หรือ “ทองแดง”  ใครเลี้ยงจักได้ยศถา ยิ่งพ้นพรรณนาเป็นที่อำมาตย์มนตรี
       วิลาศุภลักษณ์ล้ำ           วิลาวรรณ
       ศรีดังทองแดงฉัน            เพริศแพร้ว
       แสงเนตรเฉกแสงพรรณ     โณภาษ
       กรรษสรรพโทษแล้ว         สิ่งร้ายคืนเกษม
แมวศุภลักษณ์ หรือ ทองแดง ลักษณะร่างกายสวยงามมาก สีขนเหมือนสีทองแดงตลอดทั้งตัว นัยน์ตาเป็นประกายแวววาว แมวชนิดนี้ให้คุณ ช่วยให้สิ่งที่เป็นโทษหรือสิ่งร้ายกลับกลายเป็นสิ่งที่ดีได้




๑๐.แมว “มุลิลา” แมวชนิดนี้ ตำราว่าให้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ ไม่ควรเลี้ยงตามบ้าน
       มุลิลาปรากฏแจ้ง         นามสมาน
       ใบโสตสองเสวตรปาน     ปักล้วน
       ศรีตาผกาบาน            เบญจมาศ เหลืองนา
       หางสุดโลมดำถ้วน         บาทพื้นกายเศียร
แมวมุลิลา ลักษณะ ขนเรียบ เป็นมัน สีพื้นลำตัวตลอดถึงหางเป็นสีดำ บริเวณสองหูเป็นสีขาว นัยน์ตาสีเหลืองเหมือนสีดอกดอกเบญจมาศเหลืองบาน




๑๑.แมว “กรอบแว่น” หรือ “อานม้า”  ตีค่าแสนตำลึงทอง ใครเลี้ยงจักนำเกียรติยศมาให้เจ้าของ
       นามกรอบแว่นพื้น     เสวตรผา
       ขนดำเวียนวงตา       เฉกย้อม
       เหนือหลังดั่งอานอา    ชาชาติ
       งามดั่งวงหมึกพร้อม     อยู่ด้าวใดแสวง
แมวกรอบแว่นหรือแมวอานม้า ลักษณะพื้นกายสีขาว มีขนสีดำรอบดวงตาทั้งสองข้างเหมือนกรอบแว่นตา และมีสีดำที่หลังของลำตัว  เหมือนอานหรือที่นั่งบนหลังม้า เป็นแมววดีมีลักษณะดีมีมงคล ซึ่งผู้คนจะเสาะแสวงหามาเลี้ยงกันมาก




๑๒.แมว “ปัศเวต” หรือ “ปัดตลอด” (อ่านว่า แมว "ปัด-ศะ-เวด") หนึ่งดั่งปัดตลอดสอดสี ตำราว่าแมวดี ใครเลี้ยงจักยิ่งตระกูล
       ปัศเวตลักษณนั้น      ปลายนา ษาฤๅ
       ขาวตลอดหางหา      ยากพร้อม
       รลุมเฉกสลับตา        กายเฟพ เดียวแฮ
       ตาดั่งคำชายล้อม       บุศน้ำพลอยเหลือง
แมวปัศเวต หรือ ปัดตลอด ลักษณะขนสีดำ ขนที่ปลายจมูก ผ่านศีรษะ หลัง ตลอดจนจรดปลายหาง (ด้านบน) เป็นริ้วทางยาวสีขาวตลอด นัยน์ตาเป็นประกายสีเหลืองเหมือนสีบุษย์น้ำพลอย และมีขนสีเหลืองเหมือนทรายทองล้อมรอบดวงตา สวยงามมาก แมวปัศเวต เป็นแมวที่หายากมาก




๑๓.แมว “การเวก”  ถ้าได้เลี้ยงจะนำโชคลาภมาให้เจ้าของเปลี่ยนฐานะขึ้นไปเรื่อยๆ
       มีนามการเวกพื้น        กายดำ
       ศรีศรลักษณนำ         แนะไว้
       สองเนตรเลื่อมแสงคำ    คือมาศ
       ด่างที่ณาษาไซร้         เสวตรล้วนรอบเสมอ
แมวการเวก ลักษณะพื้นกายสีดำ แต่ไม่ดำหมดทั้งตัว ที่ปลายจมูกมีแต้มสีขาวเล็กน้อย ดวงตาเป็นประกายเลื่อมแสงสีเหลืองอำพันทองสดใส




๑๔.แมว “จตุบท”  หนึ่งสี่เท้าด่างขบขัน ท่านว่าควรกัน ให้เลี้ยงแต่ราชินิกูล แมวนั้นย่อมจะให้คุณ
       จตุบทหมดเฟศน้อม        นามแสดง ไว้นา
       โลมสกลกายแสง           หมึกล้าย
       สี่บาทพิศเล่ห์แลง           ลายเสวตร
       ตาเลื่อมศรีเหลืองคล้าย     ดอกแย้มนางโสรน
แมวจตุบท ลักษณะขนสีหมึก คล้ายเอาหมึกมาไล้ไว้ทั่วร่าง ยกเว้นแต่บริเวณเท้าทั้งสี่และส่วนท้องของลำตัวมีขนเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลืองเหมือนดอกโสน



 
๑๕.แมว “โสงหเสพย” (อ่านว่า โสง-หะ-เสพ-ยะ) กายดำคอขาวรอบขน ใครเลี้ยงไว้เกิดผล ทรัพย์สินสมบัติมากมี"
       เสนาะโสงหเสพยชื่อเชื้อ    ดำกาย
       ขาวที่ริมปากราย           รอบล้อม
       เวียนเถลิงสอสังข์ปลาย      ณาษิก อยู่แฮ
       ตาดั่งศรีรงย้อม              หยาดน้ำจางแสง
แมวโสงหเสพย หรือบางตำราเขียนเป็น "สิงหเสพย์"  ลักษณะขนกายป็นแมวขนสีดำ แต่จะมีสีขาวบริเวณริมฝีปาก เวียนไปรอบคอจนถึงปลายจมูก นัยน์ตาเป็นประกายสีเหลืองเหมือนย้อมด้วยน้ำรงสีจาง  




