[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 07:25:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: the disaster from behaviour mankind  (อ่าน 2955 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:12:49 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>


(:LOVE:)ถ่ายภาพประกอบเนื้อหาโดย.....ข้าพเจ้า(บางครั้ง) รัก


...........................ภัยพิบัติเกิดจากเวรกรรมของมนุษยชาติ......................



ภัยพิบัติเกิดจากเวรกรรมของ มนุษยชาติ คือ ก่อบาปกอเวรกรรมกันมากโดยเฉพาะ อย่างยิ่งแรงอาฆาตพยาบาทของผู้ที่
ตกทุกข์ได้ยากเพราะ ถูกฆ่า ถูกทรมาน ถูกเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ
ภัยพิบัตินี้ จะเกิดจากเวรกรรมของ มนุษยชาติ คือ ก่อบาปกอเวรกรรมกันมาก โดยเฉพาะ อย่างยิ่งแรงอาฆาตพยาบาทของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก เพราะ ถูกฆ่า ถูกทรมาน ถูกเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ พลังความชั่วร้าย ของแรงอาฆาตพยาบาทเหล่านี้มีการสะลมกันมาแต่โบราณ
จนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งผ่านสงครามใหญ่ ๆ และสงครามใลก มา 2 ครั้ง ทำให้บังเกิดเป็นกลุ่มดาวสีดำขนาดมหึมาจำนวน 3 ดวงขึ้นมา ซึ่งจะกล่าวว่าเป็นหลุมดำก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ แต่ มีพลังงานมหาศาลมากกว่าดวงอาทิตย์ของระบบสุริยจักรวาล เราเสียอีก วงโคจรของดาวนี้ ดวงแรกอยู่ห่างดวงอาทิตย์เป็น ระยะ 4 เท่าของดาวพลูโต
ในวันเกิดเหตุจะมีดวงดาวเรียงกันอยู่ 10 ดวง ขาวสว่าง 7 ดวง ดำสนิท 3 ดวง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มหมอก สีดำเป็นกลุ่มก้อน พลังงาน 2 กลุ่มต่อท้ายดวงดำทั้ง 3 ดวงนี้ด้วย ดาวทั้ง 10 ดวงและกลุ่มพลังงานสีดำอีก 2 กลุ่ม เรียงตัวกันในแนว 80 คือ เป็นแนวเส้นตรง สำหรับ กลุ่มดาวที่กล่าวนี้ยังกล่าวไม่ละเอียด ถ้าต้องการให้ละเอียด ต้องคำนึงถึงดวงจันทร์ ดวงดาวนพเคราะห์ในระบบสุริย จ้กรวาลด้วย โดยเฉพาะดวงจันทร์ของโลกจะให้ผลกระทบรุนแรงที่สุดเพราะอยู่ใกล้โลกที่สุด

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:51:57 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:17:06 »




เหตุการณ์ที่สำคัญจะเกิดได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นไป โดยในวันเกิดเหตุจะมีดาวจำนวน 10 ดวง และกลุ่มหมอกอีก 2 กลุ่มเข้า
มาเรียงตัวกันในแนว 80 โดย เป็นดาวที่มีแสงสีขาวแต่เป็นดาวขนาดเล็ก 7 ดวง และเป็น ดาวที่มีขนาดใหญ่อีก 3 ดวง ส่วนกลุ่มหมอกอีก 2
กลุมเป็นสีดำ การเรียงตัวของดาวเช่นนี้ทำให้เกิดแนวพลังสนามแม่เหล็กขึ้นอย่างรุนแรง พลังงานของดาวแต่ละดวงจะถูก ตีกลับไปกลับมาจนคนบนโลกมนุษย์ส้มผัสได้ คนจะมีอาการ ขนหัวลุกโดยไม่มีสาเหตุ สารและวัตถุที่มีอำนาจแม่เหล็กจะ เคลื่อนที่ได้เอง ไฟฟ้าตามอาคารบ้านเรือนจะดับ ๆ ติด ๆ
หรี่ ๆ ดับ ๆ ประตูมิติจะถูกเปิดขึ้นสสารและวัตถุต่าง ๆ จะถูกเคลี่อนย้ายผ่านประตูมิติได้
ในวันที่เกิดเหตุจะเกิดสุริยุปราคาขึ้นก่อน เมื่อ ดวงจันทร์โคจรเข้ามาในแนวเส้นตรงเดียวกับโลกและดวง อาทิตย์ในเวลาเดียวกัน ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของภัยธรรมชาติ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่อย ๆ รุนแรงขึ้น แผ่นดิน จะไหวทั่วโลกนานถึง 8-9 ชั่วโมง




.............................ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นจะมีอยู่ 4 ระดับ คือ.................................



