[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 08:34:31 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติศาสตร์ ปลากระป๋อง  (อ่าน 1151 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.97 Chrome 83.0.4103.97


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 15 มิถุนายน 2563 22:18:09 »


ประวัติศาสตร์ ปลากระป๋อง

ปลากระป๋องเกี่ยวอะไรกับนโปเลียน

ในบทความนี้ เราจะนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับ ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว บริษัทที่มีรายได้กว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี และมีส่วนแบ่งการตลาดปลากระป๋องมากที่สุดในไทย

นอกจากมาม่าแล้ว อาหารสามัญประจำบ้านช่วงสิ้นเดือนที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ปลากระป๋อง

แต่ก่อนอื่น เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความสงสัยเกี่ยวกับความเป็นมาของปลากระป๋องว่า..

ใครเป็นคนคิดปลากระป๋องขึ้นมาคนแรก?    ทำไมส่วนใหญ่มีแต่ปลาซาร์ดีนกับปลาแมกเคอเรล?     แล้วปลาสองชนิดนี้แตกต่างกันอย่างไร?

ทุกข้อสงสัยทั้งหมดนี้ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน..

ประวัติศาสตร์ของปลากระป๋องจริงๆแล้ว ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 200 ปีที่แล้ว ในปี พ.ศ. 2338 ในยุคสมัยของนโปเลียน ที่เขามักเจอปัญหาอาหารบูดเน่า เวลานำทหารออกไปรบในที่ไกลๆเป็นประจำ

นโปเลียนจึงได้ประกาศว่า “หากใครสามารคิดค้นวิธีเก็บรักษาอาหารได้เป็นเวลานาน สามารถพกพาเดินทางไกลได้ จะให้รางวัลเป็นจำนวน 12,000 ฟรังก์” หรือประมาณ 5.25 ล้านบาท เมื่อเทียบเป็นเงินไทยในปัจจุบัน

ผ่านไป 15 ปี นาย นิโคลัส อัพเพิร์ต (Nicolas Appert) คนขายลูกกวาดชาวฝรั่งเศส ก็ได้คิดค้นวิธีถนอมอาหารโดยการนำอาหารสด พวกผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ มาบรรจุลงในเหยือกแก้วแล้วไปต้มในน้ำเดือด ซึ่งทำให้สามารถเก็บรักษาอาหารไว้ได้นานเป็นปีโดยไม่บูดได้เป็นครั้งแรก เขาจึงได้รับเงินรางวัลจากนโปเลียนและได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาของอาหารกระป๋องของโลก (The Father of Canning)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.97 Chrome 83.0.4103.97


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2563 22:22:15 »

 
ต่อค่า.......

ต่อมา ในช่วงปี 2373 -2383 หลายๆประเทศ เช่น สกอตแลนด์ แคนาดา และ สหรัฐอเมริกา ก็ได้เริ่มพัฒนาต่อยอดนำปลาสดมาบรรจุลงในกระป๋องมาวางขาย เกิดการทำเป็นเชิงพาณิชย์ขึ้นครั้งแรก โดยได้ใช้ปลาแซลมอนในการผลิต

ภายหลัง คนเริ่มนิยมบริโภคปลากระป๋องกันมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้ตอบสนองกับความต้องการ จึงได้มีการนำปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน หรือ ปลาแมกเคอเรล มาทำเป็นปลากระป๋องในซอสต่างๆ เช่น ซอสน้ำมันมะกอก น้ำเกลือ หรือ ซอสมะเขือเทศ ทดแทนในเวลาต่อมา

โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนนั้น ถือว่าเป็นปลาที่ค่อนข้างเหมาะสมกับการทำปลากระป๋องมากที่สุด เนื่องมีขนาดลำตัวยาวพอเหมาะ ประมาณ 20 เซนติเมตร และมีจำนวนมากมายมหาศาล

แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 2523-2533 การทำประมงจับปลาซาร์ดีนในทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนมีปริมาณเกือบ 14 ล้านตันต่อปี จากเดิมในปี 2493 ที่อยู่แค่ราว 1.1 ล้านตันต่อปีเท่านั้น

ในปัจจุบันปริมาณการจับปลาซาร์ดีนได้ลดลงเหลืออยู่ราว3-4 ล้านตันต่อปี เนื่องจากมีกฎหมายควบคุมการทำประมงที่มากเกินความจำเป็น (Over Fishing)

ซึ่งจุดเริ่มต้นของปลาซาร์ดีน หรือ ปลาแมกเคอเรล ในซอสมะเขือเทศ ที่เราคุ้นเคยจริงๆแล้วนั้น ไม่มีหลักฐานหรือบันทึกที่ชัดเจน แต่คาดว่ากำเนิดขึ้นในประเทศสเปนและอิตาลี

โดยความแตกต่างระหว่างปลาทั้งสองชนิดนี้ ก็คือ ปลาซาร์ดีนจะเป็นกลุ่มปลาหลังเขียว มีรูปร่างเพรียวยาว ลำตัวกลม มีเกล็ดใหญ่และหยาบ มีกลิ่นทะเล เนื้อนิ่ม และรสชาติหวาน

ส่วนปลาแมกเคอเรลนั้น จริงๆแล้ว คือ ปลาทู (Short-Bodied Mackerel) ที่มีขนาดเล็กและไม่ได้ขนาด ผิวมีลักษณะเป็นเกล็ดละเอียดสีเงินมันวาว โดยจะมีเนื้อแน่นและมีความมันมากกว่าปลาซาร์ดีน

ปัจจุบัน ตลาดปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศของประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาด คือ ปลากระป๋องตราสามแม่ครัว 30-40% ปลากระป๋องโรซ่า 15% ซูเปอร์ซีเชฟ 10% และยี่ห้ออื่นๆ 35-45%

ที่มา ลงทุนแมน

บันทึกการเข้า

ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 83.0.4103.97 Chrome 83.0.4103.97


ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 15 มิถุนายน 2563 22:26:27 »



https://f.ptcdn.info/706/053/000/owisoug5bfPym2At4iX-o.jpg
ประวัติศาสตร์ ปลากระป๋อง


รูปนโปเลียนขี่ม้าที่เทือกเขาแอลป์


http://www.foodnetworksolution.com/uploaded/Nicolas%20appert.jpg
ประวัติศาสตร์ ปลากระป๋อง

นิโคลัส แอปเปิร์ต (Nicolus Appert) เป็นพ่อครัว ชาวฝรั่งเศส ผู้คิดค้นวิธีการผลิตอาหารกระป๋อง (canning) ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งการผลิตอาหารกระป่อง (father of canning) เขาได้รับรางวัลจากรัฐบาลฝรั่งเศส ในปีค.ศ. 1809 ซึ่งในขณะนั้นมีนโปเลียน เป็นผู้ปกครอง ได้ตั้งรางวัล 12,000 ฟรังส์ สำหรับผู้ที่คิดค้นวิธีการเก็บถนอมอาหารเพื่อใช้สำหรับกองทัพ วิธีการของ แอปเปิร์ต คือบรรจุอาหารในขวดแก้วปากกว้าง (jar) และปิดให้แน่น ด้วยจุกคอร์ก เคลือบด้วยไข (wax) แล้วนำไปต้มในน้ำเดือด


บันทึกการเข้า

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.213 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 15 เมษายน 2567 02:51:43