[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 14:37:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความจริงของชีวิต พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี  (อ่าน 748 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1006


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 79.0.3945.130 Chrome 79.0.3945.130


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 28 มกราคม 2563 15:13:51 »






ความจริงของชีวิต

ความทุกข์ของพวกเรามีอยู่ ๒ แบบด้วยกัน คือทุกข์ทางร่างกายกับทุกข์ทางจิตใจ วิธีแก้ความทุกข์ของร่างกายกับของจิตใจก็ไม่เหมือนกัน ต้องศึกษาว่าวิธีแก้ความทุกข์ของแต่ส่วนนั้นแก้อย่างไร ความทุกข์ของร่างกายคือขาดแคลนปัจจัย ๔ เช่น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย ถ้าขาดแคลนปัจจัย ๔ ก็ต้องหาปัจจัย ๔ มาให้กับร่างกาย เช่น เวลาที่มีภัยต่างๆ มีวาตภัย มีอุทกภัย มีไฟไหม้ ไม่มีที่อยู่อาศัยไม่มีอาหาร ไม่มีเครื่องนุ่งห่ม ไม่มียารักษาโรค ตอนนั้นเราก็จะช่วยกันหาปัจจัย ๔ มาให้แก่ผู้ที่เดือดร้อน พอร่างกายได้รับปัจจัย ๔ ความทุกข์ทางร่างกายก็หายไป แต่ความทุกข์ทางใจยังอาจจะไม่หาย เพราะความทุกข์ทางใจนี้ยังไม่ได้รับการดูแล ความทุกข์ทางใจเกิดจากความอยาก ความอยากได้สิ่งที่เคยมีอยู่ เช่น เคยมีบ้าน มีสมบัติแต่ถูกไฟไหม้เผาไป ไม่มีใครหามาให้เราได้ ผู้อื่นหาได้ก็เฉพาะการขาดแคลนทางร่างกาย แต่ความทุกข์ทางใจนี้เราต้องมาแก้เอง คนอื่นแก้ไม่ได้ ทุกข์ทางใจของพวกเรา พระพุทธเจ้าทรงบอกว่าเกิดจากความอยากต่างๆ อยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ อยากไม่สูญเสียสิ่งนั้นสิ่งนี้ไป พอเกิดเหตุการณ์ทำให้สูญเสียสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปก็เกิดความทุกข์ใจขึ้นมา

วิธีแก้ความทุกข์ใจเราก็ต้องมาสอนใจให้รู้ว่า ความทุกข์ใจนี้เกิดจากความอยากไม่สูญเสียทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองไป แต่ถ้าเราไม่เข้าใจเราก็จะไม่รู้จักวิธีแก้ วิธีแก้เราต้องดูความจริงว่าทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทองนี้ มันเที่ยงหรือไม่เที่ยง มันมีอะไรรับประกันได้ไหมว่า ถ้าเรามีแล้วมันจะต้องอยู่กับเราไปเรื่อยๆ เป็นของเราไปเรื่อยๆ ถ้าเราดูความจริงเราก็จะเห็นว่าไม่มีใครรับประกันได้ นอกจากบริษัทประกันภัย บริษัทประกันภัยเขาก็ไม่ได้รับประกันการสูญเสีย เขาเพียงแต่รับประกันการชดเชย ถ้าเกิดการสูญเสียเขาก็จะชดเชยให้ เช่น ถ้าเราประกันบ้านไว้ราคาเท่านั้นเท่านี้ เวลาบ้านถูกไฟไฟไหม้ไปเขาก็จะมาชดเชยค่าเสียหายของบ้านหลังนั้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ ถ้าประกันไว้หนึ่งล้านเขาก็จะจ่ายเงินหนึ่งล้านให้กับเรา แต่ก่อนที่เขาจะจ่ายเงินหนึ่งล้าน เราก็ต้องจ่ายเงินหนึ่งหมื่นให้เขาก่อนเป็นค่าประกัน ทีนี้เราจะยอมเสียไหม เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่บ้านมันจะไหม้ หรือบ้านมันจะไม่ไหม้ ถ้าเราอยากจะให้สบายใจ เราก็ยอมเสียน้อยดีกว่าเสียมาก ยอมเสียค่าประกันไป แล้วเวลาถ้าเกิดเสียใหญ่เราก็จะได้รับการชดเชย แต่ไม่มีใครมารับประกันสิ่งต่างๆ ให้มันอยู่กับเราไปได้ตลอด และบางอย่างเขาก็ไม่รับประกัน คือรับประกันไม่ได้ รับประกันได้เพียงแต่หาอะไรมาทดแทนให้เท่านั้นเอง เช่น ประกันชีวิต เวลาประกันชีวิตเขาไม่ได้มาประกันว่าเราจะไม่ตายกัน คนซื้อประกันชีวิตก็ต้องตาย คนไม่ซื้อประกันชีวิตก็ตายเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่ว่าคนที่ซื้อประกันก็จะมีผู้ที่มารับภาระเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ที่ผู้ที่สูญเสียชีวิตไปเคยรับผิดชอบอยู่ เช่น หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบหาเงินทองมาเลี้ยงครอบครัว พอหัวหน้าครอบครัวตายไป ถ้าหัวหน้าครอบครัวซื้อประกันชีวิตไว้ บริษัทประกันเขาก็จะมารับภาระตามที่ได้ตกลงกันไว้ แล้วแต่จะกำหนดราคา ต้องการให้เขาประกันชดเชยเท่าไหร่ เขาก็จะทำตามที่เราตกลงกันไว้