๑๖.แมว “กระจอก”  แมวนี้ถ้าเลี้ยงไว้... "จะได้ที่แดนไร่นา ทรัพย์สินโภคา ถ้าเป็นไพร่ก็จักได้เป็นนาย"
       มีนามกระจอกนั้น        ตัวกลม งามนา
       กายดำศรีสรรพสม       สอดพื้น
       ขนขาวเฉกเมฆลม       ลอยรอบ ปากแฮ
       ตาประสมศรีชื้น          เปรียบน้ำรงผสาน
แมวกระจอก ลักษณะตัวกลมสวยงาม ขนสีดำตลอดทั้งตัว รอบปากเป็นขนสีขาวเหมือนสีเมฆ นัยน์ตาสีเหลืองเหมือนน้ำรง




๑๗.แมว “โกนจา”   แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาเลี้ยงเทอญอย่าแคลงสงสัย
       กายดำคอสุดท้อง         ขาขนเลเอียดเฮย
       ตาดั่งศรีบวบกล           ดอกแย้ม
       โกนจาพจนิพนธ์          นามกล่าว  ไว้นา
       ปากแลหางเรียวแฉล้ม     ทอดเท้าคือสิงห์
แมวโกนจานี้ มีขนสีดำละเอียด ตั้งแต่คอไปจนถึงท้องและขา ปากและหางมีรูปลักษณะเรียวงาม นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม เท้าเหมือนเท้าสิงห์ ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงห์โต





ตำราดูลักษณะแมวไทย
จากสมุดข่อยโบราณ (ต่อ)


แมวร้าย ๖ ชนิด ได้แก่



๑.แมวร้ายชื่อ “ทุพลเพศ”  ใครเลี้ยงไว้จะให้โทษไม่เป็นสุข เกิดความเดือดร้อนแรงผลาญ
       ตัวขาวตาเล่ห์ย้อม       ชานสลา
       หนึ่งดั่งโลหิตทา          เนตรไว้
       ปลอมลักคาบมัศยา      ทุกค่ำ คืนแฮ
       ชื่อทุพลเพศให้           โทษร้อนแรงผลาญ
แมวทุพลเพศ ลักษณะลำตัวสีขาว มีดวงตาสีแดงเหมือนย้อมด้วยชานหมากหรือมีดวงตาเหมือนถูกทาด้วยเลือด มักออกไปหากินยามค่ำคืน และชอบขโมยปลามากิน  แมว “ทุพลเพศ” ชื่อ ทุพล หมายถึง ไม่ดี  ลักษณะโดยรวมไม่สวยงาม เลี้ยงไว้จะให้โทษร้ายแรง จึงไม่ควรนำมาเลี้ยง
 



๒.แมวร้ายชื่อ “พรรณพยัฆ หรือ ลายเสือ”    
       มีพรรณพยัฆเพศพื้น      ลายเสือ
       ขนดั่งชุบครำเกลือ          แกลบกล้อง
       สีตาโสตรแสงเจือ           เจิมเปือก ตาแฮ
       เสียงดั่งผีโป่งร้อง            เรียกแคว้นพงไสล
แมวพรรณพยัฆเพศ หรือแมวลายเสือ เป็นแมวร้ายที่มีขนกายเป็นลายเสือ ลักษณะขนหยาบเหมือนชุบด้วยเกลือหรือหยาบเหมือนแกลบ มีนัยน์ตาเป็นประกายเหมือนสีของแสงสว่างจนถึงเปลือกตา เวลาร้องเสียงเหมือนเสียงผีโป่งที่ร้องอยู่ตามป่าเขา เป็นแมวร้าย ถือเป็นแมวให้โทษอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ควรเลี้ยง
 



๓.แมวร้ายชื่อ “ปีศาจ”      
       ปิศาจจำพวกนี้       อาจินต โทษนา
       เกิดลูกออกกิน       ไป่เว้น
       หางขดดั่งงูดิน        ยอบขนด
       ขนสยากรายเส้น     ซูบเนื้อยานหนัง
แมวปีศาจ เป็นแมวร้ายอีกชนิดหนึ่ง ลักษณะขนสาก หยาบ ตัวผอม หนังยาน ชอบกินลูกของตัวเอง ออกลูกมากี่ตัวก็กินลูกหมด โบราณจัดเป็นแมวร้าย ห้ามได้นำมาเลี้ยง
 



๔.แมวร้ายชื่อ “หิณโทษ
       หิณโทษโหจชาติเชื้อ      ลักษณา
       เกิดลูกตายออกมา        แต่ท้อง
       สันดานเพศกายปรา      กฎโทษ อยู่แฮ
       ไภยพิบัติพาลต้อง         สิ่งร้ายมาสถาน
แมวหิณโทษ เป็นแมวนำมาอันตรายและสิ่งชั่วร้าย  นำภัยพิบัติมาสู่บ้าน ใครเลี้ยงไว้จะไม่เป็นมงคล ออกลูกมามักจะมีลูกตายตั้งแต่อยู่ในท้อง  
 



๕.แมวร้ายชื่อ “เหน็บเสนียด  ”  
       เหน็บเสนียดโทษร้าย     เริงเข็ญ
       ด่างที่ทุยหางเห็น         โหดร้าย
       ทรงรูปพิกลเบญ          จาเพศ
       แมวดั่งนี้อย่าไว้          ถิ่นบ้านเสียศรี
แมวเหน็บเสนียด ลักษณะคล้ายค่าง ชอบเอาหางขดซ่อนไว้ใต้ก้น มีรูปร่างผิดปกติพิกลพิการ ใครลี้ยงไว้ในบ้านจะทำให้เสียชื่อเสียงเกียรติยศ
 



๖.แมวร้ายชื่อ “กอบเพลิง”      
       มักนอนยุ้งอยู่ซุ้ม           ขนกาย อยู่นา
       เห็นแต่คนเดินชาย         วิ่งคล้าย
       กอบเพลิงกำหนดหมาย     นามบอก ไว้เอย
       ทรลักษณชาติค่างร้าย      โทษแท้พลันถึง
แมวกอบเพลิง เป็นแมวที่ลึกลับชอบซ่อนตัว กลัวคน พอเห็นคนมักวิ่งหลบหนี ใครเลี้ยงไว้ไม่ดี จะมีโทษถึงตัว
 
