หลวงปู่กลม อภิลาโส วัดโพธิชัย ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

หลวงปู่กลม อภิลาโส
วัดโพธิชัย ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

ในช่วงรอบทศวรรษที่ผ่านมา "หลวงปู่กลม อภิลาโส" หรือ "พระครูโพธิ ชยาทร" ถือเป็นพระเกจิชื่อดังอีกรูปหนึ่งจังหวัดนครพนม มีวัตรปฏิบัติดี เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป วัตถุมงคลและเครื่องรางที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสก โด่งดังไปไกลทั่วประเทศ

หลวงปู่กลม ยังเป็นทายาทพุทธาคมจากหลวงปู่คำพันธ์ อีกด้วย

ปัจจุบัน หลวงปู่กลม สิริอายุ 91 ปี พรรษา 38 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลรามราช (กิตติมศักดิ์) และเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย บ้านแพงสะพัง หมู่ 7 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

มีนามเดิม กลม เอกสะพัง เกิดในตระกูลชาวนา เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ส.ค.2470 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีมะโรง เป็นชาวบ้านแพงสะพัง หมู่ 7 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

เติบโตจากครอบครัวที่มีอาชีพทำนา โดยฐานะของครอบครัวค่อนข้างยากจน เป็นเหตุให้ได้เล่าเรียนหนังสือน้อย ชีวิตในวัยเยาว์ชอบการทำบุญตักบาตรมาก เกินกว่าความเป็นเด็กในวัยเดียวกัน

ในช่วงวัยหนุ่ม แต่งงานมีครอบครัว แต่ในปี พ.ศ.2507 ภรรยาเสียชีวิต จึงตัดขาดทางโลก เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดกลาง อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยมีหลวงปู่จูม เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อผาบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีหลวงพ่อลาน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

พ.ศ.2523 ฝากตัวเป็นศิษย์กับหลวงปู่คำพันธ์ ขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดพระธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก อยู่อุปัฏฐากรับใช้และเรียนกัมมัฏฐานบำเพ็ญภาวนากำหนดจิตอยู่นาน 6 ปี จึงกราบลาออกเดินธุดงค์ไปที่ อ.พังโคน และลัดเลาะไปตามป่าเขาในพื้นที่ภูพาน จ.สกลนคร

จากนั้นเดินธุดงค์ไปจำพรรษาอยู่ที่ วัดพระพุทธบาท จ.สระบุรี ก่อนเดินทางต่อไปที่ อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี จึงไปฝึกวิปัสสนากับหลวงปู่หล้า เขมปัตโต ที่ วัดภูจ้อก้อในขณะนั้น (วัดบรรพตคีรี) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร นาน 2 เดือน จึงกราบลาและแวะมาหาหลวงปู่คำพันธ์ อีกรอบ เพื่อกลับสู่มาตุภูมิที่ ต.รามราช

พ.ศ.2529 ย้ายจำพรรษาที่วัดโพธิ์ชัย บ้านเกิด ขณะนั้นพื้นที่วัดยังรกร้าง มีเพียงศาลาการเปรียญ เป็นไม้เก่า เริ่มหักพังชำรุด ทรุดโทรมและมีกุฏิเก่า 1 หลัง จึงเริ่มพัฒนาเสนาสนะ จนมีอุโบสถไว้ประกอบสังฆกรรม สร้างหอระฆัง จนแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2542

พร้อมกันนี้ ยังก่อสร้างพระธาตุศรีสยามภูมินทร์ สูง 19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 9 เมตร บริเวณหน้าอุโบสถไว้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และบรรจุสิ่งของเก่ามีค่า โดยก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2545

พ.ศ.2535 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่พระครูโพธิชยาทร และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลรามราช (กิตติมศักดิ์) ในเวลาต่อมา

หลวงปู่กลม เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอันเป็นที่เคารพบูชาของชาวพุทธศาสนิกชนอีกรูปหนึ่งของเมืองนครพนม เป็นพระที่ผู้ใดได้เข้ากราบไหว้จะพบว่าท่านเป็นพระที่เรียบง่าย ใจดี พูดจาไพเราะ ใจเย็น ยิ้มแย้มแจ่มใสกับทุกคน เปี่ยมไปด้วยเมตตา ต้อนรับทุกคนด้วยความเสมอภาค พูดคุยกับญาติโยมอย่างเป็นกันเอง

ท่านมีเจตนารมณ์สืบทอดและเผยแผ่ธรรมะ ตลอดจนการอบรมสั่งสอนแก่ศิษยานุศิษย์ทั่วไป ผู้ใดที่เข้ามากราบหลวงปู่ ทั้งที่มีปัญหาและไม่มีปัญหา จะได้รับคำแนะนำจากหลวงปู่ ให้มุ่งมั่นทำแต่ความดี

แม้อายุจะล่วงเลยไปในวัยชราก็ตาม หลวงปู่ยังเดินคล่อง สายตาดีไม่มีปัญหา มีเพียงหูซ้ายที่ไม่ค่อยจะได้ยิน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียนแม้แต่น้อย

หลวงปู่กลม เผยเคล็ดลับว่า ไม่เคยฉันของหวานและผลไม้ ยกเว้นกล้วย ฉันเฉพาะเนื้อปลา

ถือเป็นเนื้อนาบุญของชาวเมืองนครพนมอย่างแท้จริง

ที่มา ข่าวสดออนไลน์