[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 00:07:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อสิ่งสามัญ กลายเป็นความอัศจรรย์ บทความ จาก พระไพศาล วิสาโล  (อ่าน 1046 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.273 Chrome 50.0.2661.273


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 12 มกราคม 2560 08:53:59 »




เมื่อสิ่งสามัญ กลายเป็นความอัศจรรย์ บทความจาก พระไพศาล  วิสาโล  

ภิกษุฟับดัง  ธรรมาจารย์แห่งหมู่บ้านพลัม  ไม่คาดคิดมาก่อนว่าตนจะเป็นมะเร็ง จนกระทั่งวันหนึ่งหมอยืนยันว่านั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับท่าน ยิ่งไปกว่านั้นมะเร็งได้ลุกลามถึงระยะที่สามแล้วหากท่านไม่รับเคมีบำบัดก็อาจมรณภาพในสามเดือน

ทีแรกนั้นท่านตกใจมาก  รู้สึกกลัวขึ้นมา  แต่ก็มีสติรู้ทันความกลัวนั้น  แล้วใจก็สงบลง  นับแต่นั้นก็มีความเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นกับท่าน  ท่านรู้สึกถึงมหัศจรรย์ของชีวิตและรับรู้ได้ถึงความงดงามของธรรมชาติรอบตัว  ไม่ว่าท้องฟ้าหรือดอกไม้

“เมื่อรู้ว่าความตายใกล้เข้ามา  ฉันให้ความสนใจอย่างมากต่อผีเสื้อ  ฉันเบิกบานกับการเฝ้ามองผีเสื้อ เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นมัน”

สำหรับคนจำนวนไม่น้อย  คำวินิจฉัยของแพทย์ดังกล่าวเป็นเสมือนคำตัดสินประหารชีวิตที่ทำให้จิตใจตกต่ำย่ำแย่ราวกับตายทั้งเป็น  แต่สำหรับท่านฟับดัง  มันกลับทำให้ท่านซาบซึ้งในคุณค่าของชีวิตและสรรพสิ่งที่ประสบพบเห็น  ทุกสัมผัสที่ดูเหมือนดาษดื่นกลับกลายเป็นสิ่งงดงามและมหัศจรรย์  ทั้งนี้ก็เพราะท่านอาจไม่มีโอกาสได้เห็นหรือได้รับรู้อีก นี่เป็นความรู้สึกทำนองเดียวกับวิลโก้  จอห์นสัน (Wilko Johnson)  นักดนตรีชื่อดังชาวอังกฤษ  ทันทีที่รู้ว่าตนเองเป็นมะเร็ง  แทนที่จะรู้สึกแย่  เขากลับเดินออกจากโรงพยาบาลด้วยความรู้สึกตัวเบาใจฟู

“จู่ ๆ ก็รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมา  ผมมองต้นไม้  ท้องฟ้า  มองทุกสิ่งทุกอย่างแล้วรู้สึกว่า ‘วิเศษ’ จริง ๆ” เขาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่า “สิ่งเล็ก ๆ ทุกอย่างที่เห็น  ลมเย็นทุกสายที่สัมผัสใบหน้า  อิฐทุกก้อนบนถนน (มันทำให้) คุณรู้สึกเลยว่า  ฉันมีชีวิต  ฉันมีชีวิต”

ก่อนหน้านั้นเขาเป็นโรคซึมเศร้า  แต่พอรู้ว่าความตายกำลังรออยู่ไม่ไกล

“ผมรู้สึกเหมือนขนนกที่ปลิวไหวไปตามสายลมและลมก็พัดมากระทบผมอย่างเดียวกัน ในใจผมรู้สึกถึงความอิสรเสรี  เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก”

ความตายนั้นหมายถึงการสูญเสียพลัดพรากอย่างสิ้นเชิง  ใครที่คิดถึงแต่ในแง่นั้นย่อมอดเศร้าโศกเสียใจไม่ได้  แต่ในอีกด้านหนึ่งมันทำให้เราเห็นคุณค่าของทุกสิ่งที่เรามีหรือสัมผัสรับรู้  มันจะไม่ใช่สิ่งดาษดื่นในความรู้สึกของเราอีกต่อไปเมื่อนึกถึงวันที่เราจะต้องสูญเสียมันไป

ใช่หรือไม่ว่า  คนเราไม่ค่อยซาบซึ้งถึงคุณค่าของสิ่งที่ตนมี  ต่อเมื่อสูญเสียมันไปแล้วจึงกลับมาเห็นคุณค่าของมัน  ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ  มิตรภาพ  หรือแม้แต่คนรัก ผู้คนจำนวนไม่น้อยตระหนักถึงความจริงข้อนี้เมื่อสายไปแล้ว  ข่าวดีก็คือ  เราไม่จำเป็นต้องรอให้ความสูญเสียเกิดขึ้นก่อนจึงค่อยเห็นความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ ที่เรามี  ความตายเป็นเครื่องเตือนใจอย่างดีให้เราหันมาซาบซึ้งชื่นชมสิ่งเหล่านั้นก่อนที่จะสายเกินไปแม้แต่สิ่งที่ดูธรรมดาสามัญ  เช่น  ต้นไม้ ท้องฟ้า  และสายลม  จะกลายเป็นความวิเศษ มหัศจรรย์ทันทีเมื่อเราตระหนักว่าอาจจะได้เห็นและสัมผัสมันเป็นครั้งสุดท้าย

ผู้ป่วยด้วยโรคร้าย (รวมทั้งญาติมิตร)จำนวนมากจมปลักอยู่ในความโศกเศร้าหดหู่ เพราะมัวคิดถึงแต่วันที่จะต้องสูญเสียคนรักและสิ่งทั้งปวงที่มี  จนลืมไปว่าวันนี้ชั่วโมงนี้ คนรักและของรักทั้งหลายยังอยู่กับเราไม่ได้หายไปไหน  แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับภาพอนาคตอันเลวร้าย  หากหันมาใส่ใจกับปัจจุบัน  เขาจะทุกข์น้อยลงและมีความสุขมากขึ้น  เพราะนอกจากจิตใจจะซาบซึ้งชื่นชมกับทุกสิ่งที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว  เขายังสามารถใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณค่า  รวมทั้งปฏิบัติกับทุกคนและทุกสิ่งอย่างดีที่สุด  แทนที่คนป่วย(หรือญาติ) จะวิตกกังวลว่าเขาจะอยู่อย่างไร  ก็หันมาใส่ใจทำสิ่งดีที่สุดให้กับเขา  หรือมีความสุขร่วมกับเขาเสียแต่วันนี้ ไม่ปล่อยให้โอกาสทองผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์

โรคร้ายหรือความตายนั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายที่นำความหดหู่เศร้าหมองมาให้แก่เราเสมอไป  มันสามารถกระตุ้นเตือนใจให้เราเห็นถึงความอัศจรรย์ของชีวิตและความงดงามของสรรพสิ่งได้  ถ้าวางใจเป็น โรคร้ายหรือความตายก็มีประโยชน์อย่างยิ่ง


“เมื่อรู้ว่าความตายใกล้เข้ามา ฉันให้ความสนใจอย่างมากต่อผีเสื้อ ฉันเบิกบานกับการเฝ้ามองผีเสื้อ เพราะนี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เห็นมัน”

จาก http://www.goodlifeupdate.com/3978/healthy-mind/miraclesimple/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.312 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 02 ตุลาคม 2566 02:02:59