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มิถุนายน 2561 16:06:21 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 11 มิถุนายน 2561 15:58:02 »



ขอขอบคุณภาพจาก : png.pngtree.com

แมวดำ กับคำพิพากษานอกบัลลังก์
เรื่อง :กิตติยา บำรุงสวน
ที่มา : sarakadee magazine

“สร้อยฟ้าเดินคลำไปในตรอกที่มีเพียงแสงสลัวของพระจันทร์นำทาง พลางคิดถึงชะตากรรมว่าเหตุใดหนอจึงได้มาตกระกำลำบากถึงเพียงนี้ แต่ก็ไม่เท่ากับความกลัว เสียงหัวใจเต้นแรงแข่งกับความเงียบ พยายามเพ่งสายตาไปทั่วๆ เงาตะคุ่มนั้นทำสร้อยฟ้าใจหายวาบ แมวดำตัวเขื่องกระโดดลงมาขู่ เขี้ยวของมันกระทบแสงจันทร์เป็นสีขาววาววับ ดวงตาเรืองราวกับดวงตาปีศาจคู่นั้นจ้องเขม็งมาที่สร้อยฟ้า ยังมีทันที่สร้อยฟ้าจะขยับตัวหนี มันก็ชิงเร้นกายหายไปในความมืด “เป็นลางไม่ดีแน่ๆ ไอ้แมวผี” สร้อยฟ้าสบถ ก่อนตัดสินใจหันหลังกลับและวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต”

ฉากที่มีแมวสีดำร่วมแสดงเช่นนี้ดูคุ้นเคย เพราะมันมักจะได้รับบทเดิมๆ ซ้ำๆ ในจังหวะที่ละครต้องการปูพื้นอารมณ์คนดูให้ตกอยู่ในความน่าสะพรึงกลัว สยองขวัญ สั่นประสาท แมวสีดำก็จะปรากฏตัวขึ้นมาตามคิว เปรียบได้กับสัญญาณไฟเขียวที่กะพริบบอกให้เตรียมตัวรับเรื่องร้ายๆ หรือภูตผี ปีศาจ ที่จะออกมาหลอกหลอนผู้คนในฉากถัดไป

ภาพลักษณ์เช่นนี้มีความแนบแน่นเคียงคู่กับแมวดำมานานแสนนาน และคงไม่ใช่เพียงพฤติกรรมตามธรรมชาติของแมวธรรมดาที่จะมีน้ำหนักมากพอในการที่มนุษย์จะพิพากษามัน

ไม่ใช่แค่ดวงตามีเลศนัยเรืองแสงวาวได้ในที่มืด เขี้ยวแหลม กรงเล็บโง้งคม นิสัยชอบทำตัวลึกลับปราดเปรียวเที่ยวท่องยามค่ำคืน แถมชอบทำเสียงขู่คนแปลกหน้าเวลาตกใจ การกระโจนวับหายไปแบบไร้เสียง หรือเสียงครางหาคู่กลางดึกที่แว่วมากับสายลมที่พาให้ใจเต้นแรง

แต่เพราะขนสีดำของมันต่างหากที่นำมันไปสู่คำกล่าวหาว่า “แมวดำคือโชคร้าย”

รื้อคดีเดิม
ไฉนเลยจากเทพีผู้สูงส่งแห่งลุ่มน้ำไนล์จึงกลายเป็นเงาปีศาจแห่งโลกตะวันตก


จากมัมมี่แมวนับหมื่นตัวที่ค้นพบในอียิปต์ คือหลักฐานชั้นดีที่ใช้บ่งบอกว่า “แมว” เคยอยู่ในฐานะสูงส่งมาก่อน รูปสลักเทพี Bastet ที่ได้รับการยกให้เป็นเทพแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ก็มีลักษณะโดดเด่นโดยร่างกายเป็นมนุษย์ แต่ศีรษะเป็นแมว ภาพวาดแสดงความสัมพันธ์ระหว่างแมวกับชนชั้นสูงมากมาย รวมถึงหินแกะสลักแมวหลากสี และแมวดำที่สวมเครื่องประดับอย่างงดงาม

นี่คือจุดสูงสุดในอัตชีวประวัติของแมว… สัตว์เลี้ยงสี่ขาที่ใกล้ชิดมนุษย์มาเนิ่นนานนับพันปี

โทษหนัก… ทั้งดำทั้งจับ  เมื่อเหยื่อคือจำเลย แพะในร่างแมวดำ

ในยุโรปสมัยกลาง เสียงร่ำลือจากพ่อลูกคู่หนึ่งที่ใช้ก้อนหินไล่ขว้างปาแมวดำแล้วตามไปพบร่างหญิงชราที่เนื้อตัวปูดเขียวนอนซม นับแต่นั้นคำกล่าวหาว่าหญิงชราคือแม่มดที่แปลงร่างมาในคราบของแมวดำก็แพร่กระจายไปทั่ว

กอปรกับยุคที่ศาสนจักรมีอำนาจสูงสุด ใครก็ตามที่คิดต่างหรือมีท่าทีแข็งขืนจะถูกมองว่าเป็นพวกนอกรีต พานเชื่อมโยงกล่าวโทษว่าเป็นแม่มด หญิงชรา สาวสวย ผู้หญิงที่ดูฉลาดโดยคาดว่าจะเป็นปฏิปักษ์จึงถูกตามล่าเพื่อนำมาประหารอย่างน่าเวทนา ทำให้แมวดำกลายเป็นเป้าหมายคู่ขนานของการตามล่า

เพราะฆ่ามันก็เท่ากับฆ่าแม่มด  ตำนานแพะรับบาปในร่างแมวดำจึงปรากฏขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา

และแม้ยุคมืดในยุโรปจะคลี่คลายไปนับหลายร้อยปี ความเชื่อเรื่องแม่มดแปลงร่างเป็นแมวดำก็ยังถูกส่งมาถึงสหรัฐอเมริกาจนได้ ดังปรากฏในช่วงตำนาน “การล่าแม่มดแห่งซาเล็ม (Salem witch hunts)” ที่เกิดขึ้นในราว ค.ศ.๑๙๖๒ เมื่อกาลเวลาผ่านไป ความเข้มข้น น่าสะพรึงกลัวของเรื่องราวในยุคนั้นก็ค่อยๆ สลายกลายเป็นเพียงควันสีดำจางๆ เลื่อนลอยไปตามจินตนาการที่หาได้ในภาพยนตร์ สิ่งของในพิพิธภัณฑ์ หรือเป็นเพียงการแต่งตัวสนุกๆ ในเทศกาลฮาโลวีนเท่านั้น

