[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 15:52:05 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตำนานพระเจ้าห้าพระองค์  (อ่าน 2059 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2304


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 มิถุนายน 2560 10:20:40 »




ตำนานพระเจ้าห้าพระองค์

ตามคติพุทธศาสนาเถรวาทหรือหินยานจะเชื่อว่า ในอดีตกาลมี "พระพุทธเจ้า" ลงมาบังเกิดช่วยเหลือสัตว์โลกตามกัปกัลป์ต่างๆ รวมองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์พระโคตรมะ นับได้ 28 พระองค์ ส่วนทางคติอาจริยวาทหรือมหายาน เชื่อว่ามีอดีตพุทธเจ้ามากมายนับพันพระองค์ทีเดียว

สำหรับสยามประเทศ ที่ถือคติเถรวาทเชื่อว่า กาลเวลาทางศาสนาจะแบ่งออกเป็น กัป หรือ กัลป์ ต่างๆ นับโดยนำผ้าอันเบาบางประดุจหมอกควันมาเช็ดถูขุนเขาที่มีขนาดกว้างหนึ่งโยชน์ สูงหนึ่งโยชน์ ยาวหนึ่งโยชน์ ปีละหนึ่งครั้ง เมื่อขุนเขาราบเรียบจนเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นพสุธาเท่ากับเวลา 1 กัป

กาลเวลาในปัจจุบันเชื่อว่า ศาสนาจะอยู่ในยุค "ภัทรกัป" ซึ่งจะมีพระพุทธเจ้าลงมาบังเกิดถึง 5 พระองค์ ปรากฏการผูกเรื่องเป็น "ตำนาน" ความว่า ...

"พญากาเผือกสองตัวผัวเมียทำรังอยู่บนต้นมะเดื่อริมฝั่งคงคามหานที จนบังเกิดพระโพธิสัตว์ปฏิสนธิในครรโภทรของนางพญากาเผือก ซึ่งตกไข่ออกมาถึง 5 ฟอง เมื่อถึงคราวจะบังเกิดองค์พระพุทธเจ้า กิ่งมะเดื่ออันเป็นรังกาหักโค่นลงตามแรงพายุ ขณะที่พญากาเผือกออกไปหาอาหาร ครั้นกลับมาให้ทุกขเวทนาตามหาฟองไข่ไม่เจอจนสิ้นใจ ด้วยความรักอันบริสุทธิ์ทำให้นางพญากาเผือกไปบังเกิดยังสวรรค์ได้พระนามว่า "ฆติกามหาพรหม" ส่วนไข่กาเผือกทั้ง 5 ได้ไหลไปตามน้ำและมีผู้เก็บได้คือ แม่ไก่เก็บได้ฟองหนึ่ง, แม่นาคราชเก็บได้ฟองหนึ่ง, แม่เต่าเก็บได้ฟองหนึ่ง, แม่โคเก็บได้ฟองหนึ่ง และแม่ราชสีห์เก็บได้ฟองหนึ่ง ต่อมาปรากฏฟักเป็นมนุษย์มีรูปร่างงดงามและเสด็จออกผนวชจนตรัสรู้พระสัมโพธิญาณ จึงขนานพุทธนามเพื่อเป็นบุญและอนุสรณ์แก่นางผู้เก็บไข่รักษาไว้จนกำเนิดว่า "พระกกุสันโธ" ตามแม่ไก่, "พระโกนาคมโน" ตามแม่นาคราช, "พระกัสสโป" ตามแม่เต่า, "พระโคตโม" ตามแม่โค และ "พระศรีอริยเมตไตรยโย" ตามแม่ราชสีห์ จึงเป็นที่มาของ "นะ โม พุท ธา ยะ" โดย

นะ หมายถึง พระกุกกุสันโธ  ใช้เขียนแทน ธาตุน้ำ ซึ่งเรียกว่า อาโปธาตุ มีกำลังเท่ากับ 12

โม หมายถึง พระโกนาคมโน  ใช้เขียนแทน ธาตุดิน ซึ่งเรียกว่า ปฐวีธาตุ มีกำลังเท่ากับ 21

