[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
23 เมษายน 2567 13:55:26 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อาการไอกับกรดไหลย้อน  (อ่าน 1326 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.61 Chrome 83.0.4103.61


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 12 มิถุนายน 2563 09:53:25 »


อาการไอกับกรดไหลย้อน


‘อาการไอ’ ถือเป็นกลไกอย่างหนึ่งของร่างกายในการขับสิ่งแปลกปลอมออกจากระบบทางเดินหายใจ เช่น มูก เสมหะ รวมถึงเชื้อโรคต่างๆ การไอจึงเป็นการช่วยลดปริมาณเชื้อโรคในร่างกายของผู้ป่วย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการกระจายเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน

เมื่ออาการไอเป็นหนึ่งในอาการของโรคโควิด- 19 ที่กำลังแพร่ระบาดในปัจจุบัน นอกจากภาวะไข้สูงและอาการร่วมอื่นๆ  จึงสร้างความวิตกกังวลให้ผู้ที่มีอาการไอติดต่อกันหลายวัน หรือไอเรื้อรัง เป็นอย่างมาก   


อาการไอ
ไอ (Cough)  เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป สามารถแบ่งตามระยะเวลาของอาการไอ ดังนี้

ไอเฉียบพลัน เกิดจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ  เช่น  หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ซึ่งหากไม่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ผู้ป่วยจะสามารถฟื้นตัวและหายไอ ภายใ นไม่เกิน 3 สัปดาห์
ไอกึ่งเฉียบพลัน มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจเช่นกัน แต่ผู้ป่วยอาจมีการติดเชื้อที่รุนแรงกว่า การฟื้นตัวจึงใช้เวลานานกว่า คือประมาณ 3-8 สัปดาห์ขึ้นไป
ไอเรื้อรัง มีอาการไอติดต่อกันยาวนานกว่า 8 สัปดาห์ ส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบและติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ อ่านข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงโรคกรดไหลย้อน


Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.61 Chrome 83.0.4103.61


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2563 09:55:26 »


ไอเรื้อรังกับโรคกรดไหลย้อน


โรคกรดไหลย้อน  (GERD) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อกรดจากกระเพาะอาหาร เคลื่อนตัวขึ้นไปยังหลอดอาหาร ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเนื้อเยื่อและนำไปสู่อาการจุกเสียด เรอ คลื่นไส้ และแสบร้อนกลางอก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อมากเกินไป โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันสูงและย่อยยาก รวมถึงการดื่มชา กาแฟ ซึ่งมีผลทำให้กล้ามเนื้อหูรูดระหว่างกระเพาะและหลอดอาหารส่วนปลายหย่อน

ทั้งนี้อาการจุกเสียดและแสบร้อนหน้าอกมักเกิดขึ้นมากกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษาอาจทำให้เกิดแผลและความเสียหายถาวรโดยเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งหลอดอาหาร

อย่างไรก็ตาม แม้อาการจุกเสียด แสบร้อนกลางอกและเรอเปรี้ยว จะเป็นอาการที่พบบ่อยที่สุดของ โรคกรดไหลย้อน  แต่อาการไอเรื้อรังก็เป็นอาการหนึ่งที่พบบ่อยเช่นกัน   โดยงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่าโรคกรดไหลย้อนมีความเกี่ยวข้องกับอาการไอเรื้อรังอย่างน้อย 25 % รวมถึงผู้ป่วยไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ หากตรวจอย่างละเอียดจะพบว่ามีปัจจัยมาจากโรคกรดไหลย้อนมากถึง 40%โดยผู้ป่วยไม่มีอาการของกรดไหลย้อน เช่น เรอเปรี้ยว หรือแน่นหน้าอกก็เป็นได้              (ข้อมูลอ้างอิง : https://www.medicalnewstoday.com/articles/315888)

อาการไอเรื้อรังจากภาวะ กรดไหลย้อน เกิดขึ้นจากกรดไหลย้อนลงไปในหลอดลม ทำให้เกิดภาวะหลอดลมอักเสบเรื้อรัง   บางกรณีอาจเสี่ยงกับอาการหอบหืด หรืออาจเกิดจากน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไประคายเคืองเส้นประสาทบริเวณหลอดอาหารส่วนปลายแล้วกระตุ้นให้เกิดอาการไอขึ้น นอกจากนี้ หากพบอาการไอหลังรับประทานอาหารมักเกิดจากความดันในช่องท้องเพิ่มมากขึ้น  จนกรดไหลลงไปในหลอดลม ส่วนภาวะไอในขณะนอนหลับ  จนสำลักน้ำลาย หรือหายใจไม่ออกมีสาเหตุมาจากกรดในกระเพาะอาหารที่เพิ่มมากขึ้นและไปรบกวนระบบทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมหดตัวหรือเกิดการอักเสบ



บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.61 Chrome 83.0.4103.61


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 มิถุนายน 2563 09:58:04 »



วิธีการรักษาโรคกรดไหลย้อน


รับประทานยาแก้ไอเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
รับประทานยาลดกรดเพื่อยับยั้งการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร
ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับประทานยาเป็นเวลานานหรือพบผลข้างเคียงจากการใช้ยา รวมถึงผู้ป่วยที่ใช้ยามาเป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถควบคุมอาการได้แล้ว
สำหรับผู้ที่มีอาการไม่รุนแรงการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและปรับพฤติกรรมการบริโภคอาหารจะช่วยให้อาการดีขึ้น โดยการรับประทานอาหารในปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละมื้อ รับประทานอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด เน้นอาหารมีประโยชน์  ไขมันต่ำ ย่อยง่ายและมีกากไย นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้น้ำหนักมากเกินไปด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ งดชากาแฟ และไม่สูบบุหรี่ รวมถึงการลดความดันในกระเพาะอาหารด้วยการสวมเสื้อผ้าหลวมๆ  และที่สำคัญคือไม่นอนราบหลังหรือระหว่างมื้ออาหาร ควรรอประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน

อย่างไรก็ตามหากพบอาการไอเรื้อรัง นานกว่า 3–8 สัปดาห์ โดยไม่ได้รับประทานยาที่กระตุ้นให้ไอมากขึ้น  ไม่สูบบุหรี่  ไม่ป่วยเป็นภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรือโรคหอบหืด รวมถึงการเอ็กซเรย์พบว่าปอดปกติ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการไอที่หาสาเหตุไม่พบ การรักษากรดไหลย้อนอาจช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้น  โดยผู้ป่วยสามารถพบแพทย์ด้านระบบทางเดินอาหารเพื่อรับการวินิจฉัยอย่างละเอียด ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ ก่อนเกิดอาการนอยด์ กังวลอาจคิดว่าติดโรคโควิด-19     

บันทึกการเข้า

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.272 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 19 กุมภาพันธ์ 2567 07:30:08