[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 22:31:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อพระผุด วัดพระทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ถลาง  (อ่าน 1782 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2321


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2559 21:01:54 »




หลวงพ่อพระผุด วัดพระทอง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ถลาง

วัดพระทอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นวัดเก่าแก่ประจำจังหวัด ที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อพระผุด" พระพุทธรูปทองคำศักดิ์สิทธิ์ ที่โผล่เพียงพระเกตุมาลาขึ้นมาจากพื้นดินประมาณ 1 ศอก ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand

"หลวงพ่อพระผุด" มีตำนานที่เล่าขานและถ่ายทอดสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ถึงความอัศจรรย์และอิทธิปาฏิหาริย์ที่ปรากฏประจักษ์ตั้งแต่ครั้งอดีตกาล ...

"... เมื่อแรกพบพระผุด เดิมบริเวณนั้นเป็นที่เลี้ยงสัตว์ ณ เวลานั้นได้เกิดพายุร้าย ฝนตกกระหน่ำ น้ำไหลท่วมทุ่งนาเสียหาย ต้นไม้โค่นล้มระเนระนาด ครั้นฝนหยุดตกเด็กชายลูกชาวนาคนหนึ่งได้จูงควายไปเลี้ยงกลางทุ่ง แต่หากิ่งไม้ที่เคยใช้ผูกเชือกคล้องควายไม่เจอ จึงนำไปผูกกับหลักโคลนตมที่โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เด็กชายก็เกิดอาการเป็นลมล้มชักเสียชีวิตทันที เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากจัดการศพลูกชายแล้ว พ่อแม่จึงออกไปดูควายที่ผูกไว้ ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าควายก็นอนตายอยู่เช่นกัน

ตกดึกคืนนั้นพ่อของเด็กที่ตายฝันว่ามีคนมาบอกว่าที่เด็กและควายตายเป็นเพราะเด็กได้นำเชือกควายไปผูกไว้กับพระเกศพระพุทธรูป รุ่งเช้าจึงชักชวนเพื่อนบ้านให้ไปดูบริเวณดังกล่าว เมื่อเห็นหลักโคลนตมก็ช่วยกันเอาน้ำมาล้างขัดสีเอาโคลนตมออกจนหมด ปรากฏเป็นพระเกศพระพุทธรูปเป็นทองคำเหลืองอร่าม ต่างพากันกราบไหว้บูชาและนำความแจ้งให้เจ้าเมืองถลางทรงทราบ จึงรับสั่งให้ขุดเพื่อนำมาประดิษฐานบนดิน แต่ขุดอย่างไรก็ไม่สามารถขุดได้เพราะมีตัวต่อตัวแตนนับพันนับหมื่นตัวบินขึ้นมาจากใต้พื้นดินไล่ต่อยผู้คนแต่เฉพาะผู้ที่ขุดเท่านั้น ส่วนพวกที่สักการบูชากลับไม่ทำอันตรายแต่อย่างใด เป็นที่อัศจรรย์แก่ผู้พบเห็น ในที่สุดท่านเจ้าเมืองจึงให้สร้างหลังคาบังไว้"

หลายปีต่อมา มีชีปะขาวรูปหนึ่งมาพักที่เมืองถลาง ท่านกลัวจะมีคนตัดพระเกศไปขาย จึงร่วมกับชาวบ้านช่วยกันนำปูนขาวมาโบกปิดพระพุทธรูปไว้ จนปีพ.ศ.2352 ใน รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พม่าเข้าตีภาคใต้ของไทยและยึดเมืองถลางได้ ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับพม่า ก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์มีมดคันตัวเล็กๆ ขึ้นมากับดินที่ขุดเป็นจำนวนมาก ทหารพม่าถูกกัดก็เป็นไข้ล้มตายไปหลายร้อยคน พม่าที่เหลือจึงเอาไฟมาเผามดและพยายามขุดไปจนถึงพระศอ พอดีกับเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชยกทัพมาตีเมืองถลางคืนจากพม่าได้สำเร็จ

