[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
03 ธันวาคม 2567 19:26:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไซอิ๋ว (ฉบับเดินทางสู่พุทธภาวะ) : ปริยัติเฟ้อดุจเข้าสู่ความหมองมัว  (อ่าน 1746 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.273 Chrome 50.0.2661.273


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2559 15:51:00 »




ปริยัติเฟ้อดุจเข้าสู่ความหมองมัว

ท่ามกลางแสงจันทร์ส่องสว่างในคืนฤดูร้อน ส่วนเวลากลางวันก็มีท้องฟ้าที่แจ่มใส อาจารย์และศิษย์บรรลุถึงแม่น้ำทงทีฮ้อ (ฟ้าทะลุ) สองฝั่งกว้างไกลจนสุดวิสัยที่สายตาของเห้งเจียจะมองเห็นได้ ศิษย์และอาจารย์ปรึกษากัน แล้วตริตรองว่าควรเดินเลียบไปตามฝั่ง
 
ในที่สุดก็มาพักที่หมู่บ้านตั๊นแกจึง ได้พบตาเฒ่า ๒ พี่น้องแซ่ “ตั๊น” ซึ่งเป็นแซ่เดียวกับพระถังซัมจัง (ชื่อเดิม ตั๊นเหี้ยนจึง) คนพี่ชื่อ ตั๊นเท่ง มีธิดาชื่อ เจ๊กชิ้นกิม ส่วนตาเฒ่าผู้น้องชื่อ ตั๊นเชง บุตรชาย ชื่อ ตั๊นกวนโป๊ (สัมมัปธาน ๔  = สัมมาวายาโม)
 
ตาเฒ่าตั๊นเท่ง (สังวรปธาน) ตั๊นเซง (ภาวนาปธาน) เล่าความทุกข์ ที่มีอยู่ให้เห้งเจียและคณะฟัง คือ ถึงวาระที่จะต้องส่งบุตรชาย ตั๊นกวนโป๊ (อนุรักขนาปธาน) และธิดา เจ๊กชิ้นกิม (ปหานปธาน) ให้ปีศาจเล่งก้ำอึ้ง ที่มาแย่งปราสาทใต้น้ำของเต่าขาวเป็นที่พำนักแล้วครอบครองลำน้ำไว้ และยังแสดงอำนาจโดยให้ทุกๆปี ชาวบ้านตั๊นแกจึงต้องจัดส่งบุตรธิดา ไปไว้ที่ศาลเจ้าริมน้ำเพื่อสังเวยปีศาจร้าย
 
เห้งเจียได้ยินดังนั้นอาสาที่จะช่วย จึงชวนโป้ยก่ายไปที่ศาลเจ้า แล้วต่างแปลงกายเป็นเด็กชายและหญิง ถึงเวลาปีศาจเล่งก้ำอึ้งโผล่ขึ้นมา จากแม่น้ำตรงมายังที่ศาลเจ้า เพื่อจะกินเครื่องเซ่นพลันเหลือบเห็นหางหมูของโป้ยก่ายโผล่ถูกจับพิรุธได้ ปีศาจรู้เท่าทันจึงสู้รบกันขึ้น ปีศาจสู้เห้งเจีย และโป้ยก่ายไม่ได้ หลบหนีลงน้ำไปแล้วผูกพยาบาทคิดวางแผนที่จะจับพระถังซัมจั๋งเพื่อกินเนื้อให้ได้
 
ในตอนดึกคืนวันนั้น พระจันทร์สว่างขาวนวล เล่งก้ำอึ้งบันดาลให้มีหมอกมัวฟุ้งไปทั่วทั้งลำน้ำ อีกทั้งยังร่ายมนต์ให้ผิวน้ำจับตัวแข็ง แล้วสั่งให้สมุนแปลงกายเป็นพ่อค้าจูงลาจูงม้าข้ามไปมาบนผิวน้ำ เพื่อล่อลวงพระถังซัมจั๋ง
 