1.ทำลายทั้งจักรวาล คือ ไม่มีอะไรเหลืออยู่ใน สุริยจักรวาลเลย แม้แต่ดวงอาทิตย์ก็แตกลลายไปด้วย
2.ดาวพระเคราะห์บางดวงในระบบสุริยจักรวาล แตกสลายไป ซึ่งจะทำให้ระบบสุริยจักรวาลเสียสมดุล วงโคจร ของดวงดาวอาจจะเปลี่ยนไป
3.ไม่มีดาวพระเคราะห์ดวงใดแตกสลายไป แต่ว่า จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงและเสียหายมาก บนพื้นผิว หรือเปลือกของดาวพระเคราะห์แตละดวง เช่น เกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินแยก และภูเขาไฟระเบิดทั่วไปหมดทั้งดวงดาว เท่าที่ ทราบด้วยดวงจิต ขณะนั้นประเมินว่าจะเกิดในระดับที่ 3 นี้
4.เกิดควานเสียหายขึ้นกับพื้นผิวหรือเปลือกของ ดาวพระเคราะห์แต่ละดวง แต่ว่าระดับความรุนแรงน้อยกว่า ข้อ 3 คือเกิดความเสียหายเป็นบางจุดบางพื้นที่ในกรณีนี้ ความเสียหายบนพี้นใลก เช่น เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเป็น บางประเทศ เกิดภูเขาไฟระเบิดเป็นบางจุด ฯลฯ
ระดับความรุนแรงที่ท่านเห็นนั้นโลกจะมืดเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเกิดภัยอันนี้คงจะเป็นผลของระเบิดนิวเคลยร์ที่เป็นเมฆปกคลุมโลกส่วนบางประโยคที่ไม่
ได้นำมาลงคือการที่ดวงดาวต่าง ๆ ถูกตรึงจากแรงโน้มถ่วงทำให้การโคจรสะดุดนั้น ส่วนนี้อาจทำให้ขวัญของคนไม่ดีงานส่วนนี้เป็นหน้าที่ของ
ผู้วิเศษรับผิดชอบอยู่แล้ว.......................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:41:27 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:20:50 »




ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับโลกมนุษย์สามารถแยก ออกเป็น ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
1. [ดิน]ภัยที่เกิดขึ้นในรูปของดิน คือ แผ่นดินแยก แผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม แผ่นดินทลาย เกาะจม ฯลฯ
2. [น้ำ]ภัยที่เกิดขึ้นจากน้ำ ได้แก่ ภาระฝนแล้ง ติดต่อกันยาวนานในบางประเทศ และเกิดภาวะน้ำท่วมใน บางประเทศ ในระหว่างที่เกิดการซ้อนกันของดวงดาวต่าง ๆ ทำมุม 180 น้ำแข็งขั้วโลกละลาย น้ำทะเลจะหนุนเนืองท่วม สูงมาก เกิดคลื่นขนาดใหญ่ ความสูง 1 000 - 2,000 เมตร เนื่องจากคลื่นใต้น้ำซึ่งเกิดจากการระเบิดของภูเขาใต้ทะเล
3. ภัยที่เกิดในรูปของลมก็มี ลมพายุชนิดต่าง ๆ เช่น ทอร์นาโด ลมไต้ฝุ่น เกิดขึ้นในท้องที่ต่าง ๆ ทั่วโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวและแผ่นดินแยกนี้ก็จะมีอากาศบางชนิดที่ เป็นพิษอย่างร้ายแรงขึ้นมาจากใต้พิภพ เรียกว่า ลมสลาตัน
ลมสลาตันที่ว่านี้ อาจจะเป็นก๊าซ ซึ่งมักพบในการเจาะ น้ำมันมีอันตราย ถ้าสูดดมประมาณ 100 พีจีเอ็ม จะเสียชีวิต ซึ่งจะย่อยสลายทุกสิ่งทุกอ่างที่ลมพัดผ่านไปให้กลายเป็นผุยผงไปหมด ลักษณะของลมนี้คล้ายกันหมอกลงในยามเช้า หนาทึบมาก ถ้าได้สัมผัสลมนี้แล้วจะไม่รู้สึกร้อนหรือเย็น
ขณะที่เกิดลมนี้ก็ไม่มี การแกว่งไกวของใบไม้ มีความเงียบสงบหรือเสียงค่อย ๆ ลมนี้ จะค่อย ๆ แผ่กระจายออกมาจากรอยแตกของเปลือกโลกไม่ว่าจะ
เป็นบนบกหรือใต้ทะเล
4. [ไฟ]ภูเขาไฟระเบิดเกิดขึ้นทั่วไป อากาศจะร้อน อบอ้าวผิดปกติ แผ่นดินจะแยกมีไฟพุ่งขึ้นจากใต้พิภพ บาง ครั้งจะมีสัตว์นรกหลบหนีขึ้นมาเพ่นพ่านด้วย
ข้อสังเกตก่อนเกิดเหตุจะเกิดเหตุจะเกิดปรากฏการณ์ขึ้น คือ จะมีสงครามนิวเคลียร์เกิดขื้น ท้องฟ้าจะ มีเม็ดดำขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมไปทั่ว มีฝนตก ตลอดเวลาผสมกับลมพายุ และฟ้าจะผ่าในพื้นที่นั้นตลอดเวลาต่อเนื่องเป็นเวลาหลาย ๆ วัน......................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:42:02 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:22:13 »