ไม่มีใครเชื่อเรื่องแม่มด ไม่มีแม่มดให้ตามล่าอีกแล้ว

ในขณะที่แมวสีดำยังคงต้องรับชะตากรรมต่อจากบรรพบุรุษของมันในชีวิตจริงตราบจนทุกวันนี้

เหยื่อของความเชื่อ… คือมนุษย์หรือแมวดำ

“เก็บลูกแมวดำมาเลี้ยง แม่บอกว่าไม่ให้เลี้ยง บ้านคนเค้าไม่เลี้ยง มีแต่วัดที่เลี้ยงแมวดำ”

“เมื่อวานเพิ่งเอาลูกแมวดำมาเลี้ยงที่บ้าน วันนี้แฟนรถคว่ำขาหัก ซวยเพราะแมวดำหรือเปล่าคะ”

“ผมแอบเลี้ยงลูกแมวสามตัว ตัวหนึ่งเป็นสีดำ ผมเอาข้าวเอาน้ำมาให้มันทุกเย็น วันหนึ่งลูกแมวตัวสีดำหายไป ผมออกตามหา ไปเจอมันโดนตีตายอยู่ข้างถังขยะ”

ชี้ชัดว่าคำพิพากษาที่ตัดสินว่าแมวดำเกี่ยวข้องกับเรื่องร้ายก็ยังไม่ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ ภาพลักษณ์ด้านลบของมันยึดแน่นราวกับถูกตรึงไว้ด้วยตะปูที่สนิมเกรอะกรังจนยากจะถอนออกจากกัน

ในสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยุโรปมีความเชื่อว่า ถ้าแมวดำเดินตัดหน้า ความโชคร้ายจะมาเยือน

ชาวจีนเชื่อว่าแมวดำคือตัวนำความทุกข์ยาก แร้นแค้นมาให้

ชาวอิตาลีเชื่อว่าแมวดําเป็นสัตว์ที่นำความโชคร้ายมาสู่ เนื่องจากแมวดำจะชอบไปอยู่ใกล้ๆ กับคนป่วยที่ใกล้ตาย ดังนั้นหากพบว่าแมวดำไปนอนบนเตียงผู้ป่วยคนใด อีกไม่นานผู้ป่วยคนนั้นก็จะตายในที่สุด แมวดำในสายตาคนอิตาลีจึงเป็นสัตว์แห่งความตาย

ชาวรัสเซียมีความเชื่อว่าหากแมวดำเดินตัดหน้าให้รีบจับกระดุมเสื้อเอาไว้เพื่อแก้เคล็ดช่วยคุ้มครองให้พ้นเคราะห์ หรือหากพบแมวดำเดินผ่านตัดข้างทางก็ต้องแก้เคล็ดด้วยการเดินถอยหลัง ๑๒ ก้าว ก็จะปลอดภัยจากเคราะห์ร้าย

รวมถึงในประเทศไทย อินเดีย และจีน ที่ได้อิทธิพลมีความเชื่อจากกันและกันเกี่ยวกับพลังลึกลับของแมวดำที่เชื่อมโยงกับความตาย จึงห้ามแมวดำเข้ามาใกล้ศพ แตะต้องศพ หรือข้ามโลงศพ เพราะทำให้ศพนั้นมีมลทินกลายเป็นผีที่ดุร้าย คอยหลอกหลอนผู้คน ไม่ไปผุดไปเกิด

ทั้งมนุษย์และแมวดำจึงเหมือนกันที่ต่างฝ่ายต่างตกเป็นเหยื่อของความเชื่อ

แต่แตกต่างกันที่ ฝ่ายหนึ่งเป็นผู้กระทำ และอีกฝ่ายเป็นผู้ถูกกระทำ
)”


บันทึกสำนวนส่วนดีไว้ที่ใบลาน

นับว่ายังเป็นโชคดีของแมวดำสัญชาติไทยอยู่บ้างที่ทัศนคติในด้านดีที่มีต่อแมวดำยังปรากฏเป็นหลักฐานบันทึกอยู่ในสมุดข่อยหลายเล่ม ซึ่งเชื่อว่าคัดลอกต่อมาจากตำราสมัยกรุงศรีอยุธยา

“กายดำคอสุดท้อง       ขาขนเลเอียดเฮย
ตาดั่งศรีบวบกล       ดอกแย้ม
โกนจาพนนิพนธ์ นามกล่าว  ไว้นา
ปากแลหางเรียวแฉล้มทอดเท้าคือสิงห์”

คำกลอนในตำรากล่าวถึงลักษณะแมวให้คุณชื่อโกนจา และกล่าวถึงความเป็นมงคลหากได้ชุบเลี้ยงว่า “แมวนี้เลี้ยงดีมีคุณหนักหนา จงเร่งหามาอย่าแคลงสงสัย”

 แมวโกนจานี้มีลักษณะขนสีดำละเอียดตลอดลำตัว ดวงตาสีเหลืองดอกบวบแรกแย้ม ปากเรียวแหลม หางยาว มีท่าเดินเหมือนสิงโต แมวดำปลอดเช่นนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน ส่วนแมวดำลักษณะอื่นๆ ที่ให้คุณก็ยังมีปรากฏในตำราอีกหลายชนิด เพียงแต่ยากต่อการพบ และเป็นที่น่าเสียดายว่าส่วนใหญ่ได้สูญพันธุ์ เหลือไว้เพียงรูปวาดในสมุดข่อยเท่านั้นเอง

