[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 03:05:32 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รักแท้คืออะไร : ความรักที่ไม่ปริปากพูด( ติช นัท ฮันห์ )  (อ่าน 1324 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5062


ระบบปฏิบัติการ:
Linux Linux
เวบเบราเซอร์:
Chrome 54.0.2840.85 Chrome 54.0.2840.85


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 ธันวาคม 2560 10:13:52 »



รักแท้คืออะไร : ความรักที่ไม่ปริปากพูด

1

ครั้งหนึ่ง ผมเเคยไปฟัง ‘ไถ่’ (คำนี้เป็นภาษาเวียดนาม หมายถึงครูหรืออาจารย์) อย่างท่านติช นัท ฮันห์ เทศน์


ท่านกล่าวถึงพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ว่าสิ่งสำคัญในตัวพระโพธิสัตว์ คือการเป็นบุคคลที่มีความสามารถในการฟังอย่างลึกซึ้ง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยผู้อื่นให้ข้ามพ้นความทุกข์

นอกจากนี้ ท่านยังบอกด้วยว่า การสวดภาวนาจะช่วยสร้างสติและทำให้เราผ่อนคลาย ผู้ที่กำลังมีทุกข์ เมื่อฟังบทสวดแล้วก็จะรู้สึกดีขึ้น ท่านจึงขอให้แต่ละคนปล่อยให้พลังแห่งการสวดแทรกซึมเข้าไปภายใน และเมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว ให้ส่งพลังดังกล่าวไปให้คนที่เรารัก เขาก็จะได้รับพลังเหล่านี้ด้วย

ในวันนั้น ผมได้แต่นิ่งฟังด้วยความสงสัย-พลังดังกล่าวจะส่งผ่านไปถึงคนที่เรารักได้จริงหรือ?

และความสามารถในการฟังอย่างลึกซึ้งเยี่ยงพระโพธิสัตว์นั้น มนุษย์เราสามารถฝึกฝนให้เกิดขึ้นในตัวเองได้จริงหรือ?

 

2

สมัยที่ท่านนัทฮันห์มีอายุได้ 17 ปี ท่านเคยไปปฏิบัติธรรมในวัดเซนแห่งหนึ่ง และได้ขอให้อาจารย์ให้ช่วยสอน ‘วิถีแห่งเซน’ ให้


ในเวลานั้น อาจารย์นิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไร แต่กลับยื่นหนังสือเล่มเล็กๆให้เล่มหนึ่ง เป็นหนังสือว่าด้วยการนำพระวินัยมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน มีพระวินัยสำคัญๆสำหรับผู้บวชใหม่ และมีคำเทศนาของอาจารย์อยู่ในนั้น ทั้งหมดเป็นเรื่องพื้นฐานว่าด้วยการกินอยู่ปฏิบัติตัว ไม่มีอะไรลึกซึ้งพิสดาร ไม่มีอะไรเป็น ‘เซน’ อย่างที่เรามักคิดกัน

อาจารย์บอกว่า ท่านนัทฮันห์ต้องท่องจำข้อความทั้งหมดในหนังสือให้ได้ก่อน แล้วนำมาปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นการตื่นนอน กินอาหาร การทำงานในวัด ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่มีอะไรดูเหมือนเป็น ‘ปรัชญา’ เซนเลย

ต่อมาอีก 29 ปี ท่านนัทฮันห์จึงได้เขียนถึงหนังสือเล็กๆเล่มนั้นว่า

เมื่อข้าพเจ้ามีอายุ 17 ปี ข้าพเจ้าคิดว่าคู่มือเล่มเล็กนี้มีขึ้นสำหรับเด็กๆ และบุคคลผู้เริ่มแสวงหา และยังอยู่ห่างไกลจากเซน ข้าพเจ้าไม่ได้ศรัทธาและเห็นความสำคัญของวิธีการเหล่านี้มากไปกว่าที่เห็นว่าเป็นเพียงการเตรียมตัวเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ 29 ปีให้หลัง ข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่าคู่มือเล่มเล็กนั้นคือแก่นอันสำคัญยิ่งของเซน เป็นสาระสำคัญยิ่งแห่งพระพุทธศาสนา

 

เมื่ออ่านข้อความนี้ ผมชอบคิดว่า-หลายครั้งในชีวิต เรานึกว่าตัวเองเติบใหญ่และเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างในโลกแล้ว

แต่ที่จริง เรายังมีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น…

 

