พระพุทธวรญาณ (ทอง สุวัณณสาโร) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ

พระพุทธวรญาณ (ทอง สุวัณณสาโร)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ

“พระพุทธวรญาณ” (ทอง สุวัณณสาโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่มีวัตรปฏิบัติดีงาม เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งทางใจของพุทธศาสนิกชน บำเพ็ญคุณูปการแด่คณะสงฆ์

มีนามเดิมว่า ทอง นาคประเสริฐ เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ม.ค.2462 ณ หมู่ที่ 9 ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

ในช่วงวัยเด็ก เข้ามาอยู่วัดเบญจมบพิตรฯ เป็นศิษย์วัดเรียนภาษาบาลี ซึ่งเป็นศิษย์ วัดรุ่นราชปะแตน คือ นุ่งผ้าโจงกระเบน เสื้อราชปะแตนขาวอย่างชาววัง

ต่อมาเข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2479 ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด กิตติโสภณมหาเถร) วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมโกศาจารย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

กระทั่งอายุย่างเข้า 21 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2483 ณ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กรุงเทพฯ มีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (ปลด) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพรหมมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมงคลวัตรกวี (คอน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระราชเวที (ดอกไม้) เป็นพระอนุสาวนาจารย์

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างจริงจังและด้วยความขยันหมั่นเพียร จนสำเร็จการศึกษานักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ตามลำดับ

พ.ศ.2489 สามารถสอบได้เปรียญธรรม 6 ประโยค

ต่อมา รับเป็นธุระด้านการศึกษาของสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรฯ เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่ง เจ้าสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรฯ สร้างความเจริญและเข้มแข็งในการศึกษาพระปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและบาลีจนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป

งานด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนา เนื่องในพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล รวม 94 ครั้ง และเป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนาทางวิทยุแห่งประเทศไทย ซึ่งวัดเบญจมบพิตรฯ จัดให้มีการอบรมพระภิกษุสามเณรตลอดพรรษา มีการอบรมศีลธรรมสำหรับประชาชนทุกวันธรรมสวนะ

ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2509 เป็น เจ้าคณะเขตบางเขน กรุงเทพฯ พ.ศ.2510 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2516 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรฯ เป็นประธานกรรมการฝ่ายปกครองวัดเบญจมบพิตรฯ

พ.ศ.2534 เป็นเจ้าคณะเขตบางเขน-จตุจักร กรุงเทพฯ พ.ศ.2541 เป็นเจ้าคณะเขตดุสิต กรุงเทพฯ พ.ศ. 2543 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะเขตดุสิต

พ.ศ.2550 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2499 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระกิตติสารโศภน พ.ศ.2503 เป็นพระทักษิณคณาธิกร พระราชาคณะปลัดขวาในสมเด็จพระสังฆราช(ปลด กิตติโสภณมหาเถร) พ.ศ.2507 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชกิตติเมธี พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพกิตติมุนี

พ.ศ.2544 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกิตติเวที

พ.ศ.2550 ได้รับพระราชทานสถาปนา เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่ พระพุทธวรญาณ

กล่าวได้ว่า เป็นผู้ใกล้ชิดพระพรหมจริยาจารย์ (สมุท) อดีตเจ้าอาวาส กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนใต้ คอยเป็นผู้รับสนองธุระและปฏิบัติงานคณะสงฆ์อย่างมิขาดตกบกพร่อง ขอรับแบ่งเบาภาระ ช่วยผ่อนงานพระเดชพระคุณให้เบาลง

ตราบกระทั่ง เจ้าพระคุณพระพรหมจริยาจารย์ ละสังขารอย่างสงบ เมื่อช่วงปลายปี 2549 และผ่านเวลาไปเพียง 1 เดือนเศษ เจ้าพระคุณพระธรรมวโรดม รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม มรณภาพอย่างกะทันหันอีกรูปหนึ่ง

ทำให้พระพุทธวรญาณ ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่

สร้างคุณูปการแก่พระพุทธศาสนาและแก่การคณะสงฆ์ไทยมากมายเป็นอเนกประการ เคร่งครัดในพระธรรมวินัยและกฎระเบียบคณะสงฆ์ อีกทั้งได้ช่วยกวดขันพระภิกษุ-สามเณร ให้รักษาพระธรรมวินัยและกฎกติกาของวัดด้วยความเรียบร้อย ทำหน้าที่ในฐานะแห่งนักปกครองที่เอาใจใส่ดูแลความเป็นไปของวัดและคนในวัดอย่างดียิ่ง

มรณภาพเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2557 ด้วยอาการปอดติดเชื้อ หลังเข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.2556 สิริอายุ 95 ปี พรรษา 73

อริยะโลกที่ 6
ข่าวสดออนไลน์