หลวงปู่บด จักกวโร วัดศรีจอมแก้ว ต.คำบก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

หลวงปู่บด จักกวโร
วัดศรีจอมแก้ว ต.คำบก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

หลวงปู่บด จักกวโร หรือ พระอธิการบดี เจ้าอาวาสวัดศรีจอมแก้ว บ้านห้วยละโมง ต.คำบก อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร พระสุปฏิปันโนที่ชาว จ.มุกดาหาร และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเลื่อมใสศรัทธา

สืบสายธรรมของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล, หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า และยังเป็นศิษย์หลวงปู่คำน้อย พระเกจิชื่อดังแห่งวัดภูกำพร้า บ้านมะนาว อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

ปัจจุบันสิริอายุ 89 ปี พรรษา 38

มีนามเดิมว่า บด ปากหวาน เกิดเมื่อวันอังคารที่ 24 เม.ย. 2473 ที่บ้านกลาง ต.คำบก อ.มุกดาหาร จ.นครพนม (ในขณะนั้น) บิดา-มารดาชื่อ นายสร้อย และนางคำเพ็ง ปากหวาน เป็นบุตรในจำนวนพี่น้องร่วมอุทรทั้งหมด 9 คน

ในช่วงวัยเยาว์หลังจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 อายุ 7 ขวบถึง 17 ปี ขณะเป็นฆราวาส มีโอกาสติดตามมารดาอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ออกจาริกธุดงค์ที่วัดถ้ำหลวงปู่เสาร์ บ้านคำน้อย ต.คำบก อ.มุกดาหาร จ.นครพนม

อยู่รับใช้อุปัฏฐากจนวัดเจริญรุ่งเรืองสืบมา จนกระทั่งหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มั่นย้ายมาสำนักวัดคำผักกรูด บ้านคำผักกรูด บูรพาจารย์ทั้ง 2 อยู่ฝึกกัมมัฏฐานนาน 10 ปี

ในช่วงวัยเยาว์เป็นเด็กเฉลียวฉลาด ฝึกท่องนิทานก้อมโบราณ คัมภีร์ใบลาน 12 ตำนาน ผญากลอนโบราณจนเชี่ยวชาญ แต่งกาพย์กลอนควบคู่ไปด้วย อายุ 20 ปี จึงหันไปเป็นพระเอกหมอลำคณะภูไทวาทศิลป์ แต่งกลอนลำให้คณะหมอลำ ชื่อดังในยุคนั้นด้วย จนมีครอบครัวระยะหนึ่ง จนรู้สึกเบื่อหน่ายทางโลก

เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อพ.ศ.2524 ที่พัทธสีมาวัดพุทธยาภิบาล ต.บ้านโซ่ง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร มีพระครูประภากรณ์ (สงฆ์) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูนิโรจน์โพธิวัฒน์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอธิการวิรัตน์ ฉันทตโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์

หลังอุปสมบทร่ำเรียนฝึกกัมมัฏฐานกับหลวงปู่จาม มหาปุญโญ พระเกจิชื่อดัง วัดป่าวิเวกพัฒนาราม อ.คำชะอี ก่อนธุดงค์ไปกับหลวงปู่คำน้อย พระเกจิชื่อดัง วัดภูกำพร้า อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ซึ่งท่านเป็นศิษย์หลวงปู่สอน และหลวงปู่สุภา กันตสีโล จนหลวงปู่คำน้อยละสังขาร

ช่วงที่ธุดงค์และจำพรรษาอยู่กับ หลวงปู่คำน้อยได้ร่ำเรียนหนังสือไทยน้อย ไทยใหญ่ เลขอักขระยันต์จนอ่านออกเขียนได้ อีกทั้งยังเรียนสรรพวิชาตำรารักษากระดูกด้วยน้ำมนต์และคาถา รักษาสงเคราะห์ญาติโยมผู้ตกทุกข์แขนขาหัก

กระทั่งในปี พ.ศ.2529-2530 ได้ร่วมกับญาติโยมบุกเบิกสร้างวัดศรีจอมแก้ว พัฒนาเสนาสนะโดยสร้างกุฏิ 1 หลัง ศาลาการเปรียญ ประตูโขง และอุโบสถจนวัดเจริญรุ่งเรือง

ต่อมาได้ไปฝึกอบรมกัมมัฏฐานที่ จ.ปทุมธานี นาน 2 ปี สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท จนได้รับแต่งตั้งเป็นพระอธิการบด ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีจอมแก้วสืบมา

นอกจากเป็นพระนักปฏิบัติและพระนักพัฒนาแล้ว ยังเป็นผู้สืบสานตำนานตำรา 12 บทของชนเผ่าภูไท อ.คำชะอี จนสาธุชนให้ความเคารพนับถือในศีลาจาวัตรที่งดงาม

ล่าสุดได้ปรารภกับลูกศิษย์ว่า ปัจจุบันห้องน้ำของวัดชำรุดทรุดโทรมมาก จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญรุ่นแรก รุ่นธรณีสงฆ์มหาเศรษฐี เพื่อนำรายได้สร้างห้องน้ำสงฆ์ 4 ห้อง โดยจัดประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ เมื่อช่วงวันที่ 23-25 พ.ย. ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระกัมมัฏฐานที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ในแต่ละวันจะมีญาติโยมจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่อย่างล้นหลาม สำหรับปัจจัยที่ได้จากการบริจาคนำไปพัฒนาสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดแห่งนี้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ ยังนำพระภิกษุ-สามเณร และญาติโยมร่วมกันปรับปรุงภายในบริเวณวัดให้มีความร่มรื่น สวยงามด้วยการปลูกต้นไม้ สร้างความสงบวิเวก เหมาะสมในการปฏิบัติธรรม

ถ่ายทอดหลักธรรมง่ายๆ แก่ชาวบ้านให้ยึดถือปฏิบัติ คือ การรักษาศีล 5 เนื่องจากปุถุชนคนธรรมดายังมีกิเลศอยู่ขอให้รักษาศีล 5 ให้ได้ก็พอ ชีวิตจะพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองแน่นอน

จึงได้รับความเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง (ข่าวสดออนไลน์ )