[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 05:37:59 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: the literature & art of thai classcal chapter one  (อ่าน 5521 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 25 เมษายน 2553 14:50:56 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/PC09000-4.jpg
the literature & art of thai classcal chapter one

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae6"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva6"><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/05.%20Track%205.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/05.%20Track%205.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/05.%20Track%205.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc6"></td></tr></table>


พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้นิยามคำว่า วรรณคดี ว่าหมายถึงเรื่องหรือหนังสือที่ได้รับยกย่องว่าแต่งดี และคณาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้คำอธิบายเพิ่มเติมไว้ในหนังสือวรรณคดีทัศนา พ.ศ. ๒๕๓๘ ว่าวรรณคดีเป็นศิลปะประเภทหนึ่งซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้แต่งที่มุ่งจะให้ ความรู้ ความบันเทิง ประสบการณ์ และแง่คิดต่าง ๆ โดยใช้ภาษาเป็นสื่อ ดังนั้นวรรณคดีไทยจึงหมายถึง หนังสือของไทยที่ได้รับการยกย่องว่า แต่งขึ้นด้วยความประณีต ด้วยศิลปะของการประพันธ์ มีเนื้อเรื่องและลีลาการดำเนินเรื่องที่โน้มน้าวให้ผู้อ่านคล้อยตามได้ อาจเรียกว่า วรรณคดีประจำชาติไทยก็ได้
วรรณคดีส่วนใหญ่มีรูปแบบคำประพันธ์ ๒ รูปแบบ คือ ร้อยกรอง และร้อยแก้ววรรณคดีแบบร้อยกรองจะเน้นการเลือกสรรถ้อยคำมาเรียบเรียงให้ สัมผัสคล้องจอง มีรูปแบบที่ชัดเจน และแตกต่างกันไป เช่น โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ซึ่งผู้แต่งสามารถแสดงความรู้สึกจินตนาการ และอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง จดจำง่ายและถ่ายทอดสืบต่อกันมาได้ง่ายแบบปากต่อปากเพราะภาษาพูดมีขึ้นก่อน ภาษาเขียน และบทร้อยกรองยังมีท่วงทำนองที่ช่วยให้จดจำง่ายยิ่งขึ้นด้วย ส่วนวรรณคดีแบบร้อยแก้วนั้นเป็นคำประพันธ์ที่นำถ้อยคำมาเรียบเรียงเป็น เรื่องราวไม่มีสัมผัสคล้องจอง และท่วงทำนองต่างๆ ถึงแม้ว่าจะเลือกสรรถ้อยคำให้สื่อความหมายได้ดีและไพเราะเพียงใด การจดจำและถ่ายทอดก็ยังยากกว่าร้อยกรองมาก
วรรณคดีไทยเริ่มมีขึ้นในราชสำนักก่อน เนื้อเรื่องจึงมักเกี่ยวกับกษัตริย์ ขุนนาง และเจ้านายชั้นสูง ผู้อ่านส่วนมากเป็นข้าราชสำนักซึ่งเป็นผู้มีการศึกษาในสมัยนั้นๆ ต่อมาจึงขยายลงมาสู่สามัญชน ในยุคเริ่มแรกวรรณคดีเป็นแบบร้อยกรอง ดังนั้น ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยาจนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น วรรณคดี เช่น พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน และรามเกียรติ์ จึงเป็นแบบร้อยกรอง ครั้นเมื่อวัฒนธรรม ตะวันตกเริ่มแพร่เข้ามาสู่สังคมไทยในสมัยรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์รูปแบบวรรณคดีจึงเปลี่ยนไป โดยมีร้อยแก้วเกิดขึ้นมา เนื้อหาเรื่องราวเปลี่ยนแปลงเป็นชีวิตของสามัญชนบ้าง เช่น วรรณคดีเรื่องมัทนะพาธา นิทราชาคริต เงาะป่า เป็นต้น
แม้ว่าวรรณคดีไทยจะมุ่งให้ความ บันเทิงและความเพลิดเพลินแก่ผู้อ่านเป็นสำคัญ แต่จินตกวีได้สอดแทรกเรื่องราวของยุคนั้นสมัยนั้น เข้าไปในเรื่องด้วยอย่างเหมาะสมกลมกลืนนอกจากจะทำให้ผู้อ่านมีความรู้สึก เหมือนได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์นั้น ๆ ด้วยแล้ว ยังเสมือนเป็นกระจกเงาที่สะท้อนภาพสังคมในยุคนั้น ผู้อ่านจึงได้รับความรู้หลากหลายทั้งด้านภาษา ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณี แนวความคิด ความเชื่อ และความรู้เรื่องพืชพรรณไม้ไปพร้อม ๆ กัน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 15:30:52 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 25 เมษายน 2553 14:53:37 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/PC09000-4.jpg
the literature & art of thai classcal chapter one


