27 เมษายน 2567 01:26:44
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
นั่งเล่นหลังสวน
สุขใจ ห้องสมุด
สยาม ในอดีต
.:::
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา (อ่าน 1247 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 2325
ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 85.0.4183.121
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา
«
เมื่อ:
05 ตุลาคม 2563 15:04:10 »
Tweet
…ถ้าเจ้าได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ในกระบวนพี่น้องทั้งหมด จะมีพระองค์หญิงหนึ่งองค์
และพระองค์ชายอีกหนึ่งองค์ ทรงกระทำความผิดเป็นมหันตโทษ
ขอให้ไว้ชีวิตพระองค์เจ้าพี่น้องทั้งสององค์ด้วย…
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นสมัยที่ไทยเริ่มเปิดประเทศมีสัมพันธไมตรีกับประเทศทางตะวันตกอย่างเต็มใจ
ทรงเริ่มจากการศึกษาภาษาเพื่อสื่อความหมายให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ต่อจากนั้นก็ทรงเปลี่ยนแปลงปรับปรุงบ้านเมืองด้านต่างๆ ให้สอดคล้องกับการที่จะคบหาสมาคมในฐานะประเทศที่เสมอกัน เช่นด้านสาธารณูปโภค โปรดให้สร้างถนนหนทาง สร้างอาคารแบบใหม่ ดูแลเอาใจใส่เรื่องความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ตลอดจนเน้นเรื่องคุณภาพชีวิตของราษฎร
ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี โปรดอนุโลมให้เป็นไปตามแบบที่นิยมกันในอารยประเทศ แต่ก็ยังคงรักษาประเพณีดั้งเดิมซึ่งเป็นเครื่องแสดงความเป็นชาติไทย โดยเฉพาะพระราชสำนักฝ่ายในนั้น ในสมัยนี้ได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด นับแต่เรื่องการอภิบาลพระราชโอรสธิดา ซึ่งเดิมเคยอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของพระมารดาและพี่เลี้ยงนางนม มิใคร่ทรงมีโอกาสได้ใกล้ชิดพระบรมราชชนก แต่ในรัชสมัยนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ พระราชทานความรักและพระราชวโรกาสให้พระเจ้าลูกเธอทั้งปวงได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์ โดยไม่มีขนบประเพณีมาเป็นเครื่องกีดขวาง เรื่องนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงเล่าไว้ในหนังสือเรื่อง พระประวัติตรัสเล่า ความตอนหนึ่งว่า
“…พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระเมตตาแก่พระราชโอรสและพระราชธิดายิ่งนัก เสมอด้วยบิดากับบุตรแห่งชนสามัญทั้งปวง ทรงอุ้มชูชมเชยมิได้ทรงรังเกียจ และมิได้ทรงถือเกียรติยศอย่างหนึ่งอย่างใดเลย…”
พระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์ทรงมีโอกาสตามเสด็จพระราชบิดา ประพาสนอกวังทั้งใกล้และไกลอยู่เนืองๆ ทรงมีโอกาสได้พบเห็นและรับรู้เรื่องราวความเป็นอยู่ของผู้คนภายนอกกำแพงพระบรมมหาราชวัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าไว้ว่า
“…เวลามีเมล์จากต่างประเทศ พระเจ้าลูกเธอก็ทรงยินดี เพราะมักมีผู้ส่งของเข้ามาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ บางทีมีของเล่นแปลกๆ ก็ได้รับพระราชทานเนืองๆ บางทีเสด็จประพาส เวลาบ่ายทรงแวะห้างฝรั่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่ตึกหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรย์ หรือเสด็จแวะตามร้านทรงซื้อของเล่นหรือของเสวยมาพระราชทานพระเจ้าลูกเธอเสมอ…” และทรงเล่าเรื่องตามเสด็จพระราชดำเนินประพาสหัวเมืองว่า “…ในตอนปลายรัชกาลที่ 4 มีการเสด็จพระราชดำเนินหัวเมืองหลายครั้ง หัวเมืองที่โปรดนั้นมีกรุงเก่า เพชรบุรี นครปฐม และประจวบเป็นที่สุด การเสด็จแต่ละครั้งเป็นกระบวนใหญ่ ฝ่ายในที่เป็นชั้นเอกได้ตามเสด็จมาก….”