ต่อมา หลวงพ่อสิงห์เดินธุดงค์จากเมืองสุโขทัยมาปักกลด ณ เมืองถลาง ได้เห็น "หลวงพ่อพระผุด" จึงชักชวนชาวบ้านให้สร้างวัด เพื่อรักษาพระพุทธรูปเอาไว้ให้เป็นสมบัติล้ำค่าสืบต่อไป ชาวบ้านได้ร่วมใจกันสร้างกุฏิ วิหาร และอุโบสถ มีหลวงพ่อพระผุดเป็นพระประธานในอุโบสถ และหลวงพ่อสิงห์เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก เรียกชื่อวัดว่า วัดนาใน, วัดพระผุด หรือวัดพระหล่อคอ และได้ก่อสวมหลวงพ่อพระผุดเฉพาะพระพักตร์ให้สูงกว่าเดิม

หลวงพ่อสิงห์ยังได้ผูกปริศนาลายแทงไว้ มีความว่า "ยักสามยักสี่ หามผีมาเผา ผีไม่ทันเน่า หอมฟุ้งตลบ ผู้ใดคิดสบให้รับที่กบปากแดง ผู้ใดรู้แจ้งให้รับที่แล่งล่อคอ" เป็นปริศนาที่เกิดขึ้นด้วยแรงอธิษฐาน ผูกไว้ให้เจ้าอาวาสรูปต่อๆ มาได้ขบคิด ผู้ที่จะเป็นเจ้าอาวาสต้องแก้ให้ได้ ถ้าแก้ไม่ได้จะอยู่วัดได้ไม่นาน เนื่องจากไม่มีเจ้าอาวาสรูปใดแก้ปริศนาได้ ในที่สุดวัดก็ร้างลงจนเป็นที่เลื่องลือกันว่า "วัดพระผุดกินสมภาร" จนถึงปีพ.ศ.2440 พระครูจิตถารสมณวัตร์ (หลวงพ่อฝรั่ง) วัดพระนางสร้าง อ.ถลาง ท่านสามารถแก้ปริศนาได้ จึงได้เป็นเจ้าอาวาสดูแลปกครองและบูรณะวัด พระผุดขึ้นมา รวมเวลาถึง 61 พรรษา จนมรณภาพ (ปีพ.ศ.2501)

ในปีพ.ศ.2452 ช่วงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ซึ่งขณะนั้นทรงดำรงพระยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ได้เสด็จประพาสเมืองภูเก็ต เมื่อทอดพระเนตรหลวงพ่อพระผุด ทรงมีพระราชวิจารณ์ไว้ว่า "การก่อพระพุทธรูปสวมพระผุดนี้ก่อด้วยอิฐถือปูน มีแต่เศียรกับพระองค์เพียงเท่าทรวงเพื่อให้ดูเหมือนผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ฝีไม้ลายมือทำก็กระนั้นแหละ แต่ต้องชมว่าเขากล้า มีคนน้อยคนที่จะกล้าทำพระครึ่งองค์เช่นนี้ เพราะฉะนั้นก็จะต้องยอมรับว่าเป็นของควรดูอย่างหนึ่ง" และทรงพระราชทานนามวัดว่า "วัดพระทอง"

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้เสด็จฯ มายังวัดพระทองเป็นการเสด็จฯ ส่วนพระองค์ และทรงลงลายพระหัตถ์บนแผ่นหิน จารึกพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." เหนือประตูทางเข้าวิหารหลวงพ่อพระทองเป็นพระอนุสรณ์ ..."

"หลวงพ่อพระผุด วัดพระทอง" นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของเมืองถลาง เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนที่แวะเวียนมากราบไหว้ขอพร โดยทางวัดได้จัดสร้าง "องค์จำลอง" เพื่อให้ปิดทององค์พระได้

ส่วนองค์จริงจะมีการล้อมไว้และติดป้ายห้ามเข้าไปในบริเวณองค์พระครับผม


     พันธุ์แท้พระเครื่อง
     ราม วัชรประดิษฐ์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.294 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 05 เมษายน 2567 18:28:13