•นิลรัตน์ สีดำทั้งตัว รวมถึงเล็บ ลิ้น ฟัน ดวงตา และกระดูก หางยาวตวัดได้จนถึงหัว เลี้ยงไว้แล้วเชื่อว่าจะมีความเจริญ มีทรัพย์ ปราศจากอันตราย
•วิลาศ มีลำตัวสีดำจากคอไปตลอดท้อง จากสองหูไปจนถึงหางและขาทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเขียว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะได้เป็นเจ้าคนนายคน มีเงินทองมากมาย
•เก้าแต้ม มีสีขาวเป็นพื้น มีแต้มสีดำเก้าจุดที่คอ หัว ต้นขาหน้าและหลังทั้งสองข้าง และที่ท้ายลำตัว เชื่อว่าเลี้ยงไว้แล้วจะรุ่งเรืองทางการค้าขาย
•รัตนกำพล ตัวขาวเหมือนหอยสังข์ แต่รอบตัวตรงส่วนอกมีลักษณะคล้ายสายคาดสีดำ ตาสีเหลือง เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมียศ ผู้อื่นยำเกรง
•นิลจักร มีลำตัวดำสนิท ที่คอมีขนสีขาวอยู่รอบเหมือนกับปลอกคอ เชื่อว่าเลี้ยงแล้วจะมีทรัพย์มาก
•มุลิลา ลำตัวดำ หูสองข้างมีสีขาว ตามีสีเหลืองเหมือนดอกเบญจมาศ เชื่อว่าแมวชนิดนี้เหมาะกับนักบวชเลี้ยงเพราะช่วยให้มีการเล่าเรียนดีสมปรารถนา
•กรอบแว่นหรืออานม้า มีปานลักษณะอานม้าบนหลัง เชื่อว่าแมวชนิดนี้มีราคาสูงถึงแสนตำลึงทองคำ และให้เกียรติยศแก่เจ้าของ
•ปัดเสวตรหรือปัดตลอด ตัวมีสีดำเป็นพื้น ตั้งแต่จมูกไปตามแนวสันหลังถึงปลายหางมีสีขาว ตาเหลืองคล้ายกับพลอย หากเลี้ยงไว้จะมีความเจริญมากกว่าคนในสกุลเดียวกันและได้ลาภยศ
•กระจอก ลำตัวกลมมีสีดำ รอบปากมีสีขาว ตาสีเหลือง เลี้ยงแล้วเชื่อกันว่าจะได้ที่ดินเงินทอง ไพร่ก็จะได้เป็นเจ้านายคน
•สิงหเสพย์หรือโสงหเสพย ลำตัวมีสีดำ ที่ปาก รอบคอ จมูกมีสีขาว ตาสีเหลือง ท่าทางเดินสง่าเหมือนสิงโต เลี้ยงแล้วมีสิริมงคล
•การเวก ลำตัวสีดำ จมูกสีขาว ตาเป็นประกายสีทอง เชื่อกันว่าภายใน ๗ เดือนที่ได้มาเลี้ยงจะได้ยศศักดิ์และลาภจำนวนมาก
•จตุบท ตัวสีดำ เท้าทั้งสี่มีสีขาว ตาสีเหลืองเหมือนดอกโสน เชื่อว่าให้คุณกับคนเลี้ยง แต่ไม่เหมาะกับคนทั่วไป สมควรเลี้ยงแก่บุคคลชั้นสูงหรือราชนิกูลเท่านั้น

และยังพบบันทึกความเชื่อในด้านบวกที่เชื่อมโยงกับแมวดำในอีกหลายประเทศอีกเช่นกัน

ในตอนกลางของอังกฤษเชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี มักให้เป็นของอวยพรแด่เจ้าสาว

ชาวประมงหรือโจรสลัดในยุโรปบางคนเชื่อว่าการเลี้ยงแมวไว้บนเรือ และการเก็บแมวดำไว้ในบ้านจะช่วยให้ออกเรือได้อย่างปลอดภัย

ชาวนาที่ประเทศลัตเวียเชื่อว่าแมวดำเป็นเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยวหรือ “รุงงิส” ถ้าเจอแมวดำในยุ้งฉางปีนั้นจะอุดมสมบูรณ์มากๆ ส่วนชาวสกอตเชื่อว่าหากมีแมวดำมานั่งอยู่หน้าเฉลียงบ้านมันจะนำความร่ำรวยและความสุขมาให้

ส่วนชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าแมวดำเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีเช่นกัน ตุ๊กตาแมวกวักสีดำที่ยกขาซ้ายหน้าขึ้น มีความหมายถึงการคุ้มครองให้มีสุขภาพดี และความเชื่ออีกมุมที่ช่างถูกใจสาวๆ คือ หญิงสาวคนไหนเลี้ยงแมวดำไว้ในบ้าน มันจะมีพลังดึงดูดเนื้อคู่ให้มาหา

และบุคคลสำคัญที่ถูกบันทึกความเชื่อมโยงถึงแมวดำในด้านดีและต่อลมหายใจให้แมวดำสัญชาติอังกฤษอีกหลายตัว คือ ท่านเซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ท่านมีความเชื่อส่วนบุคคลว่า การได้ลูบแมวดำจะนำโชคดีมาให้ ทำให้ประชาชนชาวอังกฤษบางส่วนเชื่อว่าการที่ประเทศรอดพ้นจากวิกฤตสงครามโลกครั้งที่ ๒ มาได้… แมวดำนี่แหละที่นำโชคมาสู่ประเทศและผู้นำของเขา

“แมวสีอะไรก็ได้ ขอให้จับหนูได้ก็พอ”  คือวลีทองของท่านประธานเหมาเจ๋อตุง ที่ในเวลาต่อมามีการนำมาใช้เป็นหลักในการบริหารคนและบริหารประเทศอย่างแพร่หลาย แต่ปฐมบทแห่งอมตวาจานี้เป็นที่ทราบกันว่าท่านหมายถึงอย่างที่ท่านกล่าวนั้นจริงๆ

“ตัวนี้ชื่อดำเกิง จับหนูเก่ง ขี้อ้อน เรียบร้อย” วีรวุฒิ สุขเพ็ชร ชายเจ้าของแมวดำสามตัวแนะนำแมวตัวหนึ่งให้ได้รู้จักด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

“ผมไม่ได้ตั้งใจเลี้ยงหรอกครับ แต่วันหนึ่งผมขับรถกลับบ้าน ผมเห็นถุงกระสอบป่านอยู่ข้างทาง มีอะไรขยุกขยิกอยู่ข้างใน ผมสงสัยก็เลยไปเปิดดู ปรากฏว่าเป็นลูกแมวสีดำสามตัว พอผมกับมันสบตากันผมรู้ตัวทันทีว่าจะปล่อยมันไว้อย่างนั้นไม่ได้