ในอดีตวิถีชีวิตของคนไทยเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับพืชพรรณไม้มาตลอด สิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่อาหารหลัก ผัก ผลไม้ เชื้อเพลิง ในการหุงต้มอาหาร เส้นใยที่ถักทอเป็นเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม แม้แต่เครื่องประทินผิวเพื่อความงามของผู้หญิงก็ได้มาจากพรรณไม้ เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยก็รักษาด้วยพืชสมุนไพร การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพิธีกรรมทางศาสนาตามความเชื่อของแต่ละบุคคลก็ใช้ พรรณไม้เป็นสำคัญ ดังนั้น วรรณคดีจึงเป็นเสมือนตำราว่าด้วยเรื่องพืชพรรณไม้ที่มีคุณค่ายิ่ง เพราะไม่เพียงแต่บอกถึงความหลากหลายของพืช ลักษณะ ความงดงาม การมีกลิ่นหอม ยังบอกถึงคุณค่าและการใช้ประโยชน์ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาของคนไทยอีกด้วยการ สอดแทรกเรื่องพรรณไม้ในวรรณคดีไทยมักอยู่ในบทชมป่า ชมสวนเปรียบเทียบความสวยงามของพรรณไม้กับผู้หญิง บทเกี้ยวพาราสี และบทอาลัยรัก ผู้อ่านจึงได้ทั้งอรรถรส และความรู้ไปพร้อมกัน
วรรณคดีประเภทนิราศเป็นเรื่องที่แต่ง ขึ้นระหว่างการเดินทางจึงถ่ายทอดสภาพบ้านเมืองธรรมชาติ ลำน้ำ ป่าเขาลำเนาไพร ในเส้นทางที่ผ่านไป ทำให้มีการพรรณาถึงพรรณไม้มากมายที่ขึ้นอยู่ตามธรรมชาติและอยู่ร่วมกันเป็น สังคมพืชนิราศหลายเรื่องสะท้อนให้เห็นความสมบูรณ์ของป่า ความบริสุทธิ์สะอาดของแหล่งน้ำ ซึ่งคนสามารถนำมาใช้อุปโภคบริโภคได้ วรรณคดีนิราศที่กล่าวถึงพรรณไม้มากที่สุด ได้แก่นิราศสุพรรณของสุนทรภู่ กล่าวถึงพรรณไม้ ๑๘๕ ชนิด และนิราศธารทองแดงของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กล่าวถึงพรรณไม้ ๑๓๓ ชนิด
พรรณไม้ในวรรณคดีไทยนอกจากจะเป็น พันธุ์ไม้พื้นเมืองแล้ว ยังมีไม้ปลูก พืชผัก ไม้ผลไม้ดอกหอม อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นไม้ต่างประเทศแต่มีการนำเข้ามาปลูกในเมืองไทยเป็นเวลานานมากแล้ว จนเป็นที่รู้จักคุ้นเคยของคนไทย บางชนิดเจริญเติบโตได้ดีและขยายพันธุ์ไป
ทั่วท้องถิ่น จนเข้าใจว่าเป็นพืชพื้นเมืองของไทย
นอกจากนั้นยังมีไม้ประดับที่ปลูกเพื่อความสวยงามอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นที่ นิยมอยู่ในปัจจุบัน และคนส่วนใหญ่อาจเข้าใจว่าเป็นพรรณไม้ต่างประเทศที่เพิ่งนำเข้ามา เช่น ดาวเรือง เบญจมาศ หงอนไก่ ยี่เข่ง และยี่โถ เมื่อได้อ่านวรรณคดีจะทราบได้ทันทีว่า แท้จริงแล้วไม้ประดับต่างถิ่นเหล่านี้มีปลูกในเมืองไทยมานานแล้ว บางชนิดมีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา
ชื่อของพรรณไม้บางชนิดในวรรณคดี มีการเขียนสะกดแตกต่างออกไปจากคำทั่วไปบ้างทั้งนี้ เพื่อให้ถูกต้องตามฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ เช่น มะม่วง เป็นหมากม่วง ลำใย เป็นรำไย และกระทุ่ม เป็นกทุ่ม เป็นต้น ถึงแม้ว่าวรรณคดีไทยจะให้ความรู้ในเรื่องพรรณไม้อย่างมากมายและมีคุณค่ายิ่ง แต่บางบทบางตอนอาจมีข้อขัดแย้งกับความเป็นจริงอยู่บ้าง ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าอาจเป็นเพราะกลอนพาไป เช่น ในเรื่องอิเหนา ตอนเดินป่า ได้บรรยายพรรณไม้ที่พบไว้ว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 15:28:21 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 25 เมษายน 2553 14:57:40 »

