[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 05:54:46 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วัดเทวสังฆาราม อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี  (อ่าน 1677 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5436


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 25 กันยายน 2562 17:12:27 »






เมืองกาญจนบุรีเป็นสมรภูมิรบมาหลายครั้ง และเป็นทางผ่านไปตีอยุธยาจนต้องเสียกรุงครั้งที่ ๒ ในปี พ.ศ.๒๓๑๐  

เมื่อไทยย้ายราชธานีมาอยู่ที่กรุงเทพฯ เพียง ๒ ปี ก็เกิดสงครามใหญ่ คือ สงคราม ๙ ทัพ แต่ไทยสามารถยันกองทัพพม่าแตกพ่ายไปได้ ณ สมรภูมิรบเหนือทุ่งลาดหญ้า  

ในปีต่อมาก็ต้องทำสงครามที่สามสบและท่าดินแดงอีก ในที่สุดพม่าเลิกรบกับไทยตลอดไป  

โดยเหตุที่พม่าต้องนำทัพมาทางใต้เพื่อเข้าตีกรุงรัตนโกสินทร์ จำเป็นต้องมีทัพเรือล่องลงมาจากสังขละบุรี มาตามลำน้ำแควน้อยผ่านอำเภอไทรโยคมายังปากแพรก ซึ่งเป็นที่รวมของแม่น้ำทั้งสองสาย  

หลังจากสิ้นสุดสงคราม ๙ ทัพแล้ว จึงได้ย้ายที่ตั้งฐานทัพจากลาดหญ้า เมืองกาญจนบุรี  มาตั้งที่ตำบลปากแพรก  ซึ่งเป็นที่รวมของแควน้ำ ๒ สาย คือแควน้อยและแควใหญ่ ไหลมารวมบรรจบกัน ณ ตำบลปากแพรก กลายเป็นแม่น้ำแม่กลอง

การสร้างวัดในพระพุทธศาสนามีมาแต่โบราณ เมื่อประชาชนในบวรพุทธศาสนา ได้อพยพไปตั้งถิ่นฐานอยู่ ณ ที่ใด มักจะสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ  ในครั้งนั้นพระภิกษุเปรื่อง ซึ่งบรรพชาเป็นสามเณรได้ถูกกวาดต้อนไปยังพม่าพร้อมกับโยมมารดาของท่านด้วย ต่อมาท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพม่า และท่านปรารถนาที่จะกลับเข้ามาประเทศไทย จึงได้ปลอมตัวเป็นมอญเดินทางเข้ามา พอเดินทางมาถึงเมืองกาญจนบุรี ก็เห็นว่าบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องจากทางการไทยได้ย้ายเมืองกาญจนบุรี ไปตั้งใหม่ที่ตำบลปากแพรก ท่านจึงได้มาสร้างวัดใกล้กับเมืองใหม่คือ “วัดเทวสังฆาราม”

วัดเทวสังฆาราม ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า “วัดเหนือ” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี






วัดเทวสังฆาราม
ถนนเจ้าขุนเณร ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี


สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี ในสมัยรัชกาลที่ ๓  เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๗๔ พร้อมๆ กับการสร้างเมืองกาญจนบุรีใหม่ ต่อมาชำรุดทรุดโทรม

ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว คราวเสด็จประพาสน้ำตกไทรโยค ได้เสด็จมายังวัดเหนือ ทอดพระเนตรเห็นราษฎรกำลังรื้อพระอุโบสถเพื่อก่อสร้างใหม่ จึงทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวน ๑๐ ชั่ง ร่วมปฏิสังขรณ์ด้วย ทั้งได้ทรงโปรดพระราชทานกัปปิยภัณฑ์แก่พระภิกษุผู้ทำการองค์ละ ๒ บาท พระอุโบสถที่สร้างใหม่นี้ได้สร้างตรงที่เก่า สำเร็จเรียบร้อยและฉลองในปี พ.ศ. ๒๔๓๕

วัดเทวสังฆารามได้รับพระมหากรุณาธิคุณขึ้นเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๕ และเมื่อวันที่ ๒๖ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๐๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จมาทรงทอดกฐินต้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เสด็จพระราชดำเนินมาจังหวัดกาญจนบุรี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระปรมาภิไธยของทั้งสองพระองค์บนหินอ่อน สำหรับประดับไว้บนสองผนังด้านในของพระอุโบสถ และทรงปลูกหน่อต้นโพธิ์จากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ไว้ด้านหน้าพระอุโบสถ  