นอกจากนี้ พระราชนารีในพระราชสำนักฝ่ายในยังทรงมีโอกาสได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางกว่าพระราชนารีในรัชสมัยที่ผ่านมา เพราะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จ้างแหม่มแอนนา เลียว โนเวนส์ สุภาพสตรีชาวอังกฤษเข้ามาสอนภาษาอังกฤษและความรู้เกี่ยวกับประเทศต่างๆ อีกทั้งยังทรงมีโอกาสได้พบปะสมาคมกับชาวต่างประเทศอย่างค่อนข้างอิสระ โดยเฉพาะพระราชนารีรุ่นใหญ่ 3 พระองค์ ซึ่งทรงเจริญพระชันษาไล่เลี่ยกัน คือ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา พระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี และพระองค์เจ้าโสมาวดีศรีรัตนราชธิดา พระเจ้าลูกเธอทั้ง 3 พระองค์นี้ทรงมีโอกาสใกล้ชิดกับพระบรมราชชนกมากกว่าพระราชธิดาพระองค์อื่น ในการเสด็จประพาสหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนปลายรัชสมัยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความอิสรเสรีที่พระราชนารีเหล่านี้ทรงได้รับ ดังที่เซอร์ แฮรี ออด เล่าไว้ในบันทึกการเดินทางครั้งนั้นว่า “…ส่วนพระเจ้าลูกเธอพระองค์หญิง 3 พระองค์ที่มีพระชนมายุสูงกว่าก็ทรงพระโฉมศุภลักษณ์ เสียแต่เสวยหมาก ถ้าไม่ย้อมพระทนต์ตามธรรมเนียมของชาวสยามแล้ว ต้องชมว่าเป็นสตรีที่ทรงกัลยาณีเลิศลักษณ์ทีเดียว พระกิริยามารยาทก็น่าชมและตรัสภาษาอังกฤษได้ทุกพระองค์…”
บันทึกถึงพระจริยวัตรในการเสด็จประพาสครั้งนี้ว่า “…พระองค์เจ้าหญิงที่ทรงพระเจริญเป็นผู้ทรงเลี้ยงเครื่องดื่ม…” และ “…ขณะเมื่อท่านเจ้าเมืองเฝ้าพระเจ้าแผ่นดินอยู่นั้น พระเจ้าลูกเธอทั้งพระองค์เจ้าหญิงและพระองค์เจ้าชายได้ทรงต้อนรับพวกที่ไปกับท่านเจ้าเมืองที่ในท้องพระโรง ทรงแจกการ์ดและพระรูปถ่ายแก่พวกเหล่านั้น และทรงแสดงความหวังในที่พระเจ้าแผ่นดินคงจะได้เสด็จประพาสเมืองสิงคโปร์…”
ท่ามกลางการเลี้ยงดูพระเจ้าลูกเธอตามแบบสมัยใหม่นี้ ทรงมีความห่วงใยถึงชีวิตในภายภาคหน้าของพระราชโอรสธิดาทุกพระองค์ ปรากฏความห่วงใยนี้ชัดเจนในหนังสือเทศนาพระราชประวัติ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 5 ความตอนหนึ่งว่า “…แต่พ่อขอเสียเป็นอันขาดทีเดียว คิดถึงคำพ่อสั่งสอนให้มากนักหนา อย่าสูบฝิ่น แลอย่าเล่นผู้หญิงที่ชั่ว อย่าเล่นเพื่อนกับใครเลย มีผัวมีเถิด แต่อย่าให้ปอกลอกเอาทรัพย์ของเจ้าไปได้นัก…”
เมื่อจะเสด็จสวรรคตก็ตรัสฝากฝังพระเจ้าลูกเธอกับสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ เสนาบดีผู้ใหญ่ ไว้ว่า
“…ข้าเป็นคนลูกมากรากดก แล้วลูกก็ยังเล็กเด็กอยู่ ไหนคุณศรีสุริยวงศ์ก็ได้อุปถัมภ์บำรุงข้ามา ถ้าข้าไม่มีตัวแล้วขอให้คุณศรีสุริยวงศ์อุปถัมภ์บำรุงลูกข้าเหมือนอย่างตัวข้า ขออย่าให้มีภัยอันตราย เป็นที่กีดขวางด้วยการแผ่นดิน ถ้าจะมีความผิดสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นข้อใหญ่ ขอแต่ชีวิตไว้ให้เป็นแต่โทษเนรเทศ…”
แม้จะทรงมีความห่วงใยมากมายเพียงใดก็ตาม แต่วิถีชีวิตของแต่ละคนก็ย่อมต้องเป็นไปตามกรรมลิขิตไม่เว้นฟ้าเว้นดินดังวิถีชีวิตของพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา พระราชธิดาพระองค์หนึ่งในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา ทรงเป็นพระราชธิดาประสูติแต่เจ้าจอมมารดาแพ ธิดาพระสำราญหฤทัย (อ้าว ธรรมสโรช) ข้าหลวงเดิมซึ่งทรงให้ความไว้วางพระราชหฤทัยมากคนหนึ่ง นับเป็นพระราชธิดาพระองค์แรกซึ่งประสูติเมื่อทรงพระบรมราชาภิเษกแล้ว เล่ากันว่า