http://i46.photobucket.com/albums/f112/thavee/PC09000-4.jpg
the literature & art of thai classcal chapter one


ยี่เข่งและยี่โถเป็นไม้ประดับต่างถิ่น ซึ่งคงมีปลูกในอุทยาน หรือสวนดอกไม้ตามบ้านเท่านั้นไม่มีขึ้นในป่า อาจเป็นไปได้ว่า ทรงพระราชนิพนธ์ขณะที่ประทับในอุทยานและเห็นดอกไม้ ๒ ชนิดนี้จึงได้นำมาใส่ไว้ในบทกลอนด้วยอย่างไรก็ตาม ข้อขัดแย้งเหล่านี้มีเพียงส่วนน้อยซึ่งไม่มีผลต่ออรรถรสและคุณค่าของวรรณคดีไทย
ส่วนใหญ่หนังสือพรรณไม้ หรือดอกไม้ในวรรณคดีที่มีการจัดพิมพ์กันอยู่จะเน้นไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ดอกหอม ดังนั้น เพื่อให้ได้รับความรู้ที่แตกต่างออกไปบ้าง ในที่นี้ จึงจะเลือกพรรณไม้ในวรรณคดีที่มีบทบาทสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนไทยในรูปแบบ ต่างๆ กัน ได้แก่ พันธุ์ไม้ที่ใช้ทำสีย้อมผ้า พันธุ์ไม้ดอกหอมที่ใช้ทำงานประดิษฐ์ต่าง ๆ และบูชาพระ พันธุ์ไม้ที่เกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี และความเชื่อ พันธุ์ไม้ที่ใช้เป็นยารักษาโรค พันธุ์ไม้น้ำและพันธุ์ไม้ชายน้ำ พันธุ์ไม้ประดับต่างถิ่น และพันธุ์ไม้ที่ชื่อมีปัญหา มาบรรยายให้เป็นที่รู้จักและตระหนักถึงคุณค่า ทั้งนี้ เพื่อให้พันธุ์ไม้เหล่านี้ได้มีส่วนกระตุ้นให้ผู้อ่านมีจิตสำนึกในการ อนุรักษ์บ้าง

พอเข้าป่าพาใจให้ชื่น

หอมรื่นดอกดวงพวงบุปผา
   
สาวหยุดพุดจีบบีบจำปา

กรรณิการ์มหาหงษ์ชงโค
   
ลำดวนดอกดกตกเต็ม

ยี่เข็งเข็มสารภียี่โถ
   
รสสุคนธ์ปนมะลิผลิดอกโต

ดอกส้มโอกลิ่นกล้าน่าดม



..................................อิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒............................


ผู้เรียบเรียงไม้ในวรรณคดีไทยตอน ๑ โดย นางวิยดา เทพหัตถี


.....................................ข้อมูลจากศาลานุกรมไทย........................................

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25 เมษายน 2553 15:29:12 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 26 เมษายน 2553 15:08:55 »




 รัก   รัก
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.226 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 26 ตุลาคม 2566 18:00:01