แหล่งน้ำสำคัญที่ใช้เสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์
ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ
พุทธศักราช ๒๕๓๐
ในมหามงคลสมัยที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตรมหาราช ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ในวันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดงานพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ถวายเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติให้ถูกต้องตามราชประเพณี และสง่างามสมพระเกียรติยศ ในการนี้ได้ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเสด็จออกมหาสมาคม ณ ที่พระที่นั่งชัยมังคลาภิเษก ท้องสนามหลวง เพื่อทรงรับคำถวายชัยมงคล และน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากผู้แทนปวงชนชาวไทย ซึ่งได้แก่ นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา เปรียบเสมือนอาณาประชาราษฎรทั่วทั้งประเทศได้ร่วมแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่ผู้อยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร เนื่องในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ดังเช่นการรดน้ำอวยพรผู้ใหญ่หรือผู้มีพระคุณยิ่งเมื่อท่านมีอายุยืนครบ ๖๐ ปี ตามประเพณีไทย
คณะอนุกรรมการฝ่ายรัฐในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยจัดเตรียมน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคมดังกล่าว
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นว่า การจัดเตรียมรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์และการแห่เชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์เข้าร่วมในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ เป็นงานใหญ่และมีความสำคัญยิ่ง จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เพื่อให้การเตรียมงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้องตามโบราณราชประเพณี จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และการแห่เชิญน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เข้าร่วมในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ขึ้น เพื่อดำเนินงานดังกล่าว
สำหรับน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการพระราชพิธีครั้งนี้ ได้เปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมแหล่งน้ำสำคัญที่เคยใช้กันมาตามโบราณราชประเพณีบ้างเป็นบางแห่ง ด้วยแหล่งน้ำสำคัญที่เคยนำทูลเกล้าฯ ถวายในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพุทธศักราช ๒๔๙๓ นั้น บางแหล่งก็ได้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิมจนขาดความเหมาะสมประการหนึ่ง กับเพื่อให้ทุกจังหวัดทั่วพระราชอาณาจักรได้มีส่วนร่วมแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมเพรียงกันในวโรกาสอันสำคัญยิ่งนี้อีกประการหนึ่ง กระทรวงมหาดไทยจึงได้ขอให้กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่างๆ ทุกจังหวัด ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพเลื่อมใส หรือจากแหล่งน้ำเส้นชีพสำคัญของจังหวัด หรือจากแหล่งน้ำที่เคยใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์ทูลเกล้าฯ ถวายในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ อย่างน้อยจังหวัดละ ๑ แห่ง ประกอบพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ณ พระอารามสำคัญของจังหวัดนั้นๆ แล้วนำมอบกระทรวงมหาดไทยดำเนินการต่อไป
