[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
18 เมษายน 2567 09:17:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: การทำบุญไม่ได้เป็นการสูญเปล่า พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี  (อ่าน 902 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1006


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 76.0.3809.132 Chrome 76.0.3809.132


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 กันยายน 2562 09:54:00 »



“การทำบุญของเรานี้จึงไม่ได้เป็นการสูญเปล่า”

วันนี้เป็นเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ เป็นวันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ของชาวไทย เป็นธรรมเนียมของชาวพุทธชาวไทยที่จะเข้าวัดในวันขึ้นปีใหม่เพื่อทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะมีศรัทธามีความเชื่อในพระธรรมคำสั่งคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทรงสอนว่าเวลาที่ร่างกายตายไปจิตใจไม่ได้ตายไปกับร่างกาย จิตใจนี้ไม่มีวันตาย จิตใจก็อยู่เป็นดวงวิญญาณไป ดวงวิญญาณก็มีหลายแบบด้วยกัน ดวงวิญญาณที่มีความสุขกับดวงวิญญาณที่มีความทุกข์ ดวงวิญญาณที่มีความสุขก็เป็นผลที่เกิดจากการได้ทำบุญอย่างสม่ำเสมอในขณะที่มีชีวิตอยู่ ส่วนดวงวิญญาณที่มีความทุกข์ ก็เป็นดวงวิญญาณที่เกิดจากการทำบาปอย่างสม่ำเสมอในขณะที่มีชีวิตอยู่ นี่คือสิ่งที่ชาวพุทธชาวไทยเราเชื่อกันว่าเวลาที่ร่างกายเราตายไป เราไม่ได้ตายไปกับร่างกาย เราคือผู้รู้ผู้คิดนี้ไม่ได้ตายไปกับร่างกาย ยังอยู่ต่อโดยอาศัยบุญหรืออาศัยบาปเป็นผู้ให้ความสุขหรือความทุกข์กับเราต่อไป

ดังนั้น เราจึงเชื่อในเรื่องของการทำบุญ เชื่อในเรื่องของการไม่กระทำบาป และเชื่อในการอุทิศส่วนบุญที่เราทำให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วได้ ดวงวิญญาณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วถ้าขาดบุญก็จะอยู่แบบขอทาน อยู่แบบลำบากแร้นแค้นอยู่แบบทุกข์ทรมาน ถ้าผู้ที่มีชีวิตอยู่ส่งบุญไปให้ก็เหมือนส่งเงินทองไปให้ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก เขาพอได้รับบุญจากเรา เขาก็จะมีความสุขอยู่แบบไม่ทุกข์ยากลำบากได้ นี่คือที่มาของการทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เพราะผู้ที่ล่วงลับไปแล้วนั้นไม่ได้ตายไปกับร่างกาย แต่อยู่ในสภาพของดวงวิญญาณที่จะสุขหรือจะทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับบุญหรือบาปที่ได้ทำไว้ในขณะที่มีชีวิตอยู่นั่นเอง

ดังนั้น พวกเราผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เราจึงไม่ควรจะประมาท เราควรที่จะหมั่นทำบุญอย่างสม่ำเสมอ หมั่นละบาปอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่เราจะได้อยู่ทั้งในปัจจุบันและหลังจากที่ร่างกายนี้ตายไปแล้ว เราจะอยู่อย่างมีความสุข ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน จะอยู่ในสภาพใดถ้าเรามีบุญถ้าเราไม่ทำบาป จิตใจของเราจะมีแต่ความสุข สุขทั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่และสุขหลังจากที่ตายไปแล้ว ผู้ที่ทำบุญนี้พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าเป็นผู้มีความเมตตา เป็นผู้แผ่เมตตาด้วยการให้ความสุขแก่ผู้อื่น “สัพเพ สัตตา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ” แปลว่า “ให้ความสุขกับสรรพสัตว์ทั้งปวง” เราทำบุญเราก็ให้ความสุขกับบุคคลนั้นบุคคลนี้กับสัตว์นั้นสัตว์นี้ ถ้าเราทำบุญกับคนเราก็ให้ความสุขกับคน ถ้าเราทำบุญกับสัตว์เลี้ยงเช่นแมวสุนัข เราก็ให้ความสุขกับแมวสุนัข ถ้าเราทำบุญกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เช่นดวงวิญญาณต่างๆ เราก็ได้ทำบุญกับดวงวิญญาณชนิดต่างๆ การกระทำบุญก็คือเป็นการแผ่เมตตา อานิสงส์ของการแผ่เมตตานี้ก็มีหลายข้อด้วยกัน

๑. ผู้ที่ทำบุญผู้ที่แผ่เมตตาจะอยู่เย็นเป็นสุข คือจะมีความสุขทั้งในขณะที่ตื่นและในขณะที่หลับ
๒. เวลานอนหลับจะไม่ฝันร้าย
๓. จะเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย คือดวงวิญญาณทั้งหลายนั้นก็คือเทวดาทั้งหลาย
๔. จะมีเทวดาปกป้องรักษาคุ้มครอง จะมีดวงวิญญาณต่างๆ คอยปกป้องรักษาคุ้มครองผู้ที่มีความเมตตา
๕. จะไม่ตายด้วยอาวุธหรือยาพิษ ผู้ที่มีความเมตตาจะไม่ไปสร้างความโกรธเกลียดอาฆาตพยาบาทให้แก่ผู้ใด มีแต่จะสร้างความรักสร้างความสุขให้แก่ผู้อื่น จึงไม่มีใครคิดที่จะทำร้ายด้วยการใช้อาวุธ มีดหรือปืนหรือการใช้ยาพิษต่างๆ มาทำลายมาทำร้าย
๖. ผู้ที่มีความเมตตาจะมีผิวพรรณผ่องใสหน้าตาแจ่มใส
๗. เวลานั่งสมาธิก็จะสงบได้ง่าย และสุดท้าย
๘. ถ้ายังไปไม่ถึงนิพพานก็จะไปเกิดบนสวรรค์ชั้นต่างๆ

