มิจฉาสติกับโลภะมูลจิต

http://img512.imageshack.us/img512/8121/0b240923538c2f04d14d8d2.gif

ไม่ได้ไปเขียน Blog เลย แดดก็ไม่มีให้ออกไปถ่ายรูป มาเขา สุขใจ ก่อนเดี๋ยวค่อยดู TrueVisions

ถาม...........มิจฉาสติ คือ โลภะมูลจิต อยากให้ช่วยอธิบาย และเปรียบเทียบเพิ่มเติมในกรณีดังกล่าว

ด้วยครับ ช่วยให้ความต่างด้วยครับว่า ทำไมจึง ไม่ใช่ โทสะ หรือ โมหะมูลจิต ขอบคุณครับ

ตอบ...........มิจฉาสติ คือความระลึกผิด ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ตัวสติที่ระลึกผิด เพราะ สติ

เกิดกับจิตฝ่ายดีเท่านั้น แต่มิจฉาสติเป็นอกุศลจึงไม่ใช่สติแต่ที่พระพุทธองค์ทรง

แสดงว่าการระลึกผิด ที่เป็นมิจฉาสติเพื่อแสดงให้เห็นว่าหนทางที่ผิดก็มีทั้งที่เป็น

มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาน เป็นต้น

อนึ่ง...........สติย่อมไม่มีในอกุศลจิตเพราะไม่เป็นที่ตั้งแห่งสติเพราะฉะนั้น

พระองค์จึงไม่ถือเอาถามว่า บุคคลผู้มีทิฏฐิทั้งหลายย่อมไม่ระลึกถึงการงาน

อันตนกระทำบ้างหรือ ? ตอบว่าย่อมระลึกแต่การระลึกนั้นไม่ชื่อว่าเป็นสติ

เพราะอาการระลึกนั้นเป็นความประพฤติของอกุศลจิตอย่างเดียวฉะนั้นจึงไม่

ทรงถือเอาสติถามว่าเมื่อความเป็นอย่างนั้นเพราะเหตุไรในพระสูตร

จึงตรัสว่า มิจฉาสติ เป็นความระลึกเล่า ? ตอบว่าเพื่อจะทรงยังมิจฉัตตะ

แห่งมิจฉามรรคให้บริบูรณ์ เพราะอกุศลขันธ์ทั้งหลายเป็นสภาวะเว้นจากสติ

และเป็นปฏิปักษ์ต่อสติจึงทรงทำเทศนามิจฉาสติไว้ในพระสูตรนั้นโดยปริยาย

แต่มิจฉาสตินั้นว่าโดยนิปปริยายย่อมไม่มี เพราะฉะนั้น จึงไม่ทรงถือเอา

พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม 1 ภาค 2 - หน้าที่ 8

มิจฉาสติจึงเป็นอกุศลเป็นการนึกถึงเรื่อราวต่างๆที่เป็นไปในอกุศลคำถามคือ

มิจฉาสติทำไมถึงเป็นโลภะเหตุผลเป็นดังนี้

พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า โดยทั่วไปแล้ว มิจฉาสติ การระลึกผิดก็เหมือนกับมิจฉา

สังกัปปะ การตรึก นึกคิดที่ผิด คือเหมือนกันตรงที่เป็นการนึกถึงด้วยจิตที่เป็นอกุศลแต่

มิจฉาสตินั้นย่อมนึกถึงเรื่องราวในอดีต เช่น การได้บุตร การได้ลาภ ได้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็น

ลักษณะของโลภะ

ความจริงธรรมดามิจฉาสติก็เหมือนกับมิจฉาสังกัปปะเป็นต้นไม่

เป็นธรรมอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ คือ ไม่มีธรรมอะไร ๆ แต่คำว่า{มิจฉาสติ}นี้

เป็นชื่อของขันธ์ที่เป็นอกุศลทั้ง ๔ ขันธ์ที่เป็นไปแล้วสำหรับผู้คิดถึง

อดีตแม้คำใดที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเรา

ตถาคตกล่าวว่าอนุสสตินั้นมีอยู่ไม่ใช่ไม่มีซึ่งได้แก่อนุสสติของผู้ตาม

ระลึกถึงการได้บุตรตามระลึกถึงการได้ลาภหรือตามระลึกถึงการได้ยศ

นะภิกษุทั้งหลายแม้คำนั้น พึงทราบว่า พระองค์ตรัสหมายเอาการเกิด

ขึ้นด้วยสติเทียมของผู้คิดถึงเรื่องนั้น

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม 1 ภาค 1 - หน้าที่ 503 ว่าด้วยมิจฉาสติ

เหตุผลประการสำคัญที่ทำให้มิจฉาสติเป็นไปด้วยโลภะเพราะว่าในความเป็นจริง

แล้ว ผู้ที่มีความเห็นผิดคือ มิจฉาทิฏฐิ ย่อมมีมิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ

มิจฉาอาชีวะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ ขณะที่เข้าใจผิด - เห็นผิด ขณะนั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ

ขณะที่เห็นผิดก็ต้องมีการคิดนึกระลึกที่ผิดในขณะนั้นด้วยอันเป็นมิจฉาสติในขณะนั้น

ก็บุคคลเหล่าใดถือลัทธิของเจ้าลัทธิเหล่านั้นนั่งสาธยายพิจารณา

ในที่พักกลางคืนในที่พักกลางวันบุคคลเหล่านั้นย่อมมีมิจฉาสติจดจ่ออยู่

ในอารมณ์นั้นว่าทำบาปไม่เป็นอันทำเหตุไม่มีปัจจัยไม่มีสัตว์ตาย

แล้วขาดสูญ ดังนี้ย่อมมีจิตแน่วแน่ชวนะทั้งหลายย่อมแล่นไปในปฐม -

ชวนะยังพอเยียวยาได้ในชวนะที่ 2 เป็นต้นก็เช่นกันครั้นแน่วแน่

ในชวนะที่ 7 แม้พระพุทธเจ้าทั้งหลายก็ทรงเยียวยาไม่ได้ มีอันไม่กลับ

เป็นธรรมดา เช่นสามเณรอริฏฐะและภิกษุกัณฏกะ

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม 1 ภาค 1 - หน้าที่ 389

หากเราศึกษาพระอภิธรรมจะเข้าใจได้ว่าความเห็นผิด{ทิฏฐิเจตสิก}จะเกิดขึ้นย่อม

เกิดกับโลภมูลจิตเกิดกับโลภเจตสิกเท่านั้นจะไม่เกิดกับโทสมูลจิต โทสเจตสิกเลย

ขณะที่เห็นผิดก็จะไม่เกิดกับจิตที่โมหมูลจิตเช่นกันทิฏฐิเจตสิกจึงไม่เกิดกับโทสะ

เจตสิกในขณะนั้นมิจฉาสติโดยส่วนใหญ่เป็น{โลภะ}

ข้อมูลนี้มาจากมูลนิธิเผยแพร่พระพุทธศาสนา บ้านธรรมะ 136 หมู่ 5 ตำบล หนองควาย อำเภอ หางดง จ. เชียงใหม่ 50230

(:LOVE:)ประชาสัมพันธ์ รัก

ขอเชิญชาวเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง

ร่วมสนทนาธรรม

ที่บ้านธัมมะ

ทุกวันอาทิตย์ ระหว่างเวลา 13:00 – 16:00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

โทรศัพท์ สอบถามได้ที่เบอร์ 053 - 431678

My blog.............http://7star2011.wordpress.com/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87/

My blog..............http://7star2011.wordpress.com/2010/11/27/%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A8%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%96%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3/

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>