ฝ่ายพระถังซัมจั๋งผู้มีใจจดจ่อในการเดินทางไปให้ถึงไซที ตื่นขึ้นในกลางดึก เพราะได้ยินเสียงพ่อค้าจูงลาเดินข้ามมาบนผิวน้ำที่แข็งตัวได้ เมื่อเห็นดังนั้นดีใจว่าการเดินทางคงจะเร็วขึ้นกว่าการเดินเลียบไปตามฝั่ง จึงปลุกสานุศิษย์ แล้วอำลาเจ้าของบ้าน ให้เห้งเจียนำหน้า ส่วนซัวเจ๋งจูงม้า เดินไปบนผิวน้ำท่ามกลางแสงเดือนและหมอกขาว
 
ครั้นพอถึงกลางลำน้ำทงทีฮ้อ ปีศาจเล้งก้ำอึ้งก็บันดาลให้น้ำแข็งละลายทางเดินเกิดยุบฮวบลง ในที่สุดก็สามารถจับตัวพระถังซัมจั๋งไว้ได้ แล้วเอามาขังไว้ในปราสาทใต้น้ำเตรียมต้มน้ำเพื่อกินเนื้อพระถังซัมจั๋ง
 
ฝ่ายเห้งเจียเหาะขึ้นท้องฟ้าได้ทัน ส่วนโป้ยก่าย ซัวเจ๋ง และม้ามังกร มีความชำนาญทางน้ำจึงหลุดรอดมาได้ แล้วย้อนกลับมายังหมู่บ้านตั๊นแกจึงตามเดิม โป้ยก่าย ซัวเจ๋ง ลงไปรบล่อปีศาจให้ขึ้นมาเหนือน้ำ เพื่อให้เห้งเจียฆ่า แต่ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งปีศาจดำน้ำหนีหายไปทุกครั้ง เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จเห้งเจียจึงต้องเหาะละลิ่วไปที่เขาน่ำไฮ้ เพื่อนิมนต์พระโพธิสัตว์กวนอิมมาช่วย
 
พระโพธิสัตว์กวนอิมทราบอยู่ก่อนแล้วว่าปีศาจเล่งก้ำอึ้ง ที่แท้คือ ปลาทองของพระองค์ที่ทรงเลี้ยงไว้ดูเล่นในสระ และมันชอบโผล่ขึ้นมา แอบฟังเทศน์ทุกวันจนมีความสามารถแก่กล้า
 
วันหนึ่งน้ำเกิดท่วมท้นทำให้ปลาทองได้โอกาสหลุดออกมาจากสระ แล้วแปลงกายมาเป็นปีศาจในลำน้ำทงทีฮ้อ (ฟ้าทะลุ) ดังนั้นเมื่อไปถึงสำนักเขาน่ำไฮ้ พระโพธิสัตว์กวนอิมสานตะกร้าไม้ไผ่ (สุญญตา) เสร็จพอดี ดังนั้นทั้งสองเหาะกลับมายังแม่น้ำทงทีฮ้อ เมื่อมาถึงพระโพธิสัตว์กวนอิม ทรงขว้างตะกร้าไม้ไผ่ลงไปครอบปลากิมหลีฮื้อ (ปลาทอง) แล้วลากตัวขึ้นมานำกลับไปเลี้ยงที่ยังสระน้ำที่น่ำไฮ้ ส่วนโป้ยก่ายและซัวเจ๋ง ผู้ชำนาญทางน้ำดำลงไปช่วยพระถังซัมจั๋งขึ้นมา
 
ชาวบ้านตั๊นแกจึงรู้ข่าวว่าปีศาจถูกจับตัว ด้วยความสามารถของศิษย์พระถังซัมจั๋งให้ยินดีเป็นยิ่งนัก ต่างอาสาที่จะเอาเรือไปส่งยังฟากตรงข้ามให้
 
