เรื่องนี้ยาวหน่อยนะครับ ต้นฉบับเค้าทำไว้สามตอน อันนี้เราจะรวบมาเป็นกระทู้เดียวไปเลย
อพาร์ทเมนท์ที่นาเกลือขอเล่ามั่งดิ่ เป็นเรื่องที่เกิดกะตัวเราเองเรย
เราเองยังไม่อยากเชื่อ ว่ามันเกิดขึ้นกะเราจริง ๆ
เรื่องมันมีอยู่ว่า เราและเพื่อน ๆ ที่ออฟฟิศ ได้รับมอบหมายให้ไปทำงาน ที่จังหวัดแห่งหนึ่ง ทางภาคตะวันออก ไม่บอกชื่อจังหวัดละกันนะ กลัวคนอื่น ๆ ที่ออฟฟิศอ่านเจอ แต่บอกใบ้ว่า เป็นจังหวัดที่สถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนเยอะมากละกัน
ออฟฟิศเราไปเปิดโครงการที่นั่น.... ทางบริษัทได้ให้งบมาเช่าบ้าน แต่เราต้องไปตระเวนหาที่อยู่กันเอง บริษัทเค้าจะไม่หาให้ และในช่วงนั้นเป็นช่วงไฮซีชั่นของที่นั่น ทำให้เราหาที่อยู่ได้ยากมาก ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือ คอนโดก็เต็มหมด
พวกเราใช้เวลาตระเวนหาที่พักอยู่นาน จนมาได้ที่หนึ่ง เป็นเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ แต่ก็มีให้เช่ารายเดือนด้วย อยู่แถวๆ นาเกลือ ซอย 4 เป็นอพาร์ทเมนต์ใหญ่ขนาดร้อยกว่าห้อง พอพวกเราเห็นก็ตกลงใจว่าจะอยู่ที่นี่ทันที เพราะตระเวนมาจนเหนื่อยแล้ว และป้าคนดูแลอพาร์ทเมนต์เค้าก็ใจดีมาก ขออะไรก็ให้ พวกเราไปอยู่กันทั้งหมอ 5 คน ก็เลยขอเช่า 2 ห้อง ขอฟูกที่นอนเค้าเพิ่ม เค้าก็ให้
ห้องที่พักจะเป็นแบบห้องที่มีห้องนั่งเล่น 1 ห้อง และห้องนอน 1ห้อง เราอยู่กับเพื่อนสนิท 2 คน ที่ห้องชั้น 10 ส่วนเพื่อนอีก 3 คนอยู่รวมกันที่ชั้น 9 ห้องเราจะตรงกันล่างกับบน
เราเป็นคนไม่กลัวผีเลย เพราะเป็นคนเที่ยวมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ทั้งเที่ยวกลางวันและกลางคืนอะนะ ตอนเรียนก็อยู่บ้านคนเดียวมาตลอด 4 ปี จนจบมหาลัย เวลาไปไหนก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องผีเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเพื่อนเรานั่นยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเคยเป็นไกด์มาก่อน นอนมาสารพัดที่ ไม่เคยกลัวอะไร เพราะต้องนอนต่างที่จนชิน
คืนแรกที่นอนที่นั่นก็สบายดี พอเราขนของย้ายเข้าไป เราก็รู้สึกแฮปปี้ว่าที่นี่น่าอยู่มาก พอเราเปิดหน้าต่างหมดทุกบาน ห้องเราอยู่หัวมุมเป็นห้องสุดท้าย ลมพัดแรงมาก จนม่านสีขาวในห้องปลิวไสว เรายังพูดกะเพื่อนเราเลยว่าห้องนี้สบายดีจัง คงไม่ย้ายไปไหนแล้วล่ะ
พอตกกลางคืนเราก็ไปตระเวนราตรีที่ฮาร์ดร็อก กะเพื่อนเราสองคน เมากลิ้งตามระเบียบ กลับมาที่ห้องยึนดูวิว เราก็พูดกะเพื่อนเราว่า ที่นี่วิวดี๊ดี... ข้างหน้าเป็นทะเล ข้างหลังเป็นภูเขา..... แล้วก็นอนหลับครอกฟี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตอนเช้า เราเจอเพื่อนเรา 3 คนที่นอนอยู่ห้องข้างล่าง เราก็ถามว่านอนสบายมั้ย สามคนนั้นบอกว่าห้องนั้นร้อนมาก ต้องเปิดแอร์ตลอดเลย เรากับเพื่อนสนิทก็งง เพราะห้องมันคนละชั้นกันก็จริง แต่ห้องมันตรงกัน อุณหภูมิมันไม่น่าจะต่างกันเลยนะ