“ตอนที่ผมตัดสินใจอุ้มพวกมันกลับบ้าน ผมไม่ได้คิดว่ามันเป็นแมวสีอะไร ผมแค่คิดว่ามันเป็นแมว พอเอามาเลี้ยงผมว่ามันก็มีนิสัยเหมือนแมวสีอื่นๆ ที่ผมเคยเลี้ยงนั่นแหละ อาจจะนิสัยดีกว่าด้วย มันอาจจะรู้ตัวว่ามันไม่สวยเลยต้องเจียมตัวหน่อย… อันนี้ผมคิดเอาเอง” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี

ศรันย์พร พลเดชา หรือคุณฝ้าย พนักงานบริษัท ลีวายส์ (ประเทศไทย ) จำกัด เธอบังเอิญเดินเข้ามาทักทายแมวดำตัวที่กำลังนอนหลับ ในจังหวะที่เราลอบสังเกตพฤติกรรมอยู่พอดี เธอเอ่ยปากบอกเราว่าเธอก็เลี้ยงแมวดำ

“บังเอิญแมวข้างบ้านคลอดลูก แล้วบังเอิญแม่มันตาย เราเลยรับมาเลี้ยง ตั้งชื่อว่า ‘เขม่า’ ตามสีของมัน ลำตัวมันสีดำมีแต้มขาวตรงหน้าอกนิดหน่อย เป็นแมวตัวผู้อายุ ๔ ปี เรามีแชนเนลทางยูทูบที่มีเรื่องเขม่าเป็นตัวเอก ตอนแรกกะทำเล่นๆ เพราะอยากอวดแมว แต่ไปๆ มาๆ บังเอิญมีคนเข้ามาดูเป็นล้าน เราก็เลยทำต่อไปอีกหลายๆ ตอนเลยค่ะ ลองเข้าไปดูได้นะคะ”

เรากำลังจะเอ่ยปากถามเธอต่อถึงเรื่องอื่นๆ แต่เธอมองนาฬิกาข้อมือและรีบเร่งขอตัวไปทำงาน เราได้แต่มองไล่หลังหญิงสาวหน้าตาน่ารักที่ใครๆ อาจจะคิดว่าเธออาจมีของสะสมเป็นตุ๊กตาแมวคิตตี้สีชมพู แต่เปล่า… เธอบังเอิญเป็นเจ้าของแมวดำที่นำพาความบังเอิญอื่นๆ มาช่วยสร้างทัศนคติที่ดีต่อแมวดำผ่านแมวดำของเธอที่ชื่อเขม่าได้เป็นอย่างดี

แม้แมวดำจะถูกผลักให้หลังพิงฝาในมุมมืด แต่ก็ยังมีผู้พยายามสร้างแสงดวงเล็กๆ เพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนพวกมัน

วันยกย่องแมวดำ (Black Cat Appreciation Day) ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่สถานสงเคราะห์สัตว์หรือบ้านพักพิงสัตว์จะออกมารณรงค์เพื่อโปรโมตให้รับแมวดำไปเลี้ยง โดยจะมีการยื่นข้อเสนอและสิทธิพิเศษต่างๆ ให้ เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้มีการรับแมวดำไร้บ้านไปอุปถัมภ์เลี้ยงดู

๑๗ สิงหาคมของทุกปีจึงเป็นวันสำคัญของแมวดำที่ไม่เคยปรากฏในแมวสีอื่นๆ

ในขณะเดียวกัน For the love of black cat ก็ได้นำเสนอเรื่องราวแมวดำในมุมน่ารักอย่างสม่ำเสมอแก่แฟนเพจกว่า ๕ แสนคนทั่วโลก

ในสหราชอาณาจักร National black cat day ในวันที่ ๒๗ ตุลาคมของทุกปี ก็ได้รับการตั้งขึ้นจากกลุ่ม CAT PROTECTION เพื่อคาดหวังการปฏิบัติอย่างเมตตาต่อแมวดำ

ช่างภาพสาว เคซี่ ได้ใช้ความถนัดในวิชาชีพบันทึกภาพแมวดำจากสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่ West Los Angeles ในมุมน่ารักๆ ของมัน เพื่อจูงใจให้ผู้คนไม่ทอดทิ้งมัน

โดยทั้งหมดนั้นแม้เป็นเพียงแสงตะเกียงดวงเล็กๆ ในความมืดของแมวดำทั้งโลก แต่ก็มีเป้าหมายร่วมกันคือหวังว่าจะส่องสว่างให้มนุษย์มองมันเป็นเพียงสัตว์ตัวน้อยแสนเชื่องที่ควรได้รับการมอบความรักเฉกเช่นเดียวกับพวกพ้องของมันที่มีขนสีอื่นๆ

จากข้อมูลพบว่า ๗๐% ของสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในสถานสงเคราะห์นับพันตัวเป็นแมวดำ หรือดำปนขาว ในขณะที่ปัจจุบันตามสถานสงเคราะห์สัตว์ต่างๆ มีแมวดำเพิ่มปริมาณมากขึ้นกว่า ๒๒% บ่งบอกถึงการที่มันถูกนำมาทิ้งมากขึ้น และได้รับการเลือกไปเลี้ยงน้อยลง สุดท้ายแล้วมาตรการการุณยฆาตของทางการก็คือวิธีการสุดท้ายที่ต้องมอบให้มัน

ไม่ใช่เพียงความเชื่อด้านลบทำให้แมวดำเป็นแมวที่ถูกทอดทิ้งมากที่สุด และความไม่ถูกใจในสีสันของมันก็ทำให้แมวดำเป็นแมวที่ถูกเลือกนำไปอุปการะต่อน้อยที่สุดเช่นกัน ดังสถานรับเลี้ยงสัตว์ที่ West Los Angeles ที่นับวันจะมีแต่แมวดำเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากไม่มีใครเลือกรับเลี้ยงแมวตัวที่มีขนสีดำ สอดคล้องกับรายงานจากเทเลกราฟระบุว่า องค์กรพิทักษ์สัตว์ในอังกฤษให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ว่า

“มันมีเหตุผลหลายอย่างเลย ทั้งด้วยเหตุที่แมวดำมันยากที่จะแยกแยะ ไม่เหมือนแมวที่มีลายเฉพาะตัว และสัตว์เลี้ยงสีดำก็เป็นพวกที่ถ่ายรูปไม่ขึ้นด้วย”

ข้อกล่าวหาล่าสุดได้เกิดขึ้นแล้ว ยุติธรรมหรือไม่ที่มนุษย์จะนำมันไปสู่การพิพากษาอีกครั้ง

………………………….


Black cat with yellow eyes
ภาคผนวก 1
สอบปากคำ จับพิรุธ

ในเช้าวันที่มีแดดอ่อนๆ หลังคืนฝนพรำ สิ่งมีชีวิตที่นอนขดกองกัน มองเผินๆ เหมือนกองผ้าดำขนาดย่อมๆ ที่มีลมหายใจ คือแมวดำสามตัว ที่หนึ่งในสามตัวผงกหัวขึ้นมาหรี่ตาสีเหลือง ก่อนเอนตัวเลียขนที่ขาอย่างตั้งใจ

อยากให้คุณนิยามถึงตัวตนของคุณเอง

“อันที่จริงแล้วเราเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สี่ขา ขนาดเล็ก ถูกจัดให้อยู่ในประเภทสัตว์กินเนื้อ เรามีเขี้ยวและเล็บแหลมคม สามารถหดซ่อนเล็บได้เช่นเดียวกับเสือ เผ่าพันธุ์ของเราไม่เสถียร สีสัน รูปร่าง ลักษณะขนสั้นขนยาวหลากหลาย อันที่จริงมนุษย์ได้ตกเป็นทาสของเรามาหลายพันปีแล้วนะ ตั้งแต่สมัยอียิปต์โน่น”

ไลฟ์สไตล์ของคุณเป็นอย่างไร

“ก็เหมือนแมวทั่วไป ชอบนอนกลางวันในที่อุ่นๆ ตื่นตัวในเวลากลางคืนก็ออกไปสำรวจนอกบ้าน ปีนป่ายไปตามกำแพง เวลาเราหิวก็ร้องดังๆ เดี๋ยวทาสก็เอาอาหารมาให้ บางทีเราเจอหนู นก จิ้งจก เราก็จัดการมัน และเอากลับมาที่บ้านเป็นสิ่งตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ ให้ทาสของเรา”

แมวดำตัวที่ ๒ บิดขี้เกียจ หาวปากกว้างเห็นเขี้ยวแหลมขาวตัดกับสีขนของมัน

คุณรู้สึกถึงความเหยียดสีขนบ้างไหม ในฐานะที่คุณเกิดมาเป็นแมวสีดำ

“ถ้าในหมู่แมวด้วยกันก็ไม่รู้สึกนะ แต่ถ้าในสายตามนุษย์ก็แบบที่คุณรู้นั่นแหละ ถ้าเราสามารถเปลี่ยนสีขนเหมือนมนุษย์ที่ย้อมเส้นผมเป็นสีต่างๆ ได้ก็คงดี เราจะเลือกย้อมเป็นสีรุ้ง”

แมวดำตัวที่หางกุดเป็นพวงแกว่งหางเล็กๆ ของมัน เป็นสัญญาณบอกว่าเวลานอนเล่นของมันถูกรบกวนมากเกินไปแล้ว

ฉันใช้มือเกาคอแหล่งข้อมูลเบาๆ ไล่ไปจนครบสามตัว คอที่แหงนขึ้นรับกับสัมผัสนั้นบ่งบอกว่ามันพอใจกับวิธีการขอบคุณของฉันต่อการแสดงบทบาทสมมุติระหว่างกันเมื่อสักครู่

สรุป… ไม่พบพิรุธ

ถ้ามองข้ามสีสันอันดำสนิท พฤติกรรมของมันก็เป็นเช่นแมวสามัญตัวหนึ่งที่เหมือนกับแมวสีอื่นๆ นั่นเอง


……………………….


ภาคผนวก 2
คำให้การเรื่องแมวดำจากปากคำหมอ
 สพ.ญ. ลลินทิพย์ กิตติวรกุล

petrepublicthailand.com

ทัศนคติของคุณหมอที่มีต่อแมวดำเป็นอย่างไรคะ

“ในมุมมองของหมอไม่ได้รู้สึกว่าแมวดำมีความแตกต่างอะไรกับแมวสีอื่นๆ เพราะเวลาเราทำงานเรามองที่ว่าเค้าเป็นคนไข้หรือเป็นสัตว์ไข้ มองไปที่อาการหรือความเจ็บป่วยมากกว่าที่จะสนใจที่สีหรือหน้าตาของแมว ไม่ว่าแมวสีไหนการรักษาก็ไม่ได้แตกต่าง

“สำหรับหมอที่เป็นหมอที่บ้านเลี้ยงแมวหลายตัวและรักแมวมากอยู่แล้ว แมวตัวไหนหมอว่าก็น่ารักไปหมดค่ะ สิ่งหนึ่งที่รู้สึกแย่คือเวลาที่มีแมวประกาศหาบ้านหรือแม้แต่แมวตามข้างถนน รู้สึกว่าแมวที่สีไม่สวยหรือลายไม่งามหรือแมวสีดำนี่แหละที่มักจะไม่ค่อยมีคนรับไปเลี้ยงทั้งๆ ที่เค้าควรจะได้รับโอกาสเท่าๆ กับแมวสีอื่น เพียงเพราะการทำงานตามธรรมชาติของพันธุกรรมที่ทำให้แมวที่ลายไม่สวยสีไม่สวยไม่ถูกใจคนเลี้ยงหรือมีความเชื่ออะไรมาแต่โบราณทำให้เค้าได้รับโอกาสน้อยลง

“หมอเองเป็นคนที่เก็บแมวมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ แต่แปลกตรงที่ไม่เคยได้เลี้ยงแมวสีดำล้วนเลย ตอนนี้ที่บ้านมีแมวสีดำใส่ถุงเท้าขาวหนึ่งตัว ก็เก็บมาเลี้ยงเพราะแม่เค้าเสีย และตัวนี้เป็นตัวที่เล็กและอ่อนแอที่สุดในครอก ไม่ได้เลือกมาเลี้ยงเพราะสีหรือลาย”

ลักษณะนิสัยของแมวดำกับแมวสีอื่นๆ แตกต่างกันไหมคะ

“สีต่างๆ ของแมวเกิดจากพันธุกรรมที่เป็นตัวกำหนดสีขนออกมา ไม่ว่าจะแมวดำหรือแมวสีอะไรก็ตามก็มีนิสัยแตกต่างกันไปขึ้นกับพื้นฐานนิสัยของแมวตัวนั้นเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสีขนแต่อย่างใดเลยค่ะ”

อยากให้คุณหมอแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงดูแมวค่ะ

“การดูแลแมวสำหรับคนเลี้ยงแมวและรักแมวจริงๆ ก็คือการปฏิบัติกับแมวเหมือนกับเค้าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ดูแลลูกอย่างไรก็ดูแลแมวอย่างนั้น ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานคือที่อยู่และอาหาร ที่อยู่ก็ควรมีความสะอาด มีบริเวณให้แมวผ่อนคลาย ไม่เครียด มีที่สูงที่แมวสามารถขึ้นไปนอนได้ มีปริมาณกระบะทรายเพียงพอ อาหารก็ควรเป็นอาหารที่มีคุณภาพดีพอหรืออาหารที่เหมาะสมกับช่วงวัยหรือโรคของแมว ส่วนอีกเรื่องที่สำคัญมากก็คือเรื่องสุขภาพของแมว ควรทำวัคซีน ถ่ายพยาธิ กำจัดหมัด และพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเป็นประจำ หมั่นสังเกตอาการต่างๆ ของแมวอยู่เสมอ อีกเรื่องที่หลายคนมักจะลืมคือเรื่องของจิตใจ แม้เราจะมีที่อยู่ อาหาร ยารักษาโรคให้กับแมวอย่างครบถ้วนแล้ว แต่แมวก็ต้องการความรักความใกล้ชิดนะคะ แบ่งเวลามากอดแมว เล่นกับแมวบ้าง เกาคางบ้าง แมวคงมีความสุขเพิ่มขึ้นไม่น้อยค่ะ”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11 มิถุนายน 2561 16:04:04 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 11 มีนาคม 2566 18:33:19 »



องค์ความรู้เรื่อง "สรุปความลักษณะแมวมงคลตามตำรา"
ข้อมูลส่วนหนึ่งจากเอกสารโบราณ
.......................................................................

โบราณวัตถุ : สมุดไทยขาว หรือหนังสือบุดขาว
ลักษณะ : เรื่องตำราดูดาวประจำเมืองต่างๆ ตำราดูพระอาทิตย์ พระจันทร์ เมฆ ตำราดูลักษณะแมวและสุนัข
อายุสมัย : สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕
ที่มา : รับมอบจาก นายเจตนา ณ สงขลา
ปัจจุบันเก็บรักษา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา


ความเชื่อแต่โบราณนานมา ระบุว่าให้นรชนผู้มีปัญญา เร่งแสวงหาแมวที่มีลักษณะมงคลตามตำรามาเลี้ยงไว้ข้างกายซึ่งหากเลี้ยงดูไว้อย่างดี จะช่วยส่งเสริมทั้งบารมี การค้าขาย และทรัพย์สินเงินทอง โดยสามารถถอดแบบและสรุปความลักษะแมวมงคลตามตำราฉบับนี้ไว้ได้ ๘ ประเภทด้วยกัน ประกอบด้วย

๑. วิลาศ แมวใดหน้าผากสีขาว สองหู ท้อง หลังตลอดจนหาง และทั้ง ๔ เท้า มีสีขาวดุจสำลี เป็นแมวดี มีค่า แมวนั้นอยู่เรือนใคร จะให้โชคลาภ ค้าขายได้กำไร พืชผลไร่นาอุดมสมบูรณ์

๒. นิลรัตน์ (สีดำปลอด) แมวใดสีดำล้วน ทั้งลิ้น ฟัน ตลอดจนดวงตามีสีดำสนิทดุจอัญมณี มีชื่อเป็นมงคลว่านิลรัตน์ หากใครเลี้ยงไว้จะได้ดี ได้เป็นเศรษฐี และเติบโตในหน้าที่การงาน

๓. ศุภลักษณ์ (สีทองแดง) แมวใดดูงามพร้อมสีทองแดง หากเลี้ยงไว้ จะมากด้วยทรัพย์สินเงินทอง และลาภยศสรรเสริญ รับราชการจะเจริญก้าวหน้า

๔. มาเลศ (สีสวาด) แมวใดสีขนงามตาดั่งดอกเลา นัยน์ตาสวยงามดั่งหยดน้ำค้าง หากได้มาเลี้ยงไว้ข้างกาย จะเสริมเมตตามหานิยม คิดทำสิ่งใดก็จะราบรื่น ประสบความสำเร็จ

๕. นิลจักร (คอด่างรอบ) แมวใดลำตัวสีดำ มีสีด่าง (ขาว) รอบคอดูสวยงาม หากเลี้ยงไว้ หน้าที่การงานจะเจริญก้าวหน้า ทรัพย์สินเงินทองจะเพิ่มพูน

๖. อานม้า แมวใดมีลักษณะหลังด่าง คล้ายอานม้า ใบหน้าด่างดูสวยงาม เป็นแมวที่มีค่ามาก ราคาสูงเปรียบได้แสนตำลึงทอง หากอยู่เรือนใคร บุตรหลายจะเติบโตเป็นเจ้าคนนายคน ทรัพย์สมบัติจะมากเหลือหลาย

๗. การเวก แมวใดที่มีจมูกด่าง เสมือนผู้เลี้ยงได้ของมีค่า เปรียบได้กับดาบทอง หากได้มาเลี้ยงจะให้โชคให้ลาภ และสมหวังในความปรารถนาใน ๗ เดือน

๘. ปัดเสวตร แมวใดที่มีลักษณะด่างกลางหลัง ตั้งแต่หัวจรดหาง เลี้ยงไว้จะได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ส่งเสริมเกียรติยศและนำชื่อเสียงมาสู่วงศ์ตระกูล


1





















Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา (ที่มาข้อมูล/ภาพ)
บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.307 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 18:05:43