พระอุโบสถที่ปฏิสังขรณ์ในสมัยรัชกาลที่ ๕ นั้น เป็นพระอุโบสถขนาดเล็ก มีบานประตูจำหลัก เป็นลายดอกพุดตาน และมีภาพฤๅษีประกอบด้วย หน้าบันเป็นรูปช้างเอราวัณเชิญพานเกล้า ภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาหนังทั้งสี่ด้าน คือผนังหลังพระประธานเขียนเป็นภาพซุ้มเรือนแก้วกับรูปเทวดา ผนังด้านเหนือตอนล่างเขียนเป็นรูปสัตว์นรก ตอนกลางเขียนเป็นรูปพุทธประวัติตอนมหาภิเนษกรมณ์ ตอนบนเขียนเป็นภาพเทพชุมนุมและตอนตรัสรู้ ผนังด้านใต้ เขียนทำนองเดียวกันกับด้านเหนือ ผนังด้านล่างเขียนเป็นภาพมารผจญ ตอนบนเขียนปางป่าเลไลย์ ส่วนเพดานเขียนเป็นท้องฟ้ามีภาพราหูอมจันทร์ลอยอยู่ในเมฆ นอกจากนั้นยังมีภาพคมนาคมทางน้ำทางบก และสภาพการแต่งกายของคนในสมัยนั้น ฝีมือการเขียนสันนิษฐานว่าเป็นฝีมือสร้างรุ่นราวคราวเดียวกัน มีภาพปูนปั้นอยู่ด้านหน้าเป็นรูปคนนุ่งกางเกงขายาว สวมเสื้อนอกคอปิด ยืนอยู่ทั้ง ๒ ข้างทางเข้า ฝีมือปั้นหยาบ ปัจจุบันได้ทาสีใหม่ ภายในมณฑปมีรอยพระพุทธบาทโลหะเป็นของทำขึ้นใหม่

เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๘ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จออกมาตรวจการคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ได้กล่าวว่า “วัดเทวสังฆารามที่เสด็จทอดพระเนตรนี้ คนพื้นเมืองเรียกว่า “วัดเหนือ” เพราะตั้งอยู่ทิศเหนือเมืองขึ้นไป มีลานกว้าง มีต้นไม้ร่มรื่น พื้นรักษาเตียนดี มีของก่อสร้างเป็นสิ่งเป็นอันรักษาสะอาดเอี่ยม มีพระสงฆ์ ๒๙ รูป เป็นมหานิกายแผลง ปฏิบัติเคร่งครัด พระอธิการบดี (เจ้าคุณพระเทพมงคลรังษี) เป็นเจ้าอาวาส เป็นผู้คล่องแคล่วเอาการเอางาน” ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๓ ได้มีการสร้างโรงเรียนเทวานุกูล เป็นตึกคอนกรีต ๒ ชั้น ใช้เป็นโรงเรียนปริยัติธรรม

ในปี พ.ศ.๒๔๗๘ พลเอก พระยาพหลพลหยุหเสนาและคุณหญิงพิศ ภรรยาซึ่งเป็นชาวเมืองกาญจนบุรีได้เชิญชวนสมาชิกสโมสรคณะราษฎร์ไปทอดกฐินถวายทุนสร้างโบสถ์ใหม่เป็นประเดิม และต่อมาอีกหลายครั้ง โดยส่งแบบตราสโมสรคณะราษฎร์ขยายเท่าหน้าบันพระอุโบสถเพื่อเป็นแบบปั้นหน้าบัน แต่ก็ต้องหยุดชะงักไปเพราะเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ จนสงครามสงบได้จัดงานยกช่อฟ้าขึ้น เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๙๒ และจัดงานผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๓



พระประธานในพระอุโบสถ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานนามว่า “พระพุทธสุทธิมงคล”





วัดเทวสังฆาราม เป็นวัดที่มีความสำคัญวัดหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เพราะเป็นที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆารามจนจบชั้นประถมปีที่ ๓ และในปี พ.ศ.๒๔๖๙ ทรงได้บรรพชาเป็นสามเณร และเมื่อมีอายุครบอุปสมบทได้เสด็จมาผนวชที่วัดเทวสังฆาราม เมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๗๖

สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ เมื่อยังทรงพระเยาว์นั้น ทรงเจ็บป่วยออดแอดอยู่เสมอ มีอยู่คราวหนึ่งที่ทรงป่วยหนักจนญาติ ๆ ต่างพากันคิดว่าคงไม่รอดแล้ว และได้บนไว้ว่า ถ้าหายป่วยจะให้บวชเพื่อแก้บน แต่เมื่อหายป่วยแล้ว พระองค์ก็ยังไม่ได้บวช จนกระทั่งเรียนจบชั้นประถม ๕ แล้ว พระองค์จึงได้ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเพื่อแก้บนในปี พ.ศ.๒๔๖๙ ขณะมีพระชันษาได้ ๑๔ ปี ที่วัดเทวสังฆาราม โดยมีพระเทพมงคลรังษี (ดี พุทฺธโชติ) เจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระครูนิวิฐสมาจาร (เหรียญ สุวณฺณโชติ) เจ้าอาวาสสวัดศรีอุปลาราม เป็นพระอาจารย์ให้สรณะและศีล

ภายหลังบรรพชาแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดเทวสังฆาราม ๑ พรรษา และได้มาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดเสน่หา จังหวัดนครปฐม หลังจากนั้น พระเทพมงคลรังษี (ดี พุทธฺโชติ) พระอุปัชฌาย์ได้พาพระองค์ไปยังวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และนำพระองค์ขึ้นเฝ้าถวายตัวต่อสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร (ต่อมาคือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์) เพื่ออยู่ศึกษาพระปริยัติธรรมในสำนักวัดบวรนิเวศวิหาร พระองค์ทรงได้รับประทานนามฉายาจากสมเด็จพระสังฆราชว่า “สุวฑฺฒโน” ซึ่งมีความหมายว่า “ผู้เจริญดี” จนกระทั่งพระชันษาครบอุปสมบทจึงทรงเดินทางกลับไปอุปสมบทที่วัดเทวสังฆารามเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๖ ภายหลังจึงได้เดินทางเข้ามาจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร เพื่อทรงศึกษาพระธรรมวินัย และที่วัดบวรนิเวศวิหารนี่เอง พระองค์ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทซ้ำในธรรมยุติกนิกายเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๖ (นับแบบปัจจุบันตรงกับ พ.ศ.๒๔๗๗) โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระเทพเมธี (จู อิสฺสรญาโณ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์



พระอัฐธาตุ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
(สมเด็จพระญาณสังวร สกลมหาสังฆปริณายก - พระยศในสมัยรัชกาลที่ ๙)

 






ภาพจิตรกรรมภายในพระอุโบสถวัดเทวสังฆาราม
ประกอบด้วยภาพเขียนพุทธประวัติ ภาพวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คน
แสดงออกถึงวัฒนธรรมความเป็นอยู่ การแต่งกาย การคมนาคม
คาดว่าปลายกรุงศรีอยุธยาหรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์











Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ตุลาคม 2562 15:41:31 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
MP3 อบรมวิถีจิต โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ ณ สถานบำบัดธรรมชาติทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เสียงธรรมเทศนา
มดเอ๊ก 0 2994 กระทู้ล่าสุด 25 มิถุนายน 2553 20:17:50
โดย มดเอ๊ก
เปิดบันทึกตำนาน ตอน หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
มดเอ๊ก 0 1980 กระทู้ล่าสุด 29 กรกฎาคม 2559 01:38:40
โดย มดเอ๊ก
วัดถาวรวราราม(คั้นถ่อตื่อ) อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และความเป็นมาของวัดญวนในประเทศไทย
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 2 2488 กระทู้ล่าสุด 13 มิถุนายน 2562 14:42:09
โดย Kimleng
วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
สุขใจ ไปเที่ยว
Kimleng 0 1719 กระทู้ล่าสุด 28 สิงหาคม 2562 17:26:44
โดย Kimleng
[การเมือง] - เลือกตั้ง นายก อบจ. กาญจนบุรี 22 ตุลาคมนี้ ใครลงสมัคร-นโยบายเด่น
สุขใจ ร้านน้ำชา
สุขใจ ข่าวสด 0 77 กระทู้ล่าสุด 19 ตุลาคม 2566 13:11:20
โดย สุขใจ ข่าวสด
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.398 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 17 เมษายน 2567 04:54:51