[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 มิถุนายน 2568 05:41:10 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธรรมคำสอนหลวง ปู่มั่น ภูริทัตโต  (อ่าน 3224 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 05 พฤษภาคม 2553 17:34:26 »

http://img193.imageshack.us/img193/5147/49406890.jpg
ธรรมคำสอนหลวง ปู่มั่น ภูริทัตโต

<a href="http://www.luangpee.net/forum/?action=mgallery;sa=media;id=397" target="_blank">http://www.luangpee.net/forum/?action=mgallery;sa=media;id=397</a>


เป็นธรรมคำสอนโอวาทที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เทศน์สอนในอดีต พ.ศ. 2483 ณ วัดป่าโนนนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี

ซึ่งเก่าแก่ และ มีคุณค่าสูงส่งมาก ผู้จดบันทึกธรรมคำสอนไว้ คือ หลวงปู่หลุย จันทสโร

1. ในโลกนี้เป็นธาตุทั้งนั้น ให้รู้เท่าทันกับธาตุอย่าหลงตามธาตุ

2. ให้เห็นปัจจุบันธรรม อย่าส่งจิตอนาคต และ อดีต

3.ธาตุ 84,000 ธาตุออกมาจากจิตหมด

4.นิโรธเป็นของดับเพราะรู้เท่าทันแล้ว จิตไม่เกิดยินดี ยินร้าย ดับไปเช่นนี้ ชื่อว่านิโรธ

5.แสดงฌานเป็นที่พักชั่วคราวแล้วเจริญจิตต่อ ๆ ไป

6.ให้เอากาย วาจา ใจนี้ยกขึ้นพิจารณา อย่าเพิ่ม อย่าเอาออก ให้เห็นเป็นปรกติ

7.มรรค 8 นั้น สมาธิมรรค์เป็นองค์ 1 นอกนั้นเป็นปริยาย

8.ให้รู้ธรรมะและอาการของธรรมถึงขั้นละเอียด แล้วก็จะรู้เอง เห็นเอง

9.ถ้าส่งจิตรู้เห็นภายนอกกายเป็นมิจฉาทิฐิ ให้รู้เห็นอยู่ในกายกับจิตนั้น เป็นสัมมาทิฐิ

10.นักปฏิบัติใจต้องเด็ดเดี่ยวกล้าหาญที่สุด จึงจะรู้ธรรมเห็นธรรม

11.เกิดตาย เกิดแล้วตาย ชมแต่หนังของเก่า ไม่หันไปหาที่จะพ้นทุกข์

12.ทำจิตให้เสมออย่าขึ้นอย่าลง อย่าไปอย่ามา ให้รู้เฉพาะปรกติของจิต

13.แสดงฐานของธรรมเป็นบ่อเกิดอริยสัจของจริง

14.แสดงตนดูถูกท่านว่าท่านเป็นคนโกรธ เพราะผู้ฟังไม่เห็นตามความเป็นจริง เพราะยุ่งแต่จิตของตัวเท่านั้น

15.เกิดความรู้อย่างวิเศษแล้วย่อมหาอานิสงส์ประมาณไม่ได้

16.อัตตาหิ…................................ฯลฯ เป็นของลึกลับเหลือที่สุด

17.ให้รู้ธาตุเห็นธาตุ จิตจึงไม่มติดทางราคะ

18.คนเราจะดีจะชั่วต้องเกิดวิบัติเสียก่อน

19.ท่านแสดงไม่อ้างสวรรค์ นิพพาน ไม่อ้างทุคติ อ้างความเป็นไปทางปัจจุบันอย่างเดียว เพราะชั่วดีก็ปัจจุบันที่ยังเป็นชาติมนุษย์

20.ความรู้ของพระพุทธเจ้าเป็นอนันตนัย มากมายยิ่งกว่า 84,000 พระธรรมขันธ์เป็นอุบายที่จะทรมานสัตว์

พ้นวิสัยของสาวกที่จะรู้ตามเห็นได้ สาวกกำหนดรู้แต่เพียง 84,000 เท่านี้ก็เป็นอัศจรรย์

21.ท่านกำชับว่าอย่าให้จิตเพ่งนอก ให้รู้ในตัวเห็นในตัว เมื่อรู้ในตัวแล้วรู้ทั่วไป เพราะตัวเป็นต้นเหตุ

22.ให้แก้ปัจจุบัน เมื่อแก้ปัจจุบันได้แล้ว ภพ 3 นั้นหลุดหมดไม่ต้องส่งอดีต อนาคตให้ลบอารมณ์ภายนอกให้หมด

จึงจะเข้าอารมณ์ภายในได้ เพ่งนอก

เป็นตัวสมุทัย เป็นทุักข์ และเป็นตัวมิจฉาทิฐิเพ่งในเป็นตัวสัมมาทิฐิ เพ่งในตัวเป็นสัมมาทิฐิ

23.เล่นนิมิตก็ดี ยินดียินร้ายก็ดี เรียกว่าคุ้มเงาตน เชื่อนิมิตเป็นบ้า

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 พฤษภาคม 2553 17:44:57 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.413 วินาที กับ 25 คำสั่ง

Google visited last this page 20 พฤศจิกายน 2567 05:09:32