[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 16:11:10 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เตรียมส่งท้ายกับ "คืนส่งพระ" วันออกเจ อัศจรรย์ของม้าทรง หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์  (อ่าน 1474 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5064


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.273 Chrome 50.0.2661.273


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 ตุลาคม 2559 14:00:55 »



เตรียมส่งท้ายกับ "คืนส่งพระ" วันออกเจ เล่าเรื่องอัศจรรย์ของม้าทรง หน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ ใช่ว่าใครก็เป็นได้

ชาวไทยเชื้อสายจีนที่ภูเก็ต มีธรรมเนียมการกินเจที่กลายเป็นงานที่เอิกเกริก เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่น และเป็นจุดดึงดูดทางการท่องเที่ยวของภูเก็ตไปพร้อมกัน โดยชาวจีนถือศิลกินเจกันในเดือน 9 ก็เพราะเชื่อว่าเป็นห้วงยามที่เทพเจ้าทั้ง 9 จะเสด็จออกโปรดสัตว์บนโลกมนุษย์ แต่ดวงวิญญาญของเทพเจ้าไม่สามารถติดต่อกับมนุษย์ได้โดยตรงเว้นเสียแต่ผ่าน ‘ร่างทรง หรือ ‘ม้าทรง’ ซึ่งก็คือบุคคลที่เทพเจ้าเห็นเหมาะสมจะนำวิญญาณของพระองค์เข้าครอบครองร่างนั้นชั่วขณะหนึ่ง เพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์ในการกระทำกิจใดๆ บนโลกมนุษย์ โดยเฉพาะการออกโปรดสัตว์



เทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ของชาวพุทธฝ่ายมหายานนั้น ทรงมีอิทธิฤทธิ์ และมีศาสตราวุธสำหรับคุ้มครองมนุษย์ต่างๆ กันไป บ้างถือแซ่ บ้างถือเหล็กแหลม ลูกตุ้มหนาม มีด หอก ดาบ และกริซ เมื่อเสด็จออกโปรดสัตว์ผ่านร่างของม้าทรงในเทศกาลกินเจ จึงต่างแสดงอภินิหารให้เป็นที่ปรากฏ ภาพที่เราเห็นม้าทรงกระทำทุกข์ทรมานร่างกายแท้ที่จริงคือ เทพเจ้าแสดงฤทธิ์เดช และรับเอาความเจ็บปวดนั้นไปแทนจึงปรากฏเรื่องเล่าอยู่เสมอว่า บาดแผลของเหล่าม้าทรงจะหายไปในเวลาไม่นาน กระทั่งบางร่างทรงตัดลิ้นตนเองขาดไปนานนับชั่วโมง ก็ยังสามารถต่อลิ้นกลับไปได้ดังเดิม

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาเป็นม้าทรงได้ ขึ้นอยู่กับการบัญชาของเทพเจ้า บางคนมีประวัติว่าตกต้นไม้สูงลงมาแต่ไม่ตาย พอฟื้นจากสลบก็รู้ตัวว่าเทพเจ้ามาช่วยชีวิตไว้ จึงต้องรับใช้เทพเจ้าด้วยการเป็น “ม้าทรง” แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเขาจะต้องรักษากายใจให้สะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอ แน่นอนว่าจะต้องเคร่งครัดกว่าคนธรรมดา มิฉะนั้นเทพเจ้าก็อาจเลิกใช้ร่างนี้เป็นม้าทรงอีกต่อไป



หล่านี้ล้วนเป็นเรื่องของความเชื่อถือศรัทธาที่ยากจะพิสูจน์ให้กระจ่างชัดได้ดั่งการพิสูจน์ทฤษฎีบทเรขาคณิต หรือทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ใดๆ ชาวภูเก็ตรู้เพียงแต่ว่า พลังแห่งศรัทธานี้ได้หล่อเลี้ยงขวัญและกำลังใจพวกเขามาแต่ครั้งพรรพชน จนแม้เมื่อถึงยุคที่คอมพิวเตอร์มีอิทธิพลต่อวิถีชีวิต พวกเขาก็ยังคงสืบทอดศรัทธานี้ไว้อย่างมั่นคง