แต่ชีวิตนี้ไม่มีใครรับประกันได้ ชีวิตของคนเราทุกคนไม่มีใครมากำหนดได้ว่า จะอยู่ไปกี่วันกี่ปีกี่เดือน นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราคิดกันไว้ก่อน เพราะถ้าเราคิดกันไว้ก่อนเราจะได้เตรียมตัวเตรียมใจรับกับเหตุการณ์ ว่าไม่มีอะไรในโลกนี้ที่จะอยู่กับเราเป็นของเราไปได้ตลอด ต้องมีวันใดวันหนึ่งเวลาใดเวลาหนึ่งที่จะต้องมีการพลัดพลาดจากกัน ไม่จากกันตอนเป็นก็ต้องจากกันตอนตาย แต่ถ้าเราได้ศึกษาได้รู้ความจริง แล้วเรามาเตรียมตัวเตรียมใจ ถ้าซื้อประกันได้ก็ซื้อประกัน ถ้าซื้อประกันไม่ได้ก็ซื้อธรรมะแทน ธรรมะก็จะมาช่วยเราได้ ธรรมะจะสอนให้เราฝึกใจทำใจให้เฉยๆ ไม่ต้องไปดีใจเสียใจกับเหตุการณ์ต่างๆ ใจของเราตอนนี้มันชอบไปดีใจเสียใจกับเหตุการณ์ต่างๆ เราไม่รู้จักห้ามมันไม่ให้เสียใจไม่ให้ดีใจ ถ้าเรามาฝึกใจได้สอนใจให้เฉยๆ ได้ อย่าไปดีใจอย่าไปเสียใจ ดีใจก็ไม่ดี ดีใจกับของที่เราได้มา เดี๋ยวเวลาของที่เราได้มาเสียไปเราก็จะเสียใจ ให้เราเฉยๆ มาก็มา ไปก็ไป ไม่ได้ปฏิเสธ เรายังต้องอยู่กับสิ่งนั้นสิ่งนี้ต้องมีสิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่เราต้องรู้จักทำใจ รู้จักทำใจว่าเขาจะไม่ได้อยู่กับเราไปตลอด เราจะไม่ได้อยู่กับเขาไปตลอด เขาไม่ไปจากเรา เราก็ต้องไปจากเขา นี่คือความจริงของชีวิตของพวกเราทุกคน ที่พวกเราทุกข์กันเพราะพวกเราไม่มองความจริงกัน ไม่ยอมมองความจริงหรือปฏิเสธความจริง ไม่ยอมรับความจริงไม่ยอมให้ความจริงนี้เกิดขึ้นกับเรา เราไม่อยากให้สูญเสียสิ่งที่เรารักไป ไม่อยากสูญเสียคนที่เรารักไปเราจึงทุกข์กัน ทุกข์เพราะว่าเราไม่ยอมรับความจริง เราอยากให้ความจริงนี้เป็นไปตามความอยากของเรา คือให้เรามีแต่ของดีๆ ให้มีแต่ของที่จะไม่ชำรุดทรุดโทรม ไม่มีของที่จะจากเราไป แต่ความจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่มีใครที่จะมาควบคุมบังคับสิ่งต่างๆ ที่เราไปครอบครองหรือไปเป็นเจ้าของให้มันเป็นของเราไปได้ตลอดเวลา นี่แหละคือความทุกข์ใจ ทุกข์ใจเพราะไม่ยอมรับความจริง ไม่ยอมศึกษาความจริงกัน ถ้าเราศึกษาความจริงแล้วเราสอนใจให้รับความจริง ใจของเราจะไม่ทุกข์เวลาที่เกิดการสูญเสีย เกิดการพลัดพรากจากกัน


สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๒
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
สร้างธรรมะให้เป็นที่พึ่งกับใจ พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 933 กระทู้ล่าสุด 02 กันยายน 2562 16:17:35
โดย Maintenence
“อานิสงส์ของความเมตตา” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 977 กระทู้ล่าสุด 04 กันยายน 2562 17:24:35
โดย Maintenence
“ทุกวันนี้เราทุกข์กับอะไร” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 886 กระทู้ล่าสุด 06 กันยายน 2562 09:54:10
โดย Maintenence
“ทำใจให้สงบ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 855 กระทู้ล่าสุด 07 กันยายน 2562 12:56:44
โดย Maintenence
“กระบวนการของการชำระจิตใจ” พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ จ.ชลบุรี
สมถภาวนา - อภิญญาจิต
Maintenence 0 1037 กระทู้ล่าสุด 08 กันยายน 2562 11:10:15
โดย Maintenence
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.274 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 06 เมษายน 2567 12:27:20