คืนที่สองผ่านไป.............หลับสนิทดีเพราะเพลียจากการไปเที่ยวคืนแรก
ทีนี้ล่ะ..... คืนที่สาม
คืนที่สามเรานอนแต่หัวค่ำเพราะไม่มีอะไรดู หลับ ๆ ไปได้พักใหญ่ ๆ ก็รู้สึกตัวตื่น เพราะเหมือนมีคนมาสะกิดที่ปลายเท้า เรารู้สึกว่าตัวเองลืมตาตื่น แล้วมองไปที่ปลายเท้า...... ก็ไม่เห็นมีใคร ทีนี้ยังไม่ทันหลับตานอนต่อเลย ก็มีคนมาสะกิดที่หลายเท้าอีกที......... โดยที่เราไม่เห็นตัวเลยนะ ทีนี้เราอึ้งแระ..... นึกไปถึงเรื่องที่คนเค้าเล่ากัน.......... บอกตัวเองว่า อย่าบอกนะ........ว่ามันคือ........พอเราคิดในใจจบประโยคนี้เท่านั้นแหละ " มัน " ดึงผ้าห่มเราทันที !!! นัยว่าเพื่อเป็นการคอนเฟิร์ม
เท่านั้นแหละ คนไม่กลัวผีอย่างเรา ก็หันไปมองเพื่อน
ฉิบหาย เพื่อนหลับสนิทเหมือนตาย แถมกรนอีกต่างหาก
แต่เรา ไม่มีแรงแม้แต่จะแหกปากเรียกเพื่อน ไม่มีแรงขยับตัว หนึ่งวินาทีที่เผชิญกับ "มัน"ที่เราไม่เห็นตัว มันเหมือนนานมากกกก
เราเคยได้ยินว่าเจอแบบนี้ ให้เราสวด "อิติปิโส" ใช่มะ เราก็เลยสวดมนต์ แต่ด้วยความกลัวมาก ดั้นเจือกลืมบทสวด สวดผิดสวดถูกอยู่หลายจบ รู้สึกว่านานมากๆ นานจนสวดมนต์จบไปหลายบท เราถึงขยับตัวไปเรียกเพื่อนได้ เพื่อนลุกขึ้นมาเปิดไฟ ถามเราว่ามีอะไร เราก็เล่าให้ฟัง เพื่อนเงียบ ทำหน้านิ่ง ๆ บอกเราว่าไม่มีอะไรหรอก แล้วก็ด่าออกมาดัง ๆ ว่า
" มาขออาศัยอยู่ เพื่อทำงานที่นี่เท่านั้น ไม่ได้จะมารบมากวนอะไร ต่างคนค่างอยู่ ถ้าจะมาขอส่วนบุญก็มา ขอให้อยู่แล้วให้โชคให้ลาภ แล้วจะทำบุญไปให้ แต่ถ้ามาไม่ดีมารบกวนกันแบบนี้ จะด่าให้ยิ่งกว่านี้อีก"
เพื่อนหันมาถามเราว่า แค่นี้แหละ นอนได้แล้วนะ จะปิดไฟแล้ว แต่เรากลับมีความรู้สึก แปลก ๆ แปลกแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนในชีวิต มันเย็นยะเยือกไปหมด ไม่กล้าให้เพื่อนปิดไฟ ไม่กล้าหลับตานอน จู่ ๆ น้ำตามันก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ถามว่ากลัวมั๊ย เราว่าเราตอบไม่ได้ ตอนนั้นมันไม่ใช่ความกลัว
เพื่อนเรา มันเห็นเราน้ำตาไหล มันก็รู้แล้ว เพราะปกติเราไม่เคยเป็นแบบนี้เลย มันเลยบอกว่า "งั้นไป ไม่ต้องนอนแล้ว ไปเรียก 3 คนข้างล่าง (หมายถึงเพื่อน 3 คนที่อยู่ชั้นล่าง) ให้ตื่น แล้วขับรถไปฟู๊ดแลนด์กัน ไปซื้อของมาจุดธูปไหว้ซะ เผื่อจะรู้สึกดีขึ้น " ก็เพราะเพื่อนมันรู้สึกว่าเรากลัวจนไม่เป็นอันหลับนอนไง กลัวว่าพรุ่งนี้จะตื่นไปทำงานไม่ได้
เรากับเพื่อนที่นอนชั้นล่างรวมกันเป็น 5 คน เป็นอันว่าต้องขับรถไปฟู๊ดแลนด์ตอนเที่ยงคืนกว่า เพื่อไปซื้อธูปเทียนมาไหว้ "มัน" หรืออะไรซักอย่างนี่แหละ กันกลางดึก (เที่ยงคืนกว่า)
ลืมเล่าไปอย่าง ตอนที่เราโทรเรียก 3 คน ข้างล่าง เป็นเวลาเที่ยงคืน 8 นาที นั่นหมายความว่า วินาทีที่ "มัน"มาปลุกเรา เป็นเวลาเที่ยงคืนเป๊ะ!! อันนี้เพื่อนสนิทที่นอนกะเรามันคอนเฟิร์ม เพราะมันเปิดไฟขึ้นมา มันก็ดูนาฬิกาทันที โดยที่เรายังไม่ได้เราให้มันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น.....