ขณะที่กำลังรีรอเรือจะมารับนั้น เต่าขาว (ซื่อบริสุทธ์ = คุณธรรม อย่างง่าย) ตัวมหึมาโผล่ขึ้นมาจากน้ำ แล้วร้องขึ้นด้วยความสุภาพนอบน้อม ขออาสาที่จะพาพระถังซัมจั๋งกับสานุศิษย์ไปส่ง เพื่อเป็นการชดใช้บุญคุณ ที่คณะได้ช่วยเหลือให้ปราสาทใต้น้ำของตนพ้นจากการยึดครองของปีศาจ พระถังซัมจั๋งตัดสินใจที่จะไปกับเต่า แต่เห้งเจียยังไม่วางใจเต่าขาวนัก เมื่อขึ้นยืนบนหลังเต่าขาวแล้ว มือขวาเห้งเจียยังถือตะบองยู่อี่เตรียมที่จะทุบหัวเต่า ส่วนมือซ้ายเอาเชือกคล้องคอเต่าต่างบังเหียน
 
เต่าขาวพาศิษย์และอาจารย์ว่ายข้ามลำน้ำ เป็นเวลาหนึ่งวันเต็ม บรรลุถึงฝั่งตรงข้าม พระถังซัมจั๋งกล่าวขอบคุณพร้อมอำลาอย่างเกรงใจ ยิ่งด้วยไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณให้เต่าขาวอย่างไรดี
 
เต่าขาว (ซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา) จึงบอกว่าหากท่านจะช่วยเหลือข้า ข้าเพียงขอให้ท่าน เมื่อไปถึงพระพักตร์พระยูไลแล้ว โปรดช่วยทูลถามแทนข้าด้วยว่า “เมื่อไรรูปเต่านี้จึงจะถูกถอดออกเป็นรูปมนุษย์ได้เสียที” พระถังซัมจั๋งก็รับคำ แล้วก็ลาจากกัน
 
(สังวรปธาน-เพียรสำรวมระวังไม่ให้อกุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ไม่ให้เกิดขึ้น
 
ปหานปธาน-เพียรละอกุศลธรรมที่เกิดแล้ว
 
ภาวนาปธาน-เพียรสร้างกุศลที่ยังไม่เกิดให้เกิด
 
อนุลักขณาปธาน-เพียรตามรักษากุศลที่เกิดแล้วให้ดำรงอยู่
 
ความเพียรทั้ง ๔ มีแซ่เดียวกับพระถังซัมจั๋ง เพราะเป็นสัมมาวายาโม = ความเพียรชอบ เฉกเช่นครอบครัวเดียวกันกับขันติ แต่ด้วยความเพียรอาจทำให้ปริยัติเฟ้อ ทำให้ความรู้สุมท่วม ยิ่งคลุมเครือหมองมัว แต่บางครั้งเพียงอาศัยคุณธรรมง่ายๆเช่น ความซื่อบริสุทธิ์ ความไร้เดียงสา (เต่าขาว)สามารถสำเร็จมรรคผลได้เหมือนกัน แต่นักปริยัติมักจะหมิ่นคุณธรรมชั้นพื้นฐาน พิจารณาว่าความซื่อเทียบเคียงได้กับความโง่ เฉกเช่น เห้งเจียไม่วางใจเต่าขาว ด้วยคิดว่าตนนั้นมีปัญญาจะวางใจอะไรง่ายๆ พื้นๆ แบบไร้เดียงสาไม่ได้
 
เพราะมนุษย์ทั่วไปไม่ยอมรับว่า ความไร้เดียงสา บริสุทธิ์สามารถบรรลุมรรคผลได้ จำเป็นต้องคร่ำเคร่งร่ำเรียนไตรปิฎก จึงจะบรรลุธรรมได้ ดังคำกล่าวของเต่าขาวที่ว่า”เมื่อไรรูปเต่าจึงจะถูกถอดออกเป็นรูปมนุษย์ ได้เสียที”)





จาก http://www.khuncharn.com/skills?start=14

อีกอัน ไซอิ๋ว ฉบับ อาจารย์ เขมานันทะ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=maekai&month=10-07-2008&group=15&gblog=1

สำรอง http://www.tairomdham.net/index.php/topic,11747.0.html

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.26 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 24 พฤศจิกายน 2567 15:19:16