[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 00:16:21 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ปารายนานุสังคีติคาถา  (อ่าน 2302 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 15:30:44 »




ปารายนานุสังคีติคาถา
คัดลอกจากหนังสือโสฬสปัญหา  หน้า ๒๗๗ - ๒๘๑
จัดพิมพ์โดยมหามกุฎราชวิทยาลัย  ในพระบรมราชูปถัมภ์
ปี พ.ศ.๒๕๓๐
Posted by อักษราภรณ์

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่  ณ  ปาสาณกเจดีย์ในมคธชนบทได้ตรัสปารายนสูตรนี้  อันพราหมณ์มาณพ  ๑๖  คน  ผู้เป็นบริวารของพราหมณ์พาวรี  ทูลอาราธนาแล้ว  ได้ตรัสพยากรณ์ปัญหา  แม้หากว่าการกบุคคลรู้ทั่วถึงอรรถ  รู้ทั่วถึงธรรมแห่งปัญหาหนึ่ง ๆ  แล้วพึงปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรมไซร้   การกบุคคลนั้นก็พึงถึงฝั่งโน้นแห่งชราและมรณะได้แน่แท้  เพราะธรรมเหล่านี้  เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่การถึงฝั่งโน้น  เพราะเหตุนั้น  คำว่า  ปารายนะ  จึงเป็นชื่อแห่งธรรมปริยายนี้.

พราหมณ์มาณพผุ้อาราธนาทูลถามปัญหา  ๑๖  คนนั้น  คืออชิตมาณพ ๑  ติสสเมตเตยยมาณพ ๑  ปุณณกมาณพ ๑  เมตตคูมาณพ ๑  โธตกมาณพ ๑  อุปสีวมาณพ ๑  นันทมาณพ ๑  เหมกมาณพ ๑  โตเทยยมณพ ๑  กัปปมาณพ ๑  ชตุกัณณีมาณพ ๑  ภัทราวุธมาณพ ๑  อุทยมาณพ ๑  โปสาลมาณพ ๑  โมฆราชมาณพผู้มีปัญญา ๑  ปิงคิยมาณพผุ้แสวงหาคุณอันใหญ่ ๑  พราหมณ์มาณพทั้ง  ๑๖  คนนี้  ได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันใหญ่  ทรงมีจรณะอันสมบูรณ์  พราหมณ์มาณพทั้ง  ๑๖  คน  ได้เข้าไปเฝ้าทูลถามปัญหาอันละเอียด  กะพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด.

พระพุทธเจ้าผู้เป็นมุนีได้ตรัสพยากรณ์ปัญหาที่พราหมณ์มาณพเหล่านั้นทูลถามแล้วตามที่เป็นจริง  ทรงให้พราหมณ์มาณพทั้งหลายยินดีแล้ว  ด้วยการตรัสพยากรณ์ทุกปัญหา

พราหมณ์มาณพทั้ง  ๑๖  คนเหล่านั้น  อันพระพุทธเจ้าผู้เป็นเผ่าพันธุ์พระอาทิตย์ผู้มีจักษุให้ยินดีแล้ว  ได้ประพฤติพรหมจรรย์ในสำนักของพระพุทธเจ้า  ผู้มีพระปัญญาอันประเสริฐ.

เนื้อความแห่งปัญหาหนึ่ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้วด้วยประการใด  ผู้ใดพึงปฏิบัติตามด้วยประการนั้น  ก็พึงจากฝั่งนี้ไปถึงฝั่งโน้นได้  ผู้นั้นเจริญมรรคอันอุดมอยู่  ก็พึงจากฝั่งนี้ไปถึงฝั่งโน้นได้  ธรรมปริยายนั้นเป็นทางเพื่อไปสู่ฝั่งโน้น  เพราะฉะนั้น  ธรรมปริยายนั้นจึงชื่อว่า  ปารายนะ.

ปิงคิยมาณพกล่าวคาถาว่า            
           
           อาตมาจักขับตามภาษิตเครื่องไปยังฝั่งโน้น  (อาตมาขอกล่าวตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเห็นด้วยพระญาณ)  พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐ  ปราศจากมลทิน  มีพระปัญญากว้างขวาง  ไม่มีความใคร่  ทรงดับกิเลสได้แล้ว  จะพึงตรัสมุสาเพราะเหตุอะไร.

เอาเถิด  อาตมาจักแสดงวาจาที่ควรเปล่ง  ประกอบด้วยคุณของพระพุทธเจ้าผู้ทรงละความหลงอันเป็นมลทินได้แล้ว  ทรงละความถือตัวและความลบหลู่ได้เด็ดขาด.

