หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย วัดท่าดอกแก้วเหนือ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย - พระครูสันธานพนมเขต
วัดท่าดอกแก้วเหนือ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

"พระครูสันธานพนมเขต" หรือ "หลวงปู่สนธิ์ สุรชโย" อดีตเจ้าคณะตำบลท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้วเหนือ เป็นพระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมรูปหนึ่งแห่งนครพนม

เชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคม เป็นลูกศิษย์สืบสายธรรมจากหลวงปู่สีทัตถ์ อดีตพระเกจิสองฝั่งโขงที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ

มีนามเดิมว่า สนธิ์ คงหล้า เกิดเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2422 ที่บ้านท่าดอกแก้วเหนือ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 6 คน

กระทั่งอายุ 14 ปี เข้าพิธีบรรพชาที่วัดท่าดอกแก้วใต้ (วัดโสดาประดิษฐ์ ในปัจจุบัน) เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2436 มีพระอาจารย์นนท์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาเล่าเรียนอักษรธรรม ไทยน้อย ลาว ขอม และบทสวดมนต์สูตรต่างๆ

ครั้นอายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดท่าดอกแก้วใต้ เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2442 โดยมีพระอาจารย์ภูมี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์นนท์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบทแล้ว ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัย ก่อนฝากตัวเป็นศิษย์กับพระอาจารย์สีทัตถ์ สุวรรณมาโจ ที่วัดป่าอรัญญคามวสี (วัดพระธาตุท่าอุเทน ในปัจจุบัน) ศึกษาหาความรู้เรียนสรรพวิชากับพระอาจารย์ได้เพียง 1 พรรษา จึงกราบลาข้ามแม่น้ำโขงไปจำพรรษาอยู่ที่วัดห้วยออน

ต่อมา เจ้าอาวาสวัดท่าดอกแก้วใต้ มรณภาพ ท่านจึงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัด ตั้งแต่พ.ศ.2452 เป็นต้นมา ในห้วงเป็นสมภารวัดท่าดอกแก้ว ทำนุบำรุงเสนาสนะภายในวัด ชักชวนญาติโยมก่อสร้างกุฏิไม้ 3 หลัง ต่อมาสร้างกุฏิคอนกรีต 2 ชั้น ศาลาการเปรียญ จนเมื่อ พ.ศ.2494 สร้างอุโบสถอีก 1 หลัง แล้วเสร็จพร้อมกับพิธีพุทธาภิเษกเฉลิมฉลองใน พ.ศ.2498

นอกจากนี้ในฐานะลูกศิษย์ ท่านยังเป็นผู้ช่วยเหลือพระอาจารย์สีทัตถ์ ก่อสร้างพระธาตุท่าอุเทน เจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมคล้ายองค์พระธาตุพนม สูง 33 วา บรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ปูชนียสถานที่สำคัญไว้เป็นที่สักการะของพุทธศาสนิกชนสองฝั่งโขงไทย-ลาว

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2473 เป็นเจ้าคณะตำบลท่าจำปา พ.ศ.2479 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ประจำเขตตำบลท่าจำปา อ.ท่าอุเทน

พ.ศ.2480 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสอบธรรม และตรวจธรรมสนามหลวง

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่พระครูสันธานพนมเขต

หลวงปู่สนธิ์ เป็นพระที่ยึดมั่นในศีลธรรม จะคอยอบรมลูกศิษย์อย่าประมาทในศีล มักน้อยสันโดษ เป็นอยู่ง่ายๆ กินแต่น้อย ไม่สะสมทรัพย์สิ่งของ จนเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธาแก่ชาวพุทธสองฝั่งโขง

นอกจากเป็นผู้ชำนาญการด้านพระปริยัติและวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านยังเป็นผู้ทรงอาคมอันสูงส่งรูปหนึ่งในสมัยนั้น มีชื่อเสียงด้านขับไล่ภูตผีปีศาจและคุณไสย ทุกวันจะมีผู้เดินทางมาขอเครื่องรางของขลังจำนวนมาก โดยเฉพาะผ้ายันต์ลงคาถาซึ่งกล่าวขวัญกันว่ามีพุทธคุณด้านแคล้วคลาด

เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2510 หลวงปู่สนธิ์ได้อาพาธล้มป่วย ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดได้นำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลนครพนม คณะแพทย์ได้รักษาจนอาการดีขึ้น ก่อนกลับไปพักผ่อนที่วัดได้ 2 เดือน ต่อมาในวันที่ 12-13 ธันวาคม 2510 อาการป่วยของท่านเริ่มทรุดหนัก

กระทั่งในวันที่ 14 ธันวาคม 2510 เวลา 15.30 น. หลวงปู่สนธิ์ มรณภาพด้วยอาการสงบในกุฏิ สิริอายุ 88 ปี พรรษา 68
อริยะโลกที่6 ข่าวสดออนไลน์