ภาคใต้ โดยเฉพาะทางตอนล่างจะพบกับพายุ น้ำท่วม แผ่นดินไหวและคลื่นขนาดยักษ์พัดเข้ามา ทุกสิ่ง ทุกอย่างจะสูญสิ้นไปหมด แผ่นดินจะหายไปเหลือเพียงเกาะ เพียงไม่กี่เกาะ คนที่อาศัยอยู่เสียชีวิตเกือบหมด
ภาคกลาง จะพบกับพายุฝนอย่างหนัก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก กรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียงจะจมลง ไปหมด เนื่องจากแผ่นดินไหวและทรุดตัวลงกลายเป็นทะเล
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะพบภัยพิบัติน้อยกว่า ภาคอื่น ๆ เพราะว่าภาคนี้ประสบเคราะห์กรรมอยู่เสมอ เป็น การใช้หนี้กรรมอยู่เป็นประจำแล้ว โดยภาคนี้จะพบลมพายุ และแผ่นดินไหวบ้างเล็กน้อย จังหวัดที่ปลอดภัยก็มี อุดรธานี ขอนแก่น และชัยภูมิ เป็นต้น แต่ปัญหาสำหรับภาคนี้ก็คือ ผู้คนที่รอดตายจะต้องพบกับโรคระบาด และอดอยาก เพราะ พืชพันธุ์ธัญญาหารถูกภัยธรรมชาติทำลายหมด
ภาคเหนือ จะพบภัยธรรมชาติก็คือ แผ่นดินไหว และแผ่นดินแยก มีไฟพุ่งขื้นมาจากใต้พิภพ มีผู้คนล้มตาย จำนวนมากเช่นเดียวกับภาคใต้และภาคกลาง พื้นที่ริมทะเล จะถูกน้ำท่วมเข้ามา
สรุปว่าหลังจากเกิดภัยพิบัติแล้ว ประเทศไทยจะต้อง ทำแผนที่ใหม่ เพราะดินแดนบางส่วนจะจมลงใต้ทะเล สำหรับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป็นดังนี้
ประเทศที่เป็นเกาะ เช่น ญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไต้หว้น ฯลฯ จะจมหายไปเกือบหมด
ประเทศที่เคยเป็นผู้ก่อสร้างสงครามในสมัยสงคราม โลกครั้งที่หนึ่งหรือครั้งที่สอง ก็จะต้องใช้หนี้กรรมที่ตามมา เนื่องด้วยแรงคำสาปแช่งของผู้ได้รับเคราะห์ เนื่องจากสงคราม ทั้งสองทำให้ประเทศเหล่านั้นประสบภัยพิบัติที่เกิดจากแรง อาฆาตจนพังพินาศไปหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:42:32 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:24:52 »




