[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มีนาคม 2567 22:24:15 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัฒนธรรม “คำด่า” (ในไทย)!?  (อ่าน 1043 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2303


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 27 กุมภาพันธ์ 2561 08:56:42 »




วัฒนธรรม “คำด่า” (ในไทย)!?

เท่าที่เรียนรู้จากสังคมไทยสมัยเก่า พบว่ามีคำด่าแบบน่ารักน่าเอ็นดูอยู่ไม่น้อย เช่น สันขวาน หอกหัก บ้าบิ่น และก็มีที่นิยมด่าเป็นสำนวนโวหารแบบใช้ฝีมือทางกวี (เพื่อผลักภาระไปให้คนอื่นว่าคนโบราณเขาก็ด่ากันแบบนี้แต่ไหนแต่ไรมา) เช่น “ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว” “สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล” “เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง” “คางคกขึ้นวอ” และคำด่าในวรรณคดีอย่าง “อีกลีกลำส่ำสาม” คำของนางตะเภาแก้วตะเภาทองที่ด่านางวิมาลาเมียชาละวันว่า สัญชาติจระเข้ได้ผัวจระเข้แล้วไม่พอยังจะเอามนุษย์ (ไกรทอง) ทำผัวอีก นัยยะของคำจึงเป็นการด่านางวิมาลาว่า “หญิงกลี (กาลี) มีผัวถึงสามคน”

คำด่าของไทยร่วมสมัยโดยมากจะมีการแบ่งแยกเพศค่อนข้างชัดเจน โดยนิยมยกเอา “สัตว์” ไม่ประเสริฐทั้งหลายขึ้นเทียบเคียงในการด่ากัน ระดับการเจ็บแสบต่างกัน ขึ้นกับเพศเป็นสำคัญ

สำหรับเพศชาย ว่ากันตั้งแต่ “ควาย” สัตว์สี่เท้าช่วยงานมนุษย์ที่ไม่เคยขี้รดหัวใคร นอกจากเติมปุ๋ยข้าวกล้าในนาไร่ รวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานที่นักธรรมชาติวิทยาระบุว่าเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งแวดล้อมที่ “เหี้ย” อาศัยอยู่ แค่ชื่นชอบที่จะลากอาหารของคนอื่นไปกินในน้ำเท่านั้น หากเพศชายด้วยกันด่ากันเองก็มักมอบของส่วนตัวที่มีเหมือนๆ กันให้ไปดูต่างหน้า นั่นคือ “กล้วย” แต่ถ้าจะแฝงความหมายถึงความขลาดแล้วก็ต้อง “ไอ้หน้าตัวเมีย” ซึ่งคำนี้เองผู้ชายที่ถูกผู้ชายด้วยกันด่าก็จะเจ็บแสบประมาณหนึ่ง แต่ถ้าคนด่าเป็นผู้หญิงแล้วจะถึงกับปวดแสบปวดร้อนเลยทีเดียว ทำนองเดียวกับ “แรด” หากผู้ชายด่าผู้หญิงระดับความแสบร้อนจะสูงกว่าผู้หญิงด่าผู้หญิงหรือผู้หญิงด่าผู้ชายทบเท่าทวีคูณ