3

พระโพธิสัตว์ที่เรารู้จักกันดีที่สุด น่าจะเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งชาวเวียดนามเรียกขานว่า กวนอัมหรือกวนถิอัม ในภาษาเวียดนาม คำว่า ‘กวนอัม’ หมายถึงการสังเกตหรือการฟังอย่างลึกซึ้งต่อเสียงต่างๆหรือเสียงร้องไห้ของโลก กวนอัมจึงมีความสามารถในการ ‘ฟังความทุกข์’ ของผู้คน เข้าใจพวกเขา จึงสามารถช่วยเหลือผู้คนที่เจ็บปวดเหล่านั้นได้


ผมได้พบกวนอัมอีกองค์หนึ่งในหนังสือชื่อ ‘สามเณร : เรื่องราวของรักแท้’

หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือเล็กๆ หน้าปกสีดำและเทา แลดูสงบนิ่งเคร่งขรึม แต่แท้จริงแล้วเล่าถึงเรื่องราวของพระโพธิสัตว์ในความเชื่อของชาวเวียดนาม ซึ่งเคยมีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ และมีชื่อเสียงอย่างยิ่งในฐานะที่ท่านแสดงให้เห็นถึงการ ‘ให้อภัย’ ที่ใหญ่หลวง รวมถึงการใช้ชีวิตโดยเจริญอุเบกขาธรรมอย่างสูงสุด

พระโพธิสัตว์ที่ว่า ชาวเวียดนามเรียกว่า ‘กวนอัมถิกึ้นห์’ ซึ่งเป็น ‘สามเณร’ ผู้มีประวัติความเป็นมาอันน่าทึ่งยิ่งนัก

เพราะแม้ท่านจะเป็น ‘สามเณร’ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ แต่เชื่อหรือไม่ว่าท่านเคยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ร้ายที่จะฆ่าคน และยังถูกกล่าวหาด้วยว่าไปทำผู้หญิงคนหนึ่งท้อง และที่สุด ผู้หญิงคนนั้นก็เอาลูกมาทิ้งไว้ให้ท่านเลี้ยง,

และท่านก็เลี้ยง!

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น ก็คือจุดใหญ่ใจความในหนังสือเล่มนี้ตรงที่บอกว่า

อันที่จริงแล้วสามเณรท่านนี้ไม่ใช่ชายหนุ่ม แท้จริงแล้ว กึ้นห์ตัมเป็นลูกสาวของตระกูลหลี (“ต้นบ๊วย”) ซึ่งอยู่ที่จังหวัดอื่น พ่อแม่ตั้งชื่อให้เธอว่า กึ้นห์ (“ความเลื่อมใส”) และด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะใช้ชีวิตอย่างนักบวช กึ้นห์จึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อจะได้บรรพชาเป็นสามเณร พระพุทธศาสนามาสู่ยาวเจา ซึ่งเป็นนามเดิมของเวียดนาม ราวๆ 200 ปีก่อนหน้าเหตุการณ์นี้ และอารามทั้งหลายในแผ่นดินนี้ทำพิธีบวชให้ก็แต่ผู้ชายเท่านั้น (หน้า 14-15)

 

เมื่อท่านเป็นหญิง แล้วท่านจะไปทำผู้หญิงท้องได้อย่างไรเล่า!


ก่อนหน้าที่ท่านจะหนีมาบวช ท่านเคยแต่งงานกับผู้ชายคนหนึ่งมาก่อน แม้ท่านจะอุทิศชีวิตจิตใจให้กับสามี แต่ท่านรู้ตัวอยู่เสมอว่าตนปรารถนาจะเป็นนักบวช จนกระทั่งวันหนึ่งท่านถูกครอบครัวของฝ่ายชายกล่าวหาว่าจะฆ่าสามีด้วยความเข้าใจผิด แต่ท่านยืนยันที่จะไม่ขอโทษ เนื่องจากท่านไม่ได้คิดเช่นนั้น และท่านไม่ได้ทำอะไรผิด ท่านจึงต้องถูกขับออกจากบ้านของสามี และที่สุดก็หนีออกจากบ้านเพื่อปลอมตัวมาบวชเป็นสามเณร

ชีวิตการบวชทำให้ท่านสงบและเบิกบาน ท่านปฏิบัติอย่างแข็งขันและเข้าใจลึกซึ้งในธรรม จนกระทั่งวันหนึ่ง หญิงสาวที่มาชอบท่านเกิดตั้งท้องขึ้นมา แล้วกล่าวหาว่าท่านคือพ่อของเด็กในท้อง

