พ่อท่านคล้อย ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร

พ่อท่านคล้อย ฐานธัมโม
วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร

"พ่อท่านคล้อย ฐานธัมโม" วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการกล่าวขวัญ

วัตถุมงคลได้รับความนิยมจากนักสะสมอย่างมาก อาทิ พระกำแพงนิ้ว พิมพ์ใหญ่เนื้อว่าน ปี 2511 พระสีวลี รุ่นไตรมาส เนื้อเกสร ปี 2511 พระปิดตา มหาลาภองค์น้อย เนื้อผงเกสร ปี 2533 พระสมเด็จขาโต๊ะ รุ่นเสาร์ห้า เนื้อผงผสมว่าน ปี 2536 พระปิดตาไม้แกะ ก้นอุดผงใต้ฐาน ปี 2537 พระปิดตามหาโภคทรัพย์ เสาร์ห้า เนื้อผงผสมว่าน ฝังตะกรุดทองแดง ปี 2536 เป็นต้น

เป็นชาวหลังสวนโดยกำเนิด มีนามเดิมว่า คล้อย ทองเสมียน เกิดเมื่อวันที่ 11 ม.ค.2463 ที่บ้านปากลา ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ในวัยเยาว์ท่านเป็นเด็กที่อยู่ใกล้ชิดวัด ใกล้ชิดพระมาโดยตลอด เมื่อจบการศึกษาชั้นป.4 ได้ไปศึกษาเรียนนอโม และอักขรวิธีจากพระอาจารย์ชุบ สุวณฺโณ วัดปากสระอยู่นานหลายปี

ต่อมาพระธรรมจารีมุนีวงศาจารย์ (จันทร์ โกสโล) วัดขันเงิน อดีตเจ้าคณะจังหวัดชุมพร มาทำธุระที่วัดปากสระ เห็นลักษณะท่าทางดี ขยันศึกษาทางธรรม จึงชวนให้ไปอยู่วัดขันเงิน

อยู่ปรนนิบัติกว่า 10 ปี ได้ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทที่วัดขันเงิน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2504 เมื่ออายุได้ 41 ปี โดยมี หลวงพ่อจันทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์ซุ่ม ติกขปัญโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา "ฐานธัมโม"

มุ่งมั่นในด้านปฏิบัติวิปัสสนาและสนใจศึกษาพระเวทวิทยาคม หากรู้ว่ามีพระอาจารย์ที่ไหนเก่งๆ จะไปฝากตัวเป็นศิษย์ เพื่อขอเรียนสรรพวิชาต่างๆ และนอกจากศึกษานอโมและอักขระวิธีจากพระอาจารย์ชุบแล้ว ท่านยังได้ศึกษาวิชาจากพระเกจิอาจารย์สายเขาอ้อหลายรูป อาทิ พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา หลวงพ่อคง สิริมโต วัดบ้านสวน พระอาจารย์หมุน วัดเขาแดง จากนั้นได้ไปศึกษาเพิ่มเติมจาก หลวงพ่อแดง ติสโส วัดแหลมสอ เรียนวิชาการประสานกระดูกกับ พระครูอาทรธรรมวัตร วัดปากสระ

เมื่อมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำเงิน ท่านได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากตำรับตำราของหลวงพ่อแดง พุทโธ อดีตเจ้าอาวาสที่เป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัยกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัย ท่านมีชื่อเสียงทางด้านการเป่าทองเข้าตัว ลูกศิษย์ต่างเชื่อมั่นและศรัทธาไปหาให้ท่านทำพิธีให้จำนวนมาก วิชานี้หลายคนได้ประจักษ์ในพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม

นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแล้ว ท่านยังเป็นพระนักพัฒนาที่สร้างคุณูปการแก่ชุมชน สังคม และสร้างความเจริญให้กับวัดและชุมชนมากมาย ซึ่งท่านได้สร้างและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถานต่างๆ ภายในวัดมากมาย จนเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ และยังมีสาธารณประโยชน์ต่างๆ อีกหลายอย่างที่พ่อท่านคล้อยตั้งใจจะสร้างขึ้น เพื่อประโยชน์แก่สาธุชนและประชาชนทั่วไป

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อถึงจุดเริ่มต้น ต้องมีที่สิ้นสุดเป็นปกติธรรมดาของโลกมนุษย์ หลังจากงานบูชาครูประจำปี 2539 เป็นต้นมา สุขภาพของท่านได้เสื่อมถอยลงตามลำดับด้วยโรคชรา จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.2539 ท่านก็ละสังขารอย่างสงบ

อริยะโลกที่ 6 ข่าวสดออนไลน์