ประเทศที่เคยล่าอาณานิคม ประเทศที่เคยค้าทาส และใช้แรงงานทาสมาก่อน จะต้องประสบกับภัยพิบัติจากคำ สาปแช่งของผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานในอดีต และกลุ่มประเทศ ที่เคยล่าอาณานิคมมาก่อนจะหันมาทำสงครามกันเอง
อันที่จริงภัยพิบัติอันเนื่องมาจากแรงบาปกรรมและ แรงสาปแช่งเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ค. 2530 แล้วแต่ที่เกิดน้อยทำให้สังเกตเห็นไม่ชัดเนื่องจากผู้มีฤทธิ์
ใช้ฤทธิ์ต้านแรงคำสาปแช่งเหล่านั้นไว้ แต่ในปี พ.ศ. 2538 - 2539 ผู้มีฤทธิ์ ทั้งหลายจะเริ่มอ่อนแอลงและต้านแรงคำสาปแช่งไว้ไม่อยู่
พอปี พ.ค. 2540 ภัยพิบัติจะเริ่มเกิดขึ้นต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ แต่ยัง ไม่รุนแรงมากนัก และจะรุนแรงที่สุดประมาณ พ.ศ. 2542
ภายหลังจากการเกิดภัยพิบัติ อันเนื่องมาจากแรง อาฆาตพยาบาทและสาปแช่งของเหล่ามนุษย์โลกที่ต้องทนทุกข์ ทรมาน เนื่องจากถูกเอารัดเอาเปรียบและข่มเหง ประชากร ทั่วโลกจะมีชีวิตรอดเหลือเพียงไม่เกิน 1 00 ล้านคนจาก ปัจจุบันที่มีประชากรทั้งโลกมากกว่า 5,000 ล้านคนที่รอดชีวิตภายหลังเหตุการณ์ครั้งนี้ จำแนกได้เป็น 3 ประเภท คือ
1. พวกที่รอดชีวิตแต่สูญเสียตติสัมปชัญญะอย่าง สมบูรณ์ ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากมีจิตใจและสติที่ไม่เข้มแข็งพอ ไม่ได้ฝึกเจริญกรรมฐานมาก่อน ไม่สามารถทนเห็นสภาพของ เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่นคนตายจำนวนมาก แผ่นดินไหว แผ่นดินแยก ฯลฯ
2. พวกที่รอดชีวิตแต่สูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะ หรือบางส่วน ที่เรียกว่า กึ่งดี - กึ่งบ้า"พวกนี้ได้แก่ ผู้ที่ฝึกหัด กรรมฐานมาบ้างจนมีพื้นฐานพอสมควร แต่ยังไม่แข็งแกร่งพอ
3. พวกที่รอดชีวตและมีสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะมีจำนวนน้อยมากได้แก่ผู้ที่เจริญกรรมฐานมานานหลายปี จนมีจิตใจเข้มแข็งมองเห็นการเกิด แก่ เจ็บ และตายเป็น ธรรมดาของมนุษย์โลก หรืออาจกล่าวว่าได้แก่ผู้ที่เคยเจริญ มรณานุสติมาเป็นประจำแล้วจนไม่กลัวความตายและมอง เห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดานั่นเอง
ตามที่หลวงพี่วาณิชท่านเห็นทางกรรมฐานมาท่าน กล่าวต่อไปอีกว่า ประเทศไทยจะมีผู้รอดชีวิตมากที่สุด เมื่อ เทียบกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก คือ ประเทศไทยจะเสียหาย เพียง 700% ขณะที่ประเทศอื่น ๆ เสียหายเกินกว่า 90% ภายหลังภัยพิบัติ ใหญ่ครั้งนี้ มนุษย์โลกที่รอดชีวิตมาได้ ยังต้อง ประสบกับภัยโรคระบาดตายไปอีกไม่น้อย
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ผ่านพ้นไปแล้ว โลก มนุษย์คงเหลือแต่ผู้มีศีลธรรม คนชั่วทั้งหลายจะเสียชีวิต ไปหมดหรือกลายเป็นคนบ้า สูญเสียสติสัมปชัญญะ เพชรนิล จินดาและทรัพย์สมบัติทั้งหลายจะผุดขื้นมาเกลื่อนพื้นโลก พรรณไม้ต่าง ๆ แปลก ๆ จะออกดอกออกผลเต็มไปหมด อาหารการกินจะอุดมสมบูรณ์มากแตาใช้เวลาอีกหลายร้อยปี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:43:04 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 28 เมษายน 2553 16:27:53 »




