จอมใจจักรพรรดิ์ The Kingdom and The Beauty ปี1959

จอมใจจักรพรรดิ์
The Kingdom and The Beauty ปี1959
(เจียงซานเหม่ยเหริน) นำแสดงโดยเจ้าเหล่ย-หลินไต้

Jiangshan Meiren

ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม งานเทศกาลหนังเอเชียนครั้งที่ 6

โดดเด่นที่เป็นหนังเพลงกุ๊กกิ๊กสไตล์จีนยุคเก่า ดิฉันยังไม่เกิดช่วงที่ออกฉายโรงนะคะ แต่ทันดูจากทีวีช่อง๕ หรือ๗ มั้ง ลืมแล้ว ตอนนั้นก็ยังเล็กนะ ดูตามพ่อแม่ โดยมีคุณพ่อคุณแม่เล่าให้ฟัง เป็นหนังจีนโบราณ สีสันของฉากสวยงาม วิวทิวทัศน์เพลินตาเพลินใจ แต่ละซีนน่าดูมากๆไม่ว่าจะเป็นฉากพื้นเมืองความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ฉากในราชสำนัก ทุกอย่างลงตัวสวยมากจริงๆ ตอนนั้นดิฉันดูไม่รู้เรื่องหรอก แต่มีคุณแม่คอยอธิบายให้ฟัง ขนาดดูไม่รู้เรื่องยังน้ำตาไหลเลย เป็นหนังที่ครบทุกรส เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดีมีทั้งบทสนุกสนาน น่ารักน่าชังของพระเอกนางเอก ตื่นเต้น เศร้าเคล้าน้ำตา นางเอกแสดงได้น่ารัก สะบัดสะบิ้งปนน่าเอ็นดู ชุดที่สวมใส่ก็ดูดี สง่า พระเอกที่ปลอมองค์มาเป็นสามัญชน ก็ดูดีมากๆหล่อเหลา มีบุคลิกที่โดดเด่น สง่างาม พอดูแล้วแยกแยะออกเลย ว่าชาวบ้านหรือฮ่องเต้ เพราะการเดินเยื้องย่างบ่งบอกความเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตรยิ์ (ว่าไปนั่น ดิฉันก็เล่าซะเน่าไม่แพ้หนังเลยนะเนี้ย) บทพูดมีน้อยมาก ทั้งเรื่องเดินด้วยเพลง ซึ่งตัวละครในเรื่องขับขานกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาด และไพเราะมาก เรื่องนี้ทำเอาชาวบ้านชาวเมืองติดกันงอมแงม โกยเงินไปมหาศาล และเข้าฉายติดต่อกันยาวนานมาก

หลินไต้แสดงเป็นนางเอก ส่วนพระเอกของเรื่องคือเจ้าเหล่ย

ฉากที่นางเอกทำท่าเยื้องย่างเดินแบบฮ่องเต้

เนื้อเรื่อง

เป็นความรักของชายหนุ่มหญิงสาวที่มีฐานันดรต่างกัน พระเอกเป็นเจิ้งเต๋อฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิง ครองราชย์เมื่อปีค.ศ. 1505-1521 ประวัติศาสตร์จีนบันทึกไว้ว่า พระองค์โปรดปรานความสนุกสนาน มากกว่าการปกครองบ้านเมือง จนมีผู้ตั้งฉายาว่า "ฮ่องเต้เจ้าสำราญ" ซึ่งแอบปลอมตัวเป็นสามัญชนชื่อจู่เต๋อหมิน เดินทางท่องเที่ยวมายังทางแถบตอนใต้ และได้พบกับหลี่ฟ่งหญิงสาวคนงามแห่งหมู่บ้านเหมยหลง ทั้งสองต่างพึงพอใจกัน และมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างลึกซึ้ง แต่แล้วความรักระหว่างหนุ่มสาวก็เผชิญอุปสรรคกีดขวาง ไทเฮารู้ข่าวฮ่องเต้แอบหนีเที่ยวละทิ้งราชการปกครองแผ่นดิน จึงส่งทหารขุนนางมาติดตามเชิญเสด็จกลับวัง ก่อนจะพลัดพรากลาจาก เจิ้งเต๋อฮ่องเต้ให้คำมั่นสัญญาว่า จะรีบจัดแจงมารับตัวหลี่ฟ่งเข้าสู่พิธีอภิเษกสมรส แต่แล้วเมื่อกลับสู่เมืองหลวง ฮ่องเต้ผู้อ่อนแอก็ไม่กล้าขัดขืนต่อความปรารถนาของไทเฮา มิหนำซ้ำยังหลงเพลิดเพลินสำราญอยู่กับเหล่าสนมนางกำนัล จนหลงลืมคำสัญญาต่าง ๆ โดยสิ้นเชิง 3 ปีผ่านไป หลี่ฟ่งคลอดบุตรออกมาเป็นชาย โดนชาวบ้านติฉินนินทาและเย้ยหยันล้อเลียนในการมีลูกนอกสมรส จนตรอมใจล้มป่วยหนัก ต้าหนิวเด็กรับใช้ในบ้าน ทนดูสภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้ จึงตัดสินใจมุ่งหน้าเดินทางขึ้นเหนือสู่เมืองหลวง และถือโอกาสร้องทุกข์ประจานความไม่รับผิดชอบของฮ่องเต้ ด้วยการนำมาขับขานเป็นบทเพลงแลกเงินประทังชีวิตตลอดการเดินทาง จนเหตุการณ์ล่วงรู้ถึงขุนนางผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง จึงนำความกราบทูล กระทั่งเจิ้งเต๋อฮ่องเต้พลันระลึกได้สติ และส่งทหารมารับตัวหลี่ฟ่งเข้าวัง เรื่องสรุปลงเอยด้วยการที่หลี่ฟ่งฝากฝังลูกน้อยไว้ให้พี่ชายและพี่สะใภ้ช่วยกันเลี้ยงดู ส่วนนางก็ฝืนสังขารอันเจ็บป่วย ออกเดินทางด้วยอาการยินดีและไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบากในการรอนแรมอันยาวไกล กระทั่งสิ้นใจอย่างน่าเศร้าสลดก่อนจะถึงเมืองหลวง

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตและขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.geocities.com/jump20aus/shaw/kingd.htm