เราขับรถไปฟู๊ดแลนด์ เราก็เล่าให้เพื่อนสามคนข้างล่างฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกะเรา สามคนนั้นช็อค เพราะพวกคุณ ๆ กลัวผีกันมาก แล้วมันก็เชื่อว่าเราไม่ได้อุปทาน เพราะความกลัวไปเอง เพราะในยามปกติ มันรู้ดีว่า เราเฮี้ยนยิ่งกว่าผีซะอีก เพราะทั้งแสบทั้งซ่า ทั้งปากหมา แล้วไม่เคยสนเรื่องแบบนี้เลย พอเรื่องนี้มันออกมาจากปากเรา พวกมันเลยยิ่งโครด ตต ตตต กลัว....
ส่วนตัวเราเอง ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ ก็เลยไม่อยากคอนเฟิร์ม เพราะกลัวสามคนนั้นจะกลัวจนทำงานไม่ได้ แล้วโครงการที่ออฟฟิศเรามันยังต้องอีกนาน
เรากับเพื่อนสนิทเลยได้แต่ปลอบพวกมันว่า ไม่มีอะไรหรอก.. เราอาจเหนื่อยมาก.. หรือเป็นตะคริว แค่อยากสบายใจ ก็เลยชวนกันไปซื้อของมาไหว้ จะได้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ก็เท่านั้นเอง (ตอนเที่ยงคืนกว่าเนี่ยนะ พวกมันคงคิดในใจ)
พอซึ้อของเสร็จ เราก็ขับรถกลับ ที่นี้เรากลับคนละทางกะขามา เพราะขามา เราวิ่งเส้นใน ขากลับ เราเลยวนออกทางถนนสุขุมวิท เพราะมันใกล้กว่า อพาร์ทเม้นต์ที่เราอยู่มันเข้าซอย จากเส้นสุขุมวิทเข้าไปนิดเดียว
พอขับไปใกล้ ๆ จะถึงทางซอยเข้าอพาร์ทเม้นต์ สายตาเจ้ากรรมของพวกเราทุกคน ดั๊นหันไปเห็นป้ายใหญ่มาก สีส้ม ทางซ้ายมือ ติดกับถนนสุขุมวิทว่า
"ทางเข้าสุสานเก่า"
มันบ้ามั๊ยล่ะคุณ ก่อนที่พวกเราทุกคนจะมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์นี้ เราทำงานที่จังหวัดนี้มาเป็นเดือน ๆ แล้ว แต่พักอยู่ที่อื่น แต่ถนนตรงนี้มันใกล้ที่ทำงานเรา ซึ่งหมายความว่าก่อนหน้านี้เราต้องขับรถผ่านตรงนี้ทุกวัน แต่น่าแปลก ที่เราไม่เคยเห็นป้ายนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
เราเงียบ น้ำตามันพาลจะไหลออกมาดื้อ ๆ ขนลุกไปหมด
เพื่อนสนิทเรา นั่งเม้มปากเงียบ เพี่อนสาว 3 คนของเราร้องไห้
พอไปถึงที่อพาร์ทเมนต์............
เรากับเพื่อน ก็เตรียมของอันได้แก่ กล้วย ส้ม ขนม แล้วก็ธูปเทียน เพื่อจะนำไปเซ่นไหว้ แต่มอง ๆ ไปก็ไม่เห็นมีศาลพระภูมิหรือศาลเพียงตา อะไรซักอย่างเลย แล้วหมู่เฮาจะเอาไปไหว้ที่ไหนฟะ..
