[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 05:41:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เครื่องตรวจจับความเร็ว  (อ่าน 10186 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 31 มีนาคม 2554 22:19:52 »


สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เครื่องตรวจจับความเร็ว

http://img39.imageshack.us/img39/2984/5490000137954051c638d2.jpg
สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เครื่องตรวจจับความเร็ว


           อุบัติเหตุต่าง ๆ บนท้องถนนในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากการขับรถกระชั้นชิดกันเกินไปในขณะที่ใช้ความเร็วสูง เมื่อรถคันหน้าเบรกกะทันหัน ทำให้รถคันหลังพุ่งชนด้านท้ายเนื่องจากเบรกไม่ทัน

           จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจทางหลวงที่จะคอยสอดส่องดูแลไม่ให้รถวิ่งเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด คือรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถกระบะ ห้ามวิ่งเร็วกว่า ๙๐ กม. /ชม.  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ผ่อนผันให้เป็น ๑๐๐ กม. /ชม. ส่วนรถบรรทุกหรือรถโดยสารห้ามวิ่งเกิน ๖๐ กม. /ชม.

           ในการตรวจจับความเร็วนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้เครื่องตรวจจับความเร็วในระบบเรดาร์ที่เป็นแบบมือถือ ราคาเครื่องละประมาณ ๓๓,๐๐๐ บาท รูปร่างคล้ายเครื่องเป่าผมขนาดใหญ่ที่ใช้ในร้านเสริมสวย

           วิธีการใช้เครื่องมือนี้เริ่มจากการเสียบสายไฟเข้ากับขั้วแบตเตอรี่หรือที่จุดบุหรี่ในรถยนต์ เปิดสวิตช์เครื่องก็จะทำงาน  เมื่อต้องการตรวจจับความเร็วรถคันใดก็ยิงเรดาร์ไปที่รถนั้น ตัวเลข (ระบบดิจิตอล) ก็จะขึ้นที่หน้าปัด

           ข้อจำกัดของการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วแบบนี้คือ ใช้ได้ในระยะไม่เกิน ๙๐๐ เมตร  และขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจจับความเร็วรถคันใด ก็ต้องจำเลขทะเบียนและลักษณะรถเอาไว้เพื่อวิทยุไปบอกหน่วยดักจับข้างหน้า ในบางครั้งอาจเกิดปัญหาอย่างเช่นผู้ขับขี่อ้างว่าไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกำหนด บ้างก็กล่าวหาการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่ถูกต้อง

           ส่วนกรณีที่มีผู้ขับขี่บางคนนำเครื่องตรวจจับเรดาร์มาใช้ดักสัญญาณของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ทำให้รู้ตัวล่วงหน้าได้ว่าจะมีการตรวจจับความเร็วก็จะลดความเร็วลงนั้น อาจมีอยู่บ้างแต่ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่สูงเกินจำเป็น ส่วนใหญ่ผู้ขับขี่จะส่งสัญญาณบอกกันว่าข้างหน้ากำลังมีการตรวจจับความเร็ว ใครที่ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนดก็จะลดความเร็วลง เป็นอันรอดพ้นการถูกปรับไปได้สัญญาณที่ว่าคือการกะพริบไฟส่งเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ขับขี่

           ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ไม่เกิดขึ้นในอิสราเอล เนื่องจากประเทศอิสราเอลมีการใช้เครื่องตรวจจับความเร็วแบบอัตโนมัติ  ควบคุมการทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องมือนี้มีชื่อว่า 'มารอน' เป็นเครื่องที่ออกแบบเพื่อใช้วัดอัตราความเร็วที่รถยนต์แต่ละคันวิ่งอยู่รวมทั้งวัดช่วงระยะที่ขับห่างจากรถคันที่อยู่ข้างหน้าด้วย

           การวัดอัตราความเร็วของรถนั้น เครื่อง 'มารอน' ใช้ลำแสงอินฟราเรดเพื่อให้สะท้อนสัญญาณมาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้ามีรถยนต์คันใดปฏิบัติผิดกฎเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คอมพิวเตอร์ก็จะสั่งให้กล้องถ่ายรูปรถและทะเบียนของรถคันนั้นเอาไว้ทันที หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะพิมพ์ใบสั่งเพื่อแจ้งไปยังผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนกฎให้ได้ทราบความผิดภายในเวลาไม่กี่วัน