นี่คืออานิสงส์ของบุญที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ชาวพุทธเราทำกันอยู่เรื่อยๆ ทุกเวลาทุกโอกาส ชาวพุทธเราจึงใช้เวลาว่างในโอกาสวันสำคัญต่างๆ เช่น วันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ วันเกิด วันสำคัญทางศาสนา วันมาฆบูชาที่ผ่านมา วันวิสาขบูชาที่จะมาถึง วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และวันอะไรต่างๆ ใช้วันเหล่านี้เป็นโอกาสที่จะได้มาทำบุญเพื่อสร้างความสุขให้แก่จิตใจ ทั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่และในขณะที่ร่างกายนี้ตายไปแล้ว ขอให้เรามองเห็นบุญว่าเป็นเหมือนกับเงินต่างประเทศ เวลาที่เราจะเดินทางไปต่างประเทศ เรามักจะเอาเงินไทยไปแลกเปลี่ยนเป็นเงินต่างประเทศ เช่น จะไปสหรัฐอเมริกา เราก็ต้องเอาเงินไทยไปแลกเป็นดอลลาร์ เพราะถ้าเราเอาเงินไทยไปใช้ในสหรัฐจะใช้ไม่ได้ จะไปซื้อข้าวซื้อของด้วยเงินไทยไม่ได้ ต้องเป็นเงินดอลลาร์ ถ้าเป็นเงินไทยก็ต้องไปเปลี่ยนเป็นเงินดอลลาร์ก่อน ถึงจะซื้อข้าวซื้อของได้ ฉันใด การทำบุญก็เป็นเหมือนกับการเอาเงินทองที่เรามีอยู่ตอนนี้คือเงินบาท แล้วเราก็ไปซื้อข้าวซื้อของต่างๆ หรือเอาเงินทองไปบริจาคให้กับองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ บริจาคให้กับวัด บริจาคให้กับโรงเรียน บริจาคให้กับโรงพยาบาล ทำบุญชนิดต่างๆ ก็เป็นวิธีแลกเปลี่ยนเงินตราจากเงินที่เราใช้ในโลกนี้ ไปเป็นเงินที่เราจะไปใช้ในโลกทิพย์ต่อไป เวลาที่ร่างกายเราตายไปแล้ว ดวงจิตดวงใจของเราจะไปอยู่ในโลกทิพย์ และในโลกทิพย์เขาก็เป็นเหมือนกับโลกที่เราอยู่นี้ ถ้าเราต้องการมีความสุขเราก็ต้องซื้อสิ่งของต่างๆ มาให้ความสุขกับเรา ถ้าเราอยู่ในโลกทิพย์เราก็ต้องใช้บุญที่เป็นเงินทิพย์ไปซื้อรูปทิพย์เสียงทิพย์กลิ่นทิพย์ ซื้อความสุขทางตาหูจมูกลิ้นกายทิพย์นั่นเอง เหมือนกันเหมือนกับตอนที่เรามีร่างกาย ใจเรายังต้องอาศัยรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะให้ความสุขกับเรา ในขณะที่เรามีร่างกายเราก็อาศัยเงินทองที่เราหามาได้จากการทำงานทำการ พอเราได้เงินทองมาเราก็เอาไปซื้อรูปเสียงกลิ่นรสต่างๆ เงินที่เราใช้นี้เราใช้ไปเพื่อซื้อรูป อยากจะดูภาพยนตร์ก็ต้องใช้เงินซื้อภาพยนตร์มาดู อยากจะฟังเพลงก็ต้องใช้เงินซื้อเพลงมาฟัง อยากจะรับประทานอยากจะดื่มอะไร ก็ต้องใช้เงินไปซื้อมารับประทาน ฉันใด เวลาที่เราไม่มีร่างกาย ใจของเราก็ยังมีความหิวกับรูปเสียงกลิ่นรสอยู่ แต่จะเปลี่ยนรูปเสียงกลิ่นรสจากรูปเสียงกลิ่นรสผ่านทางตาหูจมูกลิ้นกายไปเป็นรูปทิพย์เสียงทิพย์กลิ่นทิพย์รสทิพย์ และเงินที่จะใช้ซื้อรูปทิพย์เสียงทิพย์กลิ่นทิพย์นี้ก็คือบุญนี่เอง ดังนั้น การทำบุญของเรานี้จึงไม่ได้เป็นการสูญเปล่าแต่อย่างใด


ธรรมะบนเขา
วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๒

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าอาเขาชีโอน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สร้างธรรมะให้เป็นที่พึ่งกับใจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 933 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2562 16:17:35
โดย Maintenence
“อานิสงส์ของความเมตตา” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 977 กระทู้ล่าสุด 04 กันยายน 2562 17:24:35
โดย Maintenence
“ทุกวันนี้เราทุกข์กับอะไร” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 886 กระทู้ล่าสุด 06 กันยายน 2562 09:54:10
โดย Maintenence
“ทำใจให้สงบ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 854 กระทู้ล่าสุด 07 กันยายน 2562 12:56:44
โดย Maintenence
“กระบวนการของการชำระจิตใจ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 1037 กระทู้ล่าสุด 08 กันยายน 2562 11:10:15
โดย Maintenence
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.337 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 06 เมษายน 2567 04:33:14