มอง ๆ ไปเห็นพี่ยาม นั่งดูแลอพาร์ทเม้นต์อยู่ตรงเคาท์เตอร์ เราก็เลยไปถามเค้า
เค้าคงเห็นพวกเราหน้าซีด ๆ ใส่ชุดนอนเป็นยายเพิ้ง เค้าก็เลยถามว่า "ทำไมเหรอ พวกน้องเจออะไรเหรอ" เราไม่อยากเล่าให้เค้าฟัง เพราะเราเองก็ไม่แน่ใจ ว่ามันคืออะไรกันแน่ เดี่ยวเค้าจะหาว่าเราเพ้อเจ้อ เราก็เลยเงียบ
แต่ 3 เพื่อนสาวเราเด่ะ มันเจือกปากไว บอกว่าสงสัยเพื่อนจะเจอผี แล้วมันก็ถามพี่ยามว่า "พี่ ถามจริงเหอะ ที่นี่เคยมีอะไรอ๊ะป่าว"
พี่ยามบอกว่า "ไม่มี๊" (เสียงสูงเชียว) "ที่นี่ไม่เคยมีอะไรนะ ปกติก็มีคนอยู่ตลอด"
เพื่อนเรามันมองหน้าแล้วถาม " จิงเหงอ" พี่ยามหลบตา แล้วน้องเจออะไรล่ะ
เพี่อนสนิทเราได้ที เลยหลอกถามทันควัน "แล้วคนอื่น เค้าเจอเป็นยังไงง่ะ"
ทีนี้พี่ยามเจือกหลุดออกมา " อ่อ! มีหลายแบบ แต่ส่วนมากเค้าเห็นเป็นผู้หญิงกะผู้ชายออกมาจากต้นไม้ต้นนั้นอ่ะ" !!!อุ๊ปส์!!!! แล้วพี่ยามก็ชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ ตรงทางเข้าอพาร์ทเม้นต์
พวกเราก็เลยถึงบางอ้อ ก็เลยถามเค้าว่ามีศาลพระภูมิ หรือศาลเจ้าที่มั๊ย จะได้เอาของไปไหว้ พี่ยามบอกว่าไม่มีหรอก เพราะที่นี่เจ้าของเป็นคริสเตียน แต่ถ้าจะไหว้ ส่วนมากก็เห็นคนเค้าก็เอาไปไหว้ตรงต้นไม้ใหญ่นั่นแหละ
พวกเราก็เรยย้ายตูด ไปไหว้ปะหลก ปะหลก ตรงต้นไม้ใหญ่นั่น บอกเจ้าที่เจ้าทางว่า เรามาขออาศัย เรามาทำงาน ไม่ได้คิดร้ายอะไร ขอให้คุ้มครองพวกเราด้วย เพราะคิดว่า "สิ่ง" ที่เราเจอ น่าจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางอะไรซักอย่าง
แล้วเหตุที่เราเป็นคนเจอ อาจเป็นเพราะว่าเราไม่เคยคิดนับถืออะไร ไม่เคยสวดมนค์ ไม่เคยบอกกล่าวอะไร เวลาไปนอนต่างถิ่นทั้งนั้น เพราะเราห่ามจะตาย ไม่ได้ลบหลู่นะ แต่มันไม่เคยอยู่ในสมองเลยต่างหาก ครั้งนี้เราก็เลยต้องยกมือไหว้ตามที่คนอื่นเค้าบอก ๆ กัน อย่างงง ๆ ว่ามันเกิดอะไรขื้นกะเรากันแน่ (ยังสงสัย ตามประสาคนไม่เคยเจอ)
พอไหว้เสร็จ ก็ขึ้นตึกแยกย้ายกันไปนอน เรากะเพื่อนสนิทเรานอนห้องเดียวกัน คือ ชั้น 10 สามสาวนั่นกลับไปนอน ห้องพวกเค้าคือชั้น 9 พอเรากลับเข้าไปถึงห้อง เราตรงรี่เข้าห้องนอน แต่ไม่กล้าปิดไฟนอน รู้สึกไม่สบายใจ แปลก ๆ
เชื่อมะ..... ขนาดนั่งพิมพ์อยู่นี่ ทำไม รู้สึกขนลุก ทางด้านฝั่งซ้ายมือของตัวเองก็ไม่รู้ สองครั้งแระ เมื่อวานก็เป็น นี่ตอนกลางวันนะ ไม่ได้ขนลุกทั้งตัวนะ แค่ฝั่งซ้ายมือ บริเวณแขน จนถึงข้อศอก ไม่ได้รู้สึกกลัวแล้วขนลุกนะ เพราะตรงที่นั่งพิมพ์อยู่นี่ คนเยอะแยะไปหมด แต่มันลุกเหมือนมีไฟฟ้าสถิตย์อะไรซักอย่าง
อะ เล่าต่อ
เราไม่กล้านอนหลับเลยทั้งคืน ยอมรับว่าหลอน กลัวว่าเวลาเริ่มจะเคลิ้ม ๆ "มัน" จะมาอีก ตอนเช้าตื่นไปทำงานตาโหล อย่างกับหมีแพนด้า เพราะมานอนหลับลง เอาเกือบตอนรุ่งสาง เพื่อนสนิทเรามันก็พลอยนอนไม่หลับไปด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กลัว แต่มันเป็นห่วงเรา
อ๊ะ อ๊ะ..... คิดว่าทุกอย่างคงจบลงแค่นี้ใช่มะ
ไหว้เจ้าที่เจ้าทางแล้วทุกอย่างคงจบด้วยดี
ผิด!!!!!