           เครื่องมือระบบอิเล็กโตรออฟติกนี้ เป็นการปรับปรุงประสิทธิภาพให้สูงกว่าระบบเดิมที่ใช้เรดาร์ การทำงานก็สะดวกรวดเร็วเพียงแค่นำเครื่องนี้ไปติดเอาไว้ตามถนนสายต่าง ๆ ก็ไม่มีทางว่ารถคันใดจะหลบเลี่ยงการถูกตรวจสอบไปได้ อีกทั้งการตรวจจับผู้ฝ่าฝืนสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันและกลางคืน

           เครื่องมือนี้จึงมีผลในเชิงบังคับให้ผู้ขับขี่หันมาขับรถด้วยความระมัดระวังยิ่งขึ้น  ซึ่งในที่สุดจะทำให้ลดความสูญเสียทั้งทรัพย์สินและชีวิตผู้คนลงได้มาก  ทราบมาว่าประเทศอังกฤษก็ใช้เครื่องมือนี้อย่างได้ผลเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ อีกหลายประเทศ

           สำหรับในประเทศไทย กรมทางหลวงมีโครงการที่จะเปลี่ยนเครื่องตรวจจับความเร็วจากระบบที่บอกความเร็วรถยนต์แต่เพียงอย่างเดียว  มาเป็นระบบที่บอกเลขทะเบียนรถด้วย แต่จะเป็นแบบเดียวกับเจ้า 'มารอน' หรือไม่นั้นยังไม่สามารถบอกได้ ทว่าจะมีใช้แน่ ๆ ในอนาคต บรรดานักซิ่งทั้งหลายโปรดเตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดีก็แล้วกัน




“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”


ปล. ปัจจุบันประเทศไทยก็เริ่มนำเครื่องแบบอัตโนมัติมาใช้บ้างแล้ว

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 31 มีนาคม 2554 22:22:47 »

เครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ

หลักการทำงานคือ เมื่อรถขับด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดผ่านเลเซอร์ตรงจุดที่ตรวจ
กล้องจะทำการถ่ายภาพรถและทะเบียนรถไว้โดยอัตโนมัติ พร้อมจะแสดงวัน เวลา ความเร็วและ
สถานที่ จะนั้นข้อมูลจะถูกส่งไปที่ฝ่ายอำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบและออกหมาย
เรียกส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียนและถ้าไม่ไปชำระภายใน 7 วัน ข้อมูลจะถูกส่ง
ไปยังกรมการขนส่งทางบกเพื่ออายัตการต่อทะเบียนรถต่อไป

การทำงานของเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์นี้ สามารถใช้งานได้ทั้งระบบควบคุมเองและระบบอัตโนมัติ โดยเมื่อรถที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนดผ่านจุดตรวจกล้องก็จะทำการถ่ายภาพโดยอัตโนมัติ จากนั้นความเร็วและภาพรถ จะถูกส่งมาจัดเก็บและแสดงที่ชุดประมวลผลพร้อมแสดง วันเดือน ปี เวลา สถานที่ จากนั้นข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งต่อมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวงเพื่อที่จะตรวจสอบทะเบียนรถ และออกใบสั่งส่งไปยังที่อยู่ของผู้ครอบครองรถตามทะเบียน ต่อไปและหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ไปชำระค่าปรับภายในเวลา 7 วัน กองบังคับการตำรวจทางหลวงจะส่งข้อมูลไปยังกรมการขนส่งเพื่ออายัดการต่อทะเบียนรถด้วย สำหรับความเม่นยำของเครื่องเป็นไปตามมาตรฐานขององค์กร International Association of Chiefs of Police (The IACP) ทั้งยังประสานสำนักมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อทำการคาริเบธเครื่อง เป็นประจำทุกปีและก่อนที่จะนำไปตรวจจับตามจุดต่างๆ ก็จะมีการทดสอบก่อนทุกครั้งด้วยจึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจะสามารถตรวจจับได้อย่างแม่นยำ

ซึ่งตำรวจทางหลวงจะทำการสุ่มเปลี่ยนจุดตรวจทุกครั้งที่มีการติดตั้งด้วย หลังจากตำรวจทางหลวงจึงได้จัดหาเครื่องตรวจจับความเร็วด้วยแสงเลเซอร์ จำนวน 45 ชุด แจกจ่ายให้กับสถานีตำรวจทางหลวง กองกำกับการ และกองบังคับการตำรวจทางหลวงทั่วประเทศ ได้ใช้ติดตั้งเพื่อปรามบรรดาตีนผีเหล่านี้ โดยข้อมูลจากหน่วยตรวจจับความเร็วไฮ- เทคทั่วประเทศที่ถูกส่งมายังศูนย์อำนวยการตำรวจทางหลวง พบว่าเพียงแค่ 3 เดือนแรกที่มีการติดตั้งเครื่องก็ได้จ่ายใบสั่งให้ผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนดไปแล้วจำนวนมากถึง 42,304 รายซึ่งจะนำไปสู่การปรามผู้ขับรถเร็วได้ในอนาคต โดยตำรวจทางหลวงยังได้มีแผนที่จะติดตั้งเครื่องตรวจจับความเร็วเพิ่มอีก 45 ชุดภายในปี 2550เพื่อให้แต่ละหน่วยงานมี 2 ชุด คลอบคลุมพื้นที่การใช้งานในอนาคตด้วย
หลักฐานที่แสดงให้เห็นประสิทธิภาพของเครื่องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติ

เส้นทางที่ตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัตินี้ มีอยู่หลายจุดทั่วประเทศ ได้แก่
1. เส้นทางสายพหลโยธิน ช่วงรังสิต ถึง สระบุรี 2 จุด
2. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง สระบุรี ถึง นครราชสีมา 2 จุด
3. เส้นทางสายมิตรภาพ ระหว่าง นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น 2 จุด
4. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง อยุธยา ถึง นครสวรรค์ 1 จุด
5. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง นครสวรรค์ ถึง ตาก 1 จุด
6. เส้นทางสายเอเชีย ระหว่าง ตาก ถึง เชียงใหม่ 1 จุด
7. เส้นทางสายกรุงเทพ นครปฐม วังมะนาว 1 จุด
8. เส้นทางสายกรุงเทพ วังมะนาว 1 จุด
9. เส้นทางสาย วังมะนาว ถึง หัวหิน1 จุด
10. เส้นทางสายเพชรเกษม (เลี่ยงเมือง) ชะอำ ถึง ปราณบุรี 1 จุด
11. เส้นทางสายเพชรเกษม ประจวบคีรีขันธ์ ถึง ชุมพร 1 จุด
12. เส้นทางสายเพชรเกษม ชุมพรถึง สุราษฎร์ธานี 1 จุด
13. เส้นทางสายบางนา -ตราด ระหว่าง กรุงเทพ ถึง บางปะกง 1 จุด
14. เส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ชลบุรี ถึง พัทยา 1 จุด
15. เส้นทางสายมอเตอร์เวย์ ชลบุรี ถึง ระยอง 2 จุด
16. และเส้นทางสายสุขุมวิท ระหว่าง ระยอง ถึง จันทบุรี1 จุด

บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7861


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 31 มีนาคม 2554 22:23:33 »



http://img98.imageshack.us/img98/1148/policeradarenforcement2.jpg
สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เครื่องตรวจจับความเร็ว



http://img5.imageshack.us/img5/1336/toyradargunmod1d721dd.jpg
สาระน่ารู้ เกี่ยวกับ เครื่องตรวจจับความเร็ว


บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 01 เมษายน 2554 11:09:28 »

ขอเครื่องตรวจจับความเลวววววววววค่ะ
บันทึกการเข้า
wondermay
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 01 เมษายน 2554 11:09:48 »

แร๊งส์
 ช๊อค ช๊อค ช๊อค
บันทึกการเข้า
คำค้น: สาระ สุขใจ ความเร็ว ตรวจ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สาระน่ารู้ เรื่องเบเกอรี่ : การเปรียบเทียบสัดส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเบเกอรี่
สุขใจ ห้องสมุด
Kimleng 2 2531 กระทู้ล่าสุด 29 เมษายน 2555 13:59:44
โดย Kimleng
สาระน่ารู้ เรื่องเบเกอรี่ : แป้งทำเบเกอรี่
สุขใจ ห้องสมุด
Kimleng 0 1582 กระทู้ล่าสุด 29 เมษายน 2555 14:26:44
โดย Kimleng
สาระน่ารู้ - ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นอย่างไรให้ปลอดภัย
สุขใจ ห้องสมุด
▄︻┻┳═一 0 1532 กระทู้ล่าสุด 24 ธันวาคม 2555 23:53:42
โดย ▄︻┻┳═一
บางแง่มุม เกี่ยวกับ “พระพิฆเนศวร์” : คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง (เชฟหมี)
สุขใจ ห้องสมุด
มดเอ๊ก 0 1975 กระทู้ล่าสุด 18 พฤศจิกายน 2559 08:41:30
โดย มดเอ๊ก
แกงโฮะ - สาระน่ารู้
เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
Kimleng 0 769 กระทู้ล่าสุด 30 พฤษภาคม 2565 09:59:50
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.295 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 08:11:32