ท่านรู้ตัวดีว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้นได้ เพราะท่านเป็นหญิง แต่หากท่านเปิดเผยตัวเอง ท่านก็อาจต้องยุติชีวิตนักบวช และอาจสร้างความอับอายให้กับหญิงสาวด้วย ท่านจึงเลือกหนทางที่ยากลำบากที่สุด นั่นคือการใช้อุเบกขาธรรมในการจัดการกับปัญหาทั้งหลาย

“อุเบกขาไม่ได้หมายถึงการกดความทุกข์เอาไว้ และไม่ได้หมายความว่ากัดฟันทนด้วยความจำใจหรือการยอมจำนน ปฏิกิริยาอย่างนี้ไม่เรียกว่าอุเบกขา (หรือขันติบารมี) และไม่อาจนำเราไปสู่อีกฝั่งได้ เราต้องฝึกมองอย่างลึกซึ้ง ต้องฝึกใคร่ครวญเพื่อจะได้เข้าใจ และบ่มเพาะความเมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ในการบ่มเพาะความเมตตาเราให้ความสุข ในการหล่อเลี้ยงความกรุณาเราช่วยทำให้ความทุกข์ของผู้อื่นบรรเทา และเมื่อเราปฏิบัติอย่างไม่หยุดยั้ง มุทิตา (ต้นธารของความสุขเบิกบาน) ก็จะยิ่งหนักแน่น การปฏิบัติอุเบกขาจะช่วยให้เราปล่อยวางความโกรธเกลียด อคติ และเครื่องพัวพันทั้งปวง” (หน้า 63-64)

 

เมื่อท่านสิ้นชีวิตลงในอีกหกปีถัดมา ผู้คนที่เคยเกลียดชังและกล่าวหาท่านจึงได้รู้ความจริงว่าท่านเป็นหญิง พวกเขาหันมายกย่องท่านที่อดทนต่อความเจ็บปวดต่างๆ และในที่สุด ท่านก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระโพธิสัตว์

 

4

ผมอ่านเรื่องราวทั้งหมดนี้ด้วยความชื่นชมยินดีอย่างยิ่ง


เรื่องราวของพระโพธิสัตว์องค์นี้ ได้รับการ ‘เล่าใหม่’ โดยฝีมือของท่านนัทฮันห์ ผู้มีความเป็นกวีอยู่ในสายเลือด ท่านเล่าเรื่องด้วยภาษาร้อยแก้วอย่างสมถะ เรียบง่าย แต่ลึกซึ้งและเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก และถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทยด้วยฝีมือของ ‘สดใส’ หรือ อ.สดใส ขันติวรพงศ์ ผู้แปลงานงดงามมาแล้วมากมาย

เมื่ออ่านจบ ผมจึงเข้าใจว่า พลังแห่งความรักส่งผ่านไปถึงคนที่เรารักได้อย่างไร

และแม้ยังต้องฝึกฝนตัวเองอีกมาก แต่ผมก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า ความสามารถในการฟังอย่างลึกซึ้งเยี่ยงพระโพธิสัตว์นั้น มนุษย์เราสามารถฝึกฝนให้เกิดขึ้นในตัวเองได้อย่างไรบ้าง

ผมจึงอยากให้คุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ด้วย

 

 

ชื่อหนังสือ : ‘สามเณร : เรื่องราวของรักแท้’

เขียนโดย : ติช นัท ฮันห์

แปลโดย : สดใส ขันติวรพงศ์


จาก https://tomorn.co/2017/10/06/love-4/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ความรักหรือไมตรี โดย ติช นัท ฮันห์
กระบวนการ NEW AGE
เงาฝัน 3 3102 กระทู้ล่าสุด 04 กุมภาพันธ์ 2553 10:18:22
โดย เงาฝัน
ติช นัท ฮันห์ พระสงฆ์ชื่อดัง นำนักบวชแปดสิบรูปเยือนไทย
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 2021 กระทู้ล่าสุด 05 กันยายน 2553 08:52:18
โดย มดเอ๊ก
“๓ ทศวรรษสายธารความคิด ติช นัท ฮันห์ กับสังคมไทย”
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 11 5106 กระทู้ล่าสุด 11 มีนาคม 2554 14:48:03
โดย wondermay
ศีล 14 ข้อของชาวพุทธ โดย ติช นัท ฮันห์
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1176 กระทู้ล่าสุด 01 กรกฎาคม 2559 01:42:13
โดย มดเอ๊ก
ติช นัท ฮันห์ ‘สนทนากับความว่าง’
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
มดเอ๊ก 0 1139 กระทู้ล่าสุด 05 กรกฎาคม 2559 21:56:43
โดย มดเอ๊ก
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.331 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 19 มกราคม 2567 20:02:26