พุท หมายถึง พระกัสสโป  ใช้เขียนแทน ธาตุไฟ ซึ่งเรียกว่า เดโชธาตุ มีกำลังเท่ากับ 6

ธา หมายถึง พระโคตโม หรือ พระสมณะโคดม พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน  ใช้เขียนแทน ธาตุลม ซึ่งเรียกว่า วาโยธาตุ มีกำลังเท่ากับ 7

ยะ หมายถึง พระศรีอริยเมตไตรยโย ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดไป หลังปี พ.ศ.5000  ใช้เขียนแทน อากาศธาตุ มีกำลังเท่ากับ 10

และด้วยความกตัญญูต่อผู้เป็นบุพการี ทั้ง 5 พระองค์ จึงอธิษฐานจิตให้ได้พบนางพญากาเผือกผู้เป็นแม่อันแท้จริงก่อนการตรัสรู้ จากนั้นพระโพธิสัตว์ทั้งห้าต่างพากันทอเส้นฝ้ายปั่นเป็นด้ายแผ่เป็นรอยตีนกา เพื่อรำลึกถึงคุณของบิดา-มารดา ที่เคยเสวยชาติเป็นกาเผือก จุดเป็นประทีปลอยลงเพื่อบูชาพระแม่คงคาที่ช่วยปกปักรักษาให้รอดแต่ครั้งยังเป็นไข่กา และบูชาคุณพญากาเผือก โคมประทีปที่จุดจากด้ายซึ่งแผ่เป็นตีนกานั้นได้ส่องขึ้นไปถึง "ฆติกามหาพรหม" หรือ "นางพญากาเผือก" จนสามารถมองลงมาเห็นลูกรักที่ตั้งสัตย์อธิษฐานบูชาคุณจนโลกนาถหวาดไหว มหาพรหมจึงเหาะลงมาพบกับลูกทั้งห้าตามแสงโคมประทีปและถวายเครื่องทรงผนวช จนทุกพระองค์สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ"

ในกาลต่อมา สาธุชนจึงสืบทอดเป็นประเพณี "จุดโคมประทีปลอยกระทง" ทุกวันเพ็ญเดือนสิบสอง และให้ผู้เป็น "มารดา" ทำหน้าที่ถวายผ้าไตรกับบุตรผู้จะถือบวชสืบมาตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

ด้วยเหตุตามกล่าวมานี้ โบราณจารย์และพุทธศาสนิกชนจึงเปล่งคำบูชาพระเจ้าห้าพระองค์ ว่า "นะ โม พุท ธา ยะ" และเวลากราบพระก็ให้เอ่ยคาถา "นะ โม พุท ธา ยะ" พร้อมกันไปด้วย เพราะถือว่าได้บูชาพระพุทธเจ้าคราวเดียวถึง 5 พระองค์ ซึ่งจะคุ้มครองป้องกันและปัดเป่าเภทภัยให้กับผู้สักการะ พระคาถาที่เป็นที่นิยมได้แก่ "คาถาพระเจ้าห้าพระองค์ หลวงพ่อพระพุทธโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา"

พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงพุทธาคมหลายรูปยังนิยมจัดสร้าง "พระพิมพ์รูปพระพุทธเจ้าห้าพระองค์" ผูกด้วยพระคาถา อันนับเป็นยอดวัตถุมงคลที่จะช่วยคุ้มครองป้องกันภยันตรายต่างๆ อาทิ พระเจ้าห้าพระองค์ ของ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงพ่อเนียม วัดน้อย เป็นต้น ซึ่งล้วนได้รับความนิยมและหายากทั้งสิ้น

นอกจากนี้ยังมี "ผลพระเจ้าห้าพระองค์" ผลไม้ชนิดหนึ่ง ที่ลูกจะมีลักษณะกลมและเป็นรูปองค์พระพุทธ 5 พระองค์ เรียงรายอยู่โดยรอบอย่างน่าอัศจรรย์ ถือเป็นของขลังอีกอย่างหนึ่งที่เป็นที่นิยม

มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ช่วยคุ้มครองปกป้องภัยอันตราย และขจัดความชั่วร้ายต่างๆ



พันธุ์แท้พระเครื่อง
ราม วัชรประดิษฐ์

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.341 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 16 มีนาคม 2567 13:06:39