พิธีพลีกรรมตักน้ำและพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดต่างๆ นั้น กระทรวงมหาดไทยได้ประสานงานกับสำนักพระราชวัง ให้ประกอบพิธีพร้อมกันตามวันเวลาฤกษ์ที่โหรหลวงกำหนด คือ พิธีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ให้ทุกจังหวัดประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำพร้อมกันในวันธงชัย คือ วันพุธที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา โดยจัดบัณฑิต (มหาเปรียญ) หรือผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด ไปทำพิธีพลีกรรมตักน้ำโดยแต่งกายนุ่งห่มผ้าขาว มีดอกไม้ ธูป เทียน ไปจุดบูชาเทพารักษ์ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนั้น และกล่าวคำสักการะบูชา ดังนี้ นโม ตสฺสฯ – ๓ จบ
(ไตรสรคมน์)
พุทฺธํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ | | |
ธมฺมํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ | | |
สงฺฆํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ | | |
ทุติยมฺปิ | | พุทฺธํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
ทุติยมฺปิ | | ธมฺมํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
ทุติยมฺปิ | | สงฺฆํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
ตติยมฺปิ | | พุทฺธํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
ตติยมฺปิ | | ธมฺมํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
ตติยมฺปิ | | สงฺฆํ | | สรณํ | | คจฺฉามิ |
(แล้วว่า)
หิริโอตฺตปฺปสมฺปนฺนา | | สุกฺกธฺมสมาหิตา |
สนฺโต สปฺปุริสา โลเก | | เทวธมฺมาติ วุจฺจเร |
อายนฺตุ โภนโต เทวสงฺฆาโย ขออัญเชิญเทพยดาเจ้าผู้เจริญทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายฉันทะจากผู้ว่าราชการจังหวัด........ มายังสถานที่นี้ ขออนุญาตอัญเชิญน้ำในสถานอันศักดิ์สิทธิ์ นี้ เพื่อประกอบพระราชพิธีถวายสวัสดิมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จึงขออนุญาตเทพยดาเจ้าผู้พิทักษ์รักษาประสิทธิประสาทแด่ข้าพเจ้า อนุญฺญาตงฺ เม อุทกัง วรงฺ อิทงฺฯ
(น้ำอันประเสริฐศักดิ์สิทธิ์นี้ เทพยเจ้าประสิทธิประสาทแล้ว)
จากนั้น จึงตักน้ำบรรจุลงในขวดหรือภาชนะเครื่องปั้นดินเผา ปริมาณพอสมควร แล้วห่อผ้าขาวนำไปพักไว้ ณ พระอุโบสถวัดสำคัญของจังหวัด เพื่อรวมไว้ประกอบพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ต่อไปพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์
เมื่อนำน้ำที่ตักจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รวมไว้ ณ พระอุโบสถ หรือพระวิหาร แห่งหนึ่งแล้ว ให้ทุกจังหวัดประกอบพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันในวันธงชัย คือวันพุธที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา โดยจัดเตรียมงานตามลำดับ ดังนี้
ตั้งแต่งสถานที่ประกอบพิธี จัดดอกไม้ ธูป เทียน และจัดอาสนสงฆ์ยกพื้นสำหรับพระสงฆ์ ๑๐ รูป เจริญพระพุทธมนต์ ตั้งบาตรหรือขันสาคร รวมน้ำที่พลีกรรมตักมาจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งเข้าด้วยกัน วางไว้ใกล้กับประธานสงฆ์ โยงสายสิญจน์จากพระพุทธปฏิมากร มาวงที่บาตรหรือขันสาคร แล้วให้พระสงฆ์ถือเพื่อเจริญพระพุทธมนต์ ที่ปากบาตรหรือขันสาครติดเทียนทำน้ำมนต์ ๑ เล่ม
ก่อนเวลาฤกษ์ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย รับศีล พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์
ครั้นเวลาฤกษ์ พระสงฆ์เจริญคาถาเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ ประธานในพิธีจุดเทียนที่ติดไว้ที่ปากบาตรหรือขันสาครแล้วประเคนแด่ประธานสงฆ์หยดเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์คาถาเสกน้ำ
มีบท สัจจปานวิธยานุรูปคาถา และ สุขาภิยาจนคาถา ด้วย
ฯลฯ
สัจจปานวิธยานุรูปคาถา สจฺจํ เว อมตา วาจา | | เอส ธมฺโม สนนฺตโต |
สจฺเจ อตฺเถ จ ธมฺเม จ | | อหุ สนฺโต ปติฏฐิตา |
สทฺธีธ วิตฺตํ ปุริสสฺส เสฏฺฐํ ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ สจฺจํ หเว สาธุตรํ รสานํ ปญฺญาชีวีชีวิตมาหุ เสฏฺฐํ |