ข้อมูลและภาพจาก: sanook.com

ทั้งนี้การเป็นร่างทรง หรือม้าทรงนั้น ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่ายๆ ทุกคน โดย เว็บไซต์ “phuketbulletin” ได้กล่าวถึงคุณสมบัติของม้าทรง ไว้ดังนี้

เชื่อกันว่าการเข้าทรงของพระจีนเป็นการแสดงอิทธิฤทธิ์ของพระจีนและสามารถปัด เป่าสิ่งชั่วร้าย บันดาลความสุขให้แก่ผู้เคารพเลื่อมใสพระจีน และเชื่อกันว่าผู้ที่เป็นม้าทรง (คนทรง) ของพระจีนได้ จะต้องเป็นบุคคลที่มีลักษณะดังนี้

เป็นผู้มีบุญที่เทพเจ้าเลือกแล้ว แม้จะอยู่ไกลเพียงใด แต่อาการของคนจะเป็นม้าทรงจะบอกเอง คือ จะมีอาการสั่น ตบโต๊ะ หัวเราะเสียงดังลั่นราวกับนักรบจีนสมัยโบราณ หรืออาจจะมีอาการสั่นศีรษะเบา ๆ กรณีที่เป็นเทพสตรี



    คนที่ชะตาขาดแล้วเทพเจ้าช่วยเหลือต่อชีวิตให้ เป็นคนชะตาขาดกำลังจะดับ แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องตาย พระจีนหรือเจ้าจะเข้าประทับทรง เป็นการช่วยเหลือต่ออายุให้ม้าทรง ดังนั้นเมื่อถึงเทศกาลกินเจก็ต้องเป็นม้าทรง

     คนที่เคยบนบานสานกล่าวไว้ว่าจะยอมเป็นม้าทรง หรือ โดยความสมัครใจของม้าทรงที่จะเสียสละอุทิศตนรับใช้พระจีน และพระจีนยอมรับว่าเป็นบุคคลที่เหมาะสมให้เป็นม้าทรงได้

บางคนอยู่ดีๆก็อาจถูก “พระจับ” เช่นเดิน ๆ อยู่ในงานกินเจก็มีอาการเหมือนเจ้าประทับทรงก็ต้องยอมเป็นม้าทรง



คนที่มีองค์เทพคุ้มครอง บางครั้งไม่จำเป็นต้องเป็นม้าทรงแต่ต้องบูชาเทพองค์นั้น แต่บางครั้งก็ต้องให้เทพลงประทับทรง

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.phuketbulletin.co.th/

โดยเทศกาลกินเจ ในปีนี้ อยู่ระหว่างวันที่ 1-9 ตค. 59 โดยวันสุดท้ายของการกินเจ จะมีพิธีการ “ส่งพระ” และขบวนม้าทรงของศาลเจ้าสำคัญๆ แห่ตามถนนอย่างเอิกเกริกอีกครั้ง ไม่แพ้กับตอน “รับพระ” (พิธีเริ่มของเทศกาลกินเจ)

ส่วนกำหนดการของพิธีกินเจ จังหวัดภูเก็ตในปีนี้ จัดขึ้นตั้งแต่ 30 กย.- 9 ตค. โดยพิธีส่งพระ (พิธีส่งองค์กิ๊วหองไต่เต่) จะจัดขึ้นในคืนวันที่ 9 ตค. นี้ โดยศาลเจ้าจะจัดขบวนแห่ไปตามถนนเส้นต่างๆ ในภูเก็ตและส่วนใหญ่จะไปสิ้นสุดที่สะพานหิน (ยกเว้นศาลเจ้าที่อยู่นอกเมือง อาจส่งพระในจุดที่ต่างกันไป)

จาก http://panyayan.tnews.co.th/contents/207723/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.298 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 17 กุมภาพันธ์ 2567 20:05:21