หลวงพ่อวาด อินทโชติ วัดพลงไสว ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง

หลวงพ่อวาด อินทโชติ
วัดพลงไสว ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง

พระคณาจารย์เรืองนามแห่งภาคตะวันออกอีกรูปหนึ่ง ที่ควรค่าแก่การรำลึกถึง คือ “หลวงพ่อวาด อินทโชติ” อดีตเจ้าอาวาสวัดพลงไสว ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง พระเถระผู้มากด้วยเมตตา มีวิทยาคมแก่กล้า และมีสุดยอดวัตถุมงคลมากด้วยประสบการณ์ เป็นเกจิร่วมสมัยกับหลวงพ่อโต วัดเขากระโดน

หลวงพ่อวาด เป็นชาว อ.แหลมงอบ จ.ตราด ไม่มีหลักฐานระบุว่าท่านเกิด เมื่อปี พ.ศ.ใด ทราบเพียงว่าอุปสมบทที่วัดแหลมงอบ

กระทั่งปี พ.ศ.2436 ช่วงที่ฝรั่งเศสบุกเข้ายึดเมืองจันทบุรี ท่านจึงหนีความวุ่นวายมากับญาติโดยทางเรือ และได้มาพักแรมอยู่ที่อ่าวหน้าวัดพลงไสวนี้ เห็นว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับบำเพ็ญสมาธิและปฏิบัติธรรม จึงตัดสินใจเสี่ยงบารมีโดยตั้งสัจจะอธิษฐานว่า “…ถ้าสามารถที่จะบำเพ็ญธรรมต่อไป ขอให้มีปรากฏการณ์อันศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นด้วย”

เพียงชั่วครู่ บริเวณที่แห่งนั้นก็เกิดพายุหมุนและหมุนแบบทักษิณาวรรต ท่ามกลางความปลื้มปีติของท่านและญาติที่ได้เห็น ท่านจึงสร้างกุฏิขึ้นพอได้เป็นที่พักอาศัยและลงมือก่อสร้างเป็นวัดที่ถาวรสืบต่อมา ตั้งชื่อว่า “วัดพลงไสว”

ท่านเป็นพระที่ดุ ผู้คนเกรงกลัวมาก พูดน้อย มีอำนาจน่าเกรงขามอยู่ในตัวและมีวิทยาคมสูงมาก ด้วยสนใจวิชาไสยศาสตร์มาแต่เดิมอยู่ก่อนแล้ว แม้แต่หลวงพ่อโต วัดเขากระโดน ก็ให้ความเคารพนับถือ และยังเคยไปเล่าเรียนและต่อวิชาลงผ้าประเจียดพัดโบกกับท่านเสมอ

ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ วัดพลงไสว จะมีชาวบ้านมาจากแดนไกลขอให้ท่านรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเป็นทางด้านแก้ “ยาสั่งยาเบื่อ” ซึ่งท่านมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ ใครที่ไปรักษาถ้าท่านบอกว่าหายก็ต้องหาย แต่รายใดท่านบอกว่าไม่ต้องรักษา ส่วนมากจะปรากฏว่าไม่มีใครรอดสักราย นอกจากนี้ หากท่านได้ว่ากล่าวหรือสาปแช่งผู้ใดจะต้องเป็นไปตามปากทุกราย จนขนานนามให้ท่านเป็น “หลวงพ่อวาจาสิทธิ์”

อุปนิสัยเป็นพระที่สันโดษ มักน้อย ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ เมื่อครั้งที่ เจ้าคณะแขวง (ในสมัยนั้น) จะแต่งตั้งให้เป็นพระครูและพระอุปัชฌาย์ ท่านก็ไม่ยอมรับ แม้ว่าลูกศิษย์จะอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่เป็นผล จนเจ้าคณะแขวงต้องนำไปมอบให้ หลวงพ่อเหลี่ยม (พระครูนิพนธ์ธรรมศาสน์) วัดกลางกร่ำ จ.ระยอง สหธรรมิกของท่าน

วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมีไม่กี่ชนิด ส่วนมากศิษย์นำไปมอบให้ท่านทำ โดยท่านจะทำในช่วงเข้าพรรษาและมารับคืนไปหลังออกพรรษา เว้นจากเข้าพรรษาแล้วจะไม่รับทำให้ใครอีกไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม วัตถุมงคลของท่านเท่าที่เห็นส่วนมากจะเป็นเครื่องรางของขลัง เช่น ผ้าประเจียด ตะกรุด สีผึ้งสีปาก เป็นส่วนมาก พระเครื่องเนื้อผงท่านก็สร้างไว้มากเหมือนกัน แต่ไม่ปรากฏว่าใครเคยได้ไปเพราะท่านนำไปฝังหมด

วัตถุมงคลของท่านจึงเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่ได้รับไปเป็นอย่างมาก ถ้าไม่คุ้นเคยหรือสนิทจริงๆ รับรองว่าไม่มีทางนำออกมาให้ดูแน่นอน

ในปี พ.ศ.2487 หลวงพ่อวาด มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา คณะกรรมการวัดได้นิมนต์หลวงพ่อสงัด ปิยวัณโณ วัดโบสถ์เมืองมาเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งต่อมาท่านได้สร้างรูปหล่อและวัตถุมงคลเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อวาด รุ่นแรก ปี 2512 ให้ผู้ที่เคารพเลื่อมใสได้บูชา โดยนิมนต์พระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในภาคตะวันออก นั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลตลอดคืน

แม้จะเป็น “เหรียญตาย” ซึ่งสร้างหลังจากท่านมรณภาพแล้ว แต่ก็ได้รับความนิยมสูง มีผู้เสาะแสวงหากันมาก
อริยะโลกที่6 ข่าวสดออนไลน์