ดูก่อนท่านพราหมณาจารย์  พระพุทธเจ้าทรงบรรเทาความมืด  มีพระจักษุรอบคอบ  ทรงถึงที่สุดของโลก  ทรงล่วงภพได้ทั้งหมด  ไม่มีอาสวะ  ทรงละทุกข์ได้ทั้งปวง  มีพระนามตามความเป็นจริงว่า  พุทโธ  อันอาตมาเข้าเฝ้าแล้ว.

นกพึงละป่าเล็ก  แล้วมาอยู่อาศัยป่าใหญ่อันมีผลไม้มาก  ฉันใด  อาตมา  มาละคณาจารย์ผู้มีความเห็นน้อยแล้ว  ได้ประสบพระพุทธเจ้าผู้มีความเห็นประเสริฐเหมือนหงส์โผลงสู่สระใหญ่  แม้ฉันนั้น

ก่อนแต่ศาสนาของพระโคดม  อาจารย์เหล่าใด  ได้พยากรณ์ลัทธิของตนแก่อาตมาในกาลก่อนว่า  เหตุนี้ได้เป็นมาแล้วอย่างนี้  จักเป็นอย่างนี้  คำพยากรณ์ของอาจารย์เหล่านั้นทั้งหมด  ไม่ประจักษ์แก่ตน  คำพยากรณ์ทั้งหมดนั้น  เป็นเครื่องทำความตรึกให้ทวีมากขึ้น  (อาตมาไม่พอใจในคำพยากรณ์นั้น)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 15:50:58 »



พระโคดมพระองค์เดียว  ทรงบรรเทาความมืด  สงบระงับ  มีพระรัศมีโชติช่วง  มีพระปัญญาเป็นเครื่องปรากฏดุจแผ่นดิน  มีพระปัญญากว้างขวาง  ได้ทรงแสดงธรรมอันบุคคลพึงเห็นเอง  ไม่ประกอบด้วยกาล  เป็นที่สิ้นตัณหา  ไม่มีจัญไร  หาอุปมาในที่ไหน ๆ มิได้  แก่อาตมา

พราหมณ์พาวรีผู้อาจารย์กล่าวคาถากะพระปิงคิยะว่า

            ท่านปิงคิยะ  พระโคดมพระองค์ใดได้ทรงแสดงธรรมอันบุคคลพึงเห็นเอง  ไม่ประกอบด้วยกาล  เป็นที่สิ้นตัณหา  ไม่มีจัญไร  หาอุปมาในที่ไหน ๆ มิได้แก่ท่าน  เพราะเหตุไรหนอ  ท่านจึงอยู่ปราศจากพระโคดมพระองค์นั้น  ผู้มีพระปัญญาเป็นเครื่องปรากฏดุจแผ่นดิน  มีพระปัญญากว้างขวาง  สิ้นกาลแม้ครู่หนึ่งเล่า.

พระปิงคิยะกล่าวคาถาตอบพราหมณ์พาวรีผู้อาจารย์ว่า

            ท่านพราหมณ์  พระโคดมพระองค์ใดได้ทรงแสดงธรรมอันบุคคลพึงเห็นเอง  ไม่ประกอบด้วยกาล  เป็นที่สิ้นตัณหา  ไม่มีจัญไร  หาอุปมาในที่ไหน ๆ มิได้  แก่อาตมา  อาตมามิได้อยู่ปราศจากพระโคดมพระองค์นั้น  ผู้มีพระปัญญาเป็นเครื่องปรากฏดุจแผ่นดิน  มีพระปัญญากว้างขวาง  สิ้นกาลแม้ครู่หนึ่ง.

ท่านพราหมณ์  อาตมาไม่ประมาททั้งกลางคืนกลางวัน  เห็นอยู่ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้โคดมพระองค์นั้นด้วยใจ  เหมือนเห็นด้วยจักษุ  ฉะนั้น  อาตมานมัสการอยู่ซึ่งพระพระพุทธเจ้าผู้โคดมพระองค์นั้นตลอดราตรี  อาตมา  มาสำคัญความไม่อยู่ปราศจากพระพุทธเจ้าผู้โคดมพระองค์นั้น  ด้วยความไม่ประมาทนั้น.

ศรัทธา  ปีติ  มนะ  และสติของอาตมาย่อมน้อมไปในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าผู้โคดม  พระพุทธเจ้าผู้โคดม  ผู้มีพระปัญญากว้างขวาง  ประทบอยู่ยังทิศาภาคใด ๆ  อาตมานั้นเป็นผู้นอบน้อมไปโดยทิศาภาคนั้น ๆ นั่นแล.

ร่างกายของอาตมาผู้แก่แล้ว  มีกำลังและเรี่ยวแรงน้อยนั่นเอง  ท่านพราหมณ์อาตมาไปสู่พระพุทธเจ้าด้วยการไปแห่งความดำริเป็นนิตย์  เพราะว่าใจของอาตมาประกอบแล้วด้วยพระพุทธเจ้านั้น