ในเพศหญิง นิยมด่าคนที่สร้างความขุ่นเคืองเทียบกับดอกไม้ชั้นสูงที่ทำจากเหล่าสุวรรณกาญจนา นั่นคือ “ดอกทอง” หากเป็นสมัยต้นรัตนโกสินทร์มีอยู่คำหนึ่งนั่นคือ “สำเพ็ง” ถึงแม้จะเป็นย่านการค้าขายของคนจีน แต่ก็มีการทำธุรกิจส่วนตัวของผู้หญิงด้วย คนที่โดนด่าจึงเท่ากับถูกเปรียบเปรยว่าเป็นโสเภณี ติดตามมาด้วยคำด่ายุคเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกที่มีความหมายคล้ายกันคือ “ช็อกการี” ส่วนคำที่ผู้หญิงนิยมด่าผู้หญิงด้วยกันรวมทั้งด่าผู้ชาย (ชายอกสามศอกทั่วไปคงไม่ใช้ด่าใคร นอกจากผู้ชายสีชมพู) นั่นคือ “หน้า ห. สระอี” ความเจ็บแสบคงอยู่ที่การให้ความหมายแบบสะท้อนกลับ ในเมื่อ ห.สระอี เป็นของที่ผู้ชายโดยมากปรารถนา แต่กลับมีทัศนคติเกี่ยวกับสิ่งนั้น เหมารวมถึง ประจำเดือน ตลอดจนผ้าถุงผู้หญิงเป็นของต่ำ ใครมีของดีของขลังเจอผ้าถุงหรือระดูของผู้หญิงเข้าก็ถึงกับเสื่อมถอย เมื่อผู้ชายเป็นคนตั้งมาตรฐาน ห.สระอี ให้ผู้หญิงเป็นของต่ำ ผู้หญิงก็เอาคำนี้ไว้ด่าผู้ชาย ผมเห็นผู้ชายรายไหนรายนั้น เป็นฟืนเป็นไฟหัวฟัดหัวเหวี่ยง

หากศึกษาคำด่าของเพศทางเลือกด้วยแล้ว อาลักษณ์คงจดบันทึกกันไม่ทันทีเดียว ด้วยเป็นการบัญญัติศัพท์ชนิดรายวัน เน้นแสบสันต์และโปกฮา อาทิ อีปลวกแคระ ชะนีหยอดเหรียญ เสลดเป็ดเทศ เห็บหมาไน ช้างกระพือ ชะนีฟลอร์ๆ พื้นบ้านกระดานไม้ หนังหน้าปลาดุกชนเขื่อน ปลากะโห้ติดเบ็ด จิ๋มติดมิเตอร์ ไปตายให้หนอนแดก เป็น (ส่วนน้อยเท่าที่พอจะเผยแพร่ได้) ต้น

แถวบ้านผมมีอีกคำที่นิยมด่ากัน นั่นคือ “อีเห็ด” ตระกูลพืชชั้นต่ำ แต่จนแล้วจนรอดถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่า เห็ด มันมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวอันเป็นคุณสมบัติชั่วช้าเลวทรามที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างอย่างไร หรือเพราะเห็ดเมื่อได้ฝนโดนไอชื้นเข้าหน่อยละบานสะพรั่ง (เป็นดอกเห็ด) คนถึงเอามาใช้เป็นคำด่าคนด้วยกัน


---------------------------------------------------------------------------
ที่มา : บทความ “วัฒนธรรมคำด่า”. โดย องค์ บรรจุน. ศิลปวัฒนธรรม ​ฉบับเมษายน 2558
เรื่อง-ภาพ : นิตยสารศิลปวัฒนธรรม

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ราชบุรี แหล่่งนำเสนอศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีไทยพุทธ
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 3755 กระทู้ล่าสุด 26 กรกฎาคม 2555 20:10:33
โดย Kimleng
เที่ยวดอยปุย จ.เชียงใหม่ และเรื่องน่ารู้ ประเพณี วัฒนธรรม ของชาวเขาเผ่าม้ง
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 4431 กระทู้ล่าสุด 01 มกราคม 2556 14:47:01
โดย Kimleng
[ไทยรัฐ] - ช้าก่อนสาวก Tesla สรรพสามิตเผย เทสลา ยังไม่มีแผนผลิตรถ EV ในไทย
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 195 กระทู้ล่าสุด 26 พฤษภาคม 2565 18:17:35
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวเด่น] - ทะลุวัง บุก! ก.วัฒนธรรม ร้องถอด สว.เนาวรัตน์ พ้นศิลปินแห่งชาติ ไม่เคารพฉันทามติ ปช
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 85 กระทู้ล่าสุด 06 สิงหาคม 2566 18:01:05
โดย สุขใจ ข่าวสด
[ข่าวเด่น] - เปิดประวัติ “อิทธิพล คุณปลื้ม” อดีต รมต.วัฒนธรรม ลูกชายกำนันเป๊าะ
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 77 กระทู้ล่าสุด 05 กันยายน 2566 23:51:07
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.377 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มีนาคม 2567 09:48:50