โลกมนุษย์จะค่อย ๆ วิวัฒนาการขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งภายหลังจากที่ถาวรวัตถุทั้งหลายถูกทำลายลงไปหมด ทัศนคติและค่านิยมของคนในยุคนี้จะตรงกันข้ามกับในยุค ก่อนเกิดภัยพิบัติ คือมีความเจริญทางจิตใจและมีคุณธรรมสูงขึ้น แต่ความเจริญทางวัตถุจะมีน้อยมาก
เพราะจะต้อง ก่อสร้างกันใหม่หมด เพชรนิลจินดาทั้งหลายที่กองเกลื่อน พื้นดินจะไม่มีค่า อาหารการกินจะมีค่ามากกว่า ประเทศไทย ซึ่งมีคนรอดชีวิตมากกว่าประเทศอื่น ๆ จะค่อย ๆ เจริญขื้นมาจนภาษาไทยจะกลายเป็นภาษาหลักของโลกในที่สุด เนื่องจากคนในประเทศอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะรอดชีวิตก็จะมีสติ วิปลาสไปหมด และการเจริญกรรมฐานนั้นก็มีปฏิบัติกันเฉพาะ ในเมืองพุทธเท่านั้นเป็นส่วนมาก เมืองนอกก็มีแต่น้อยและ จิตสมาธิไม่สูงเหมือนคนไทย ชาวไทยผู้มีศีลธรรมซึ่งเหลือรอด จากภัยพิบิตนี้จะได้ทำบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้เอาไว้ และหลัง จากนี้ไปอีก 300 ปี ถึง 400 ปี วิชาการ ลิ่งก่อสร้าง ฯลฯ จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งควบคู่กับจิตใจของมนุษย์โลก ซึ่งเจริญ เข้าสู่ยุคศิวิไลซ์ คือมีชีวิตงดงาม หลวงพี่วาณิชท่านเล่าว่า ผู้ที่ จะไปเกิดในยุคนี้ได้จะต้องเป็นผู้มีศีลธรรม รู้จักทำบุญทำทานมากพอสมควร
เมื่อท่านได้เล่าถึงภัยพิบัติต่าง ๆ แล้ว ท่านได้เล่าต่อไปว่าท่านได้เอ่ยถามเทวดาผู้มาแจ้งข่าวท่านในกรรมฐาน ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นจะสามารถแก้ไขหรือบรรเทาได้อย่างไร แค่ไหนเทวดาตอบว่าไม่สามารถจะระงับภัยพิบัติได้ซึ่งกล่าวได้ แต่สามารถบรรเทาให้เบาบางลงไปได้ตามแต่การปฏิบัติดี ปฏิบัติชั่วของชาวโลกทั้งหมด เพราะว่าสาเหตุของภัยพิบัติ นั้น เกิดจากความชั่วร้ายต่าง ๆ ที่ละสมมาในจักรวาลนี้นับหมื่น ๆ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการทำชั่วบนโลกมนุษย์นี้เองทุกครั้งที่ มีการทำชั่วเกิดขื้น คือ ผิดศีลขั้นพื้นฐานหรือศีลห้า จะต้องมี ผู้เดือดร้อนหรือเจ้ากรรมนายเวรนั้นเอง เช่น
1. ปาณาติปาต คือ การฆ่าสัตว์หรือมนุษย์ วิญญาณของสัตว์หรือมนุษย์ นั้นย่อมอาฆาต พยาบาท จองเวร และเกิดเป็นพลังงานแห่งความชั่วร้ายขึ้น
2. อทินนาทาน คือ การลักทรัพย์ เจ้าของทรัพย์ ย่อมเสียหายและมีจิตผูกพยาบาทเช่นกัน
3. กาเมสุมิจฉาจาร คือ การประพฤติผิดทางเพศ ผู้เป็นบิดามารดา หรือสามีภรรยาย่อมโกรธแค้นที่ผู้ที่รักถูก ล่วงเกินหรือถูกแย่งสิทธิ์
4. มุสาวาทา คือ การกล่าวปดมดเท็จ ผรุสวาท หยาบคาย เพ้อเจ้อ ใส่ร้ายป้ายสี ผู้ที่ถูกกระทำย่อมได้รับ ความเสียหายและมีจิตใจผูกพยาบาทอาฆาต
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าทุกครั้งที่มีการรังแกกันหรือล่วงเกิน กัน ถ้าหากเจ้าทุกข์ยังไม่อโหสิกรรมให้หรือ ยังไม่ให้อภัยแก่ผู้ ล่วงเกินแล้ว เจ้าทุกข์จะกลายเป็นเจ้าหนี้หรือเจ้ากรรมนายเวร คอยตามทวงหนี้แก่ผู้ล่วงเกินไปทุกภพทุกชาติจนกว่าจะสำเร็จ และยังมีพลังงานอีกล่วนหนึ่งซึ่งเป็นความอาฆาตพยาบาท หรือพลังงานความชั่วร้ายที่ล่องลอยไปสะสมกันในจักรวาล ซึ่งเมื่อละสมกันมาเป็นเวลานาน ๆ หลายหมื่นหลายแสนปี จึงกลายเป็นดาวสีดำขนาดใหญ่ มีพลังงานความชั่วร้ายที่มีเป้าหมาย เพื่อทำลายสุริยจักรวาล..........................................



(:LOVE:)ธรรมมะ คือ ธรรมชาติ รัก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เมษายน 2553 16:47:58 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
prophesy disaster the world
คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
sometime 2 3192 กระทู้ล่าสุด 29 มีนาคม 2553 06:06:06
โดย เงาฝัน
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.343 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page 07 เมษายน 2567 21:34:05