สทฺทหาโน อรหตํ | | ธมฺมํ นิพฺพานปตฺตยา |
สุสฺสูสํ ลภเต ปญฺญํ | | อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ |
ปฎิรูปการี ธุรวา | | อุฏฺฐาตา วินฺทเต ธนํ |
สจฺเจน กิตฺตึ ปปฺโปติ | | ททํ มิตฺตานิ คนฺถติ |
ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา | | สุทฺธสฺส ฆรเมสิโน |
สจฺจํ ธมฺโม ธิติ จาโค | | ส เว เปจฺจ น โสจติ |
อิงฺฆ อญฺเญปิ ปุจฺฉสฺสุ | | ปุถู สมณพฺราหฺมเณ |
ยทิ สจฺจา ทมา จาคา | | ขนฺตฺยา ภิยฺโยธ วิชฺชตีติ |
สุขาภิยาจนคาถา
ยํ ยํ เทวมนุสฺสานํ | | มงฺคลตฺถาย ภาสิตํ |
ตสฺส ตสฺสานุภาเวน | | โหตุ ราชกุเล สุขํ |
เย เย อารกฺขกา เทวา | | ตตฺถ ตตฺถาธิวาสิโน |
อิมินา ธมฺมทาเนน | | สพฺเพ อเมฺหหิ ปูชิตา |
สทา ภทฺรานิ ปสฺสนฺตุ | | สุขิตา โหนฺตุ นิพฺภยา |
อปฺปมตฺตา จ อเมฺหสุ | | สพฺเพ รกฺขนฺตุ โน สทา |
ยญฺจ โน ภาสมาเนหิ | | กุสลํ ปสุตํ พหุํ |
ตนฺโน เทวานุโมทนฺตุ | | จิรํ ติฏฺฐนฺตุ สาตตํ |
เย วา ชลาพุชณฺฑชา | | สํเสทโชปปาติกา |
อเวรา โหนฺตุ สพฺเพ เต | | อนีฆา นิรุปทฺทวา |
ปสฺสนฺตุ อนวชฺชานิ | | มา จ สาวชฺชมาคมา |
จิรํ ติฏฺฐตุ โลกสฺมี | | สมฺมาสมฺพุทฺธสาสนํ |
ทสฺเสนฺตํ โสตวนฺตูนํ | | มคฺคํ สตฺตวิสุทฺธิยา |
ยาว พุทฺโธติ นามมฺปิ | | โลกเชฏฺฐสฺส สตฺถุโน |
สมฺมาเทสิตธมฺมสฺส | | ปวตฺตติ มเหสิโน |
ปสนฺนา โหนฺตุ สพฺเพปิ | | 1ปาณิโน พุทฺธสาสเน |
สมฺมา ธารํ ปเวจฺฉนฺโต | | กาเล เทโว ปวสฺสตุ |
วุฑฺฒิภาวาย สตฺตานํ | | สมิทฺธํ เนตุ เมทนึ |
มาตา ปิตา จ อตฺรชํ | | นิจฺจํ รกฺขนฺติ ปุตฺตกํ |
เอวํ ธมฺเมน ราชาโน | | ปชํ รกฺขนฺตุ สพฺพทา |
ครั้นพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์จบ ประธานในพิธีถวายจตุปัจจัยไทยธรรม ประธานในพิธีกรวดน้ำ พระสงฆ์อนุโมทนา
จากนั้น ประธานในพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์บรรจุในพระเต้าโลหะขนาดกลาง ปิดฝาผนึกให้แน่นกันน้ำไหลซึม ห่อหุ้มด้วยผ้าขาว ประทับตราเป็นสำคัญแล้วส่งถึงกระทรวงมหาดไทยในวันศุกร์ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๓๐ เพื่อรวมประกอบรัฐพิธีเสกทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ณ พระวิหารหลวง วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร ในวันพุธที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ เวลา ๑๓.๓๐ นาฬิกา ต่อไป
แหล่งน้ำสำคัญที่จังหวัดต่างๆ พิจารณาคัดเลือกเพื่อนำเข้าเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๐๓ แห่ง ส่วนใหญ่เป็นน้ำที่ได้จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพนับถือกันมาแต่โบราณกาล น้ำจากแหล่งน้ำที่มีชื่อเป็นมงคล และน้ำจากแหล่งน้ำที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชน นอกจากนั้น บางจังหวัดยังคงใช้แหล่งน้ำที่เคยใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๙๓ ยกเว้นบางแหล่งน้ำที่มีสภาพตื้นเขินหรือสกปรกจนใช้การไม่ได้แล้ว ประวัติความเป็นมาของแหล่งน้ำสำคัญที่ประกอบพิธีกรรมตักน้ำ และสถานที่ประกอบพิธีเสกทำน้ำศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดต่างๆ เพื่อใช้เป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทูลเกล้าฯ ถวายสรงอภิเษกในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ ในวันเสาร์ที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๓๐ มีรายละเอียดดังนี้โปรดติดตามตอนต่อไป
พระเต้าทักษิโณทก ศิลปะอยุธยา ทำจากทองคำ ฝาปิดทำเป็นรูปพรหมพักตร์
ส่วนลำตัวตกแต่งด้วยลายเครือเถา พญานาคสามหัวและลายเทวดานั่งขัดสมาธิ
มือทั้งสองถืออาวุธอยู่ภายในกรอบรูปทรงรีปลายแหลม พบในกรุวัดราชบูรณะ
ปัจจุบันจัดแสดงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา พระนครศรีอยุธยา
(ภาพจาก เว็บไซต์
virtualmuseum.finearts.go.th)