เป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเชี่ยวชาญวิชาการด้านโหราศาสตร์จึงน่าจะทรงรู้ถึงพระชาตาของพระเจ้าลูกเธอทุกพระองค์เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้จึงทรงมีพระราชกระแสกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ กรมขุนพินิตประชานาถ ความว่า “…ถ้าเจ้าได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ในกระบวนพี่น้องทั้งหมด จะมีพระองค์หญิงหนึ่งองค์ และพระองค์ชายอีกหนึ่งองค์ ทรงกระทำความผิดเป็นมหันตโทษ ขอให้ไว้ชีวิตพระองค์เจ้าพี่น้องทั้งสององค์ด้วย…”
พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา
คำทำนายปรากฏเป็นความจริงเมื่อพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา หรือที่ชาววังออกพระนามว่า “เสด็จพระองค์ใหญ่” หรือ “เสด็จพระองค์ใหญ่ยิ่ง” ซึ่งอยู่ในฐานะพระเชษฐภคินี พระชนมายุได้กว่า 30 พรรษา “ได้กระทําความผิดเป็นมหันตโทษ” ดังความในจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันลงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ จ.ศ. 1248 (พ.ศ. 2429) บันทึกไว้ว่า “เกิดความเป็นที่เสื่อมเสียพระเกียรติยศ คือพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ ซึ่งเดิมว่าเป็นโรคท้องมานนั้น ปวดครรภ์แลคลอดออกมาเป็นลูกชายที่เรือนภายในพระบรมมหาราชวัง สมเด็จกรมพระภาณุพันธ์ฯ กรมหมื่นนเรศร กรมหมื่นอดิศร กรมหลวงดำรง ได้จัดการที่จะชำระพิจารณาการที่ได้เกิดขึ้นต่อไป แต่ลูกนั้น เอาออกไปไว้วังกรมหมื่นอดิศรอุดมเดช
เวลา 10 ทุ่ม สมเด็จกรมพระภาณุพันธ์วงศ์วรเดช กรมหลวงเทววงศ์ได้ออกไปเมืองเพชรบุรี นำความนี้ออกไปกราบบังคมทูลพระกรุณา
ส่วนการภายใน กรมหมื่นอดิศรได้สืบสาวชำระได้ตัวอีเผือก บ่าวพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ ซึ่งเป็นผู้ชักสื่อ แลอ้ายโต ผู้ล่วงพระราชอาญามาถาม ได้ความว่ารักใคร่กันมาตั้งแต่ยังเป็นภิกษุอยู่ในวัดราชประดิษฐ์จนอ้ายโตสึกมา พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ได้หาตึกให้อยู่ที่ถนนเจริญกรุงแล้วลอบปืนเข้าไปในพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท เข้าไปนอนอยู่กับพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ 4 คราว คราวละคืนบ้าง 2 คืนบ้าง ได้มีเรื่องราวโดยพิสดาร”
ครั้นทรงทราบใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว ต่อมาอีก 2-3 วัน ได้เสด็จออกทรงสั่งเรื่องความผิดในวังคราวนี้ว่าทั้งคู่ประพฤติการชั่วอย่างอุกฤษฎ์ อย่างนี้เป็นมหันตโทษตามกฎมณเฑียรบาลว่า 1. ควรริบราชบาตรเป็นหลวง 2. ให้ถอดจากยศและบรรดาศักดิ์ 3. ลงพระราชอาญา 90 ที (เมี่ยน) แล้วประหารชีวิต (นี่คือโทษตามระบิลกฎมณเฑียรบาลเดิมที่มีอยู่)
แต่โดยที่ทางฝ่ายสตรีเป็นเชื้อพระวงศ์ยังทรงมีพระมหากรุณาอยู่ จึงโปรดเกล้าฯ เพียงให้ริบราชบาตรสวิญญาณกทรัพย์ อวิญญาณกทรัพย์เข้าเป็นของหลวงสำหรับจ่ายซ่อมแปลงพระอารามและสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างไว้ ทั้งพระราชทานอภัยโทษเฆี่ยน 90 ที (3 ยก) กับโทษประหารชีวิตนั้นให้ยกเสียด้วย เพียงให้ถอดจากยศบรรดาศักดิ์เจ้าลงเป็นหม่อม และเรียกชื่ออย่างคนธรรมดาสามัญ เอาตัวจำไว้ ณ คุกข้างใน (สนม) นอกจากนั้นให้ทำตามคำของลูกขุนผู้พิจารณาปรับโทษ ซึ่งหมายถึงฝ่ายชายผู้ล่วงพระราชอาญาต้องรับโทษตามกฎมณเฑียรบาลทุกประการ
ความผิดมหันตโทษครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ได้ทรงทำตามพระราชกระแสขอร้องของสมเด็จพระบรมราชชนกแล้วทุกประการ และยังทรงมีพระราชดำริป้องกันเหตุการณ์มิให้เกิดซ้ำรอยขึ้นอีก ดังปรากฏข้อความในพระราชบัญญัติเกี่ยวกับพระภิกษุสงฆ์และพระราชสำนักฝ่ายใน ความว่า “
ห้ามมิให้พระภิกษุสงฆ์ที่มีพรรษาต่ำกว่ายี่สิบ (หมายถึงบวชมายังไม่ถึงยี่สิบปี) มิให้เข้าในพระบรมมหาราชวังชั้นใน ส่วนฝ่ายหญิงอุบาสิกาผู้ใฝ่พระธรรมเพียงไรก็ตาม ถ้าอายุต่ำกว่า 40 ปีแล้วไซร้ ห้ามมิให้ออกมาฟังเทศน์ ถืออุโบสถศีลที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นอันขาด ประกาศมา ณ วันศุกร์ เดือน 3 แรม 11 ค่ำ ปีจอ อัฐศก ศักราช 1248 อันเป็นวันที่ 6644 ในรัชกาลปัจจุบัน (ที่ 5)
”
แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้น แต่ความหม่นหมองในพระราชหฤทัยยังคงอยู่เห็นได้ชัดในพระราชหัตถเลขาที่ทรงกราบทูลกรมพระปวเรศวริยาลงกรณ์ระบายความทุกข์เรื่องของบ้านเมืองเกี่ยวกับข้อบาดหมางระหว่างวังหลวงกับวังหน้า มีข้อความที่ทรงกล่าวถึงพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา ว่า “…เห็นท่านพระองค์ใหญ่ยิ่งเยาวลักษณ์ครั้งนี้ก็โซมมากทีเดียว กลัวหม่อมฉันจะเป็นบ้าง แต่จะเพียงนั้นหรือจะยิ่งกว่านั้นก็ไม่ทราบ…”
ข้อความในพระราชหัตถเลขาบ่งบอกถึงความไม่สบายพระทัยของพระองค์และสภาพของพระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าคงจะทรงทุกข์ร้อนและตรอมพระทัยในเหตุการณ์ครั้งนั้น จน สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2429 รวมพระชนมายุเพียง 35 พรรษา
ถ้าจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าคิดว่า หากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงมีพระชนมายุอยู่ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจจะไม่เกิดขึ้น เพราะหากไม่เป็นเพราะความรู้สึกรักและเกรงพระทัยอันเป็นธรรมดาของลูกที่มีต่อพ่อแล้ว ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งอาจบอกเหตุว่าเหตุการณ์นี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ก็คือพระราชดำริที่ก้าวไกลและทันสมัย เข้าพระทัยความเป็นไปของโลกและความเป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์เป็นอย่างดี ดังปรากฏในหลักฐานเอกสารหลายแห่ง เช่น ในประกาศพระราชทานอนุญาตให้ข้าราชการฝ่ายในทูลลาออกนอกราชการได้ มีความตอนหนึ่งว่า “…ข้าพเจ้าคิดจะเปลื้องความลำบากที่ผู้หญิงเป็นอันมาก มาต้องยัดเยียดเบียดเสียดกันอยู่เปลืองอายุไป…” และ “…ผู้หญิงที่เป็นเมียข้าพเจ้าอยู่ก่อนลาออกไปมีผัวอยู่ข้างนอกกันหลายคน ตัวของหญิงเหล่านั้นกับข้าพเจ้าก็ดีกันหมดไม่ได้ขัดเคืองกระดากกระเดื่องกับใคร…”
และในพระบรมราโชวาทที่โปรดพระราชทานแก่พระราชธิดาก็มีข้อความว่า “…อย่าเล่นเพื่อนกับใครเลย มีผัวมีเถิด…”
จากหลักฐานพระราชดำรินี้จึงทําให้น่าที่จะคิดได้ว่า หากทรงมีพระชนมายุยืนยาว ความเปลี่ยนแปลงในพระราชสำนักฝ่ายในเกี่ยวกับการที่พระราชธิดาจะทรงอภิเษกสมรสตามพระทัยโดยความเห็นชอบของพระบรมราชชนก อาจเกิดขึ้นในรัชกาลนี้ก็เป็นได้
เรื่อง -
silpa-mag.com
«
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 ตุลาคม 2563 15:06:06 โดย 自由人
»
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...