ยาวิเศษ..รักษาโรค..ได้จริงหรือ??

ยาวิเศษ..รักษาโรค..ได้จริงหรือ??

เมื่อครั้งที่บ้านเมืองเรา..ยังไม่เจริญนั้น
เรามีการเจ็บป่วย แล้วไม่มีความรู้ ที่จะรักษา
ก็ต้องอาศัย..ความรู้พื้นบ้าน..ยาสมุนไพร

เมื่อยาสมุนไพร..ยังไม่ได้ผล..เราก็ไปหาพ่อมด หมอผี
หลาย ๆ ครั้ง..ที่เราคิดออก..เพราะสมองปลอดโปร่ง
เราไม่รู้..จะอธิบายอย่างไร..เราก็บอกว่า เป็นยาผีบอก

หลังจากชาวตะวันตก..เริ่มเข้ามาในสังคมของเรา
ได้นำยารักษาโรคเข้ามาด้วย..การรักษาโรคได้ผลทันตาเห็น
ปัญหาการเจ็บป่วยที่เราเคยหนักใจ..หายได้ง่าย ๆ ด้วย..ยาวิเศษ
เราเลยรู้จัก..ยาวิเศษ..ตั้งแต่นั้นมา

หลายพันปีก่อน สังคมชาวจีน มีความสนใจ เรื่องยาวิเศษ
กษัตริย์ของจีน ได้จัดกองเรือ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
เพื่อตามหา ยาวิเศษ แล้วพวกเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย

นั่นคือที่มาว่า ทำไมตัวอักษรญี่ปุ่น ดั้งเดิมนั้น เหมือนกับ ภาษาจีน

มาถึงวันนี้ เราได้รับการศึกษา ทางการแพทย์ จากชาวตะวันตก
เรามีแพทย์ ผู้มีความรู้ว่า เจ็บป่วยแบบไหน ต้องใช้ยาอะไร

ทุกครั้งที่เราเจ็บป่วย เราก็จะวิ่งไปหาหมอ เพื่อขอ ยาวิเศษ
เราพบว่า ยิ่งอายุมากขึ้น ชีวิตยิ่งต้องพึ่ง ยาวิเศษมากขึ้น
หลายคนต้องทานยา 1 กำมือก่อน ถึงจะทานข้าวได้

ชีวิตทั้งวัน ต้องอยู่กับตาราง การกินยา

มันเป็น ยาวิเศษ จริงหรือ..?

ในพระไตรปิฏก กล่าวไว้ว่า
ในศีลขั้นสูง ของพระพุทธเจ้านั้น จะไม่ปรุงยารักษาโรค

(ศีลของพระพุทธเจ้า มี 3 ระดับ คือ จุลศีล มัจฌิมศีล มหาศีล
ศีล 227 ข้อบัญญัติทีหลัง สำหรับพระสงฆ์ ผู้ออกบวชทั่วไป)

แสดงว่า พระพุทธเจ้านั้น ปรุงยา รักษาโรคได้ แต่ไม่ทำ
ทำไม..?

ในพระไตรปิฏก กล่าวไว้ว่า ปัญหาต้องดับที่เหตุ
แสดงว่า การใช้ยารักษาโรคนั้น เป็นการรักษา ปลายเหตุ
แล้วการรักษาโรคที่ต้นเหตุ ต้องทำยังไง..?

จากสถิติทางการแพทย์
60% ของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ทางการแพทย์นั้น

มีสาเหตุมาจาก สาธารณะสุขพื้นฐาน

นั่นมีความหมายว่า ถ้าเรามีความรู้ สาธารณะสุขพื้นฐาน
และเอาใจใส่ดูแลสุขภาพของตัวเอง เราก็จะไม่เจ็บป่วย ใช่หรือไม่..?

ปัญหาต่อมาก็คือ..ทำไมคนไทย..ไม่สนใจดูแลสุขภาพ..ของตัวเอง..?

http://www.abhakara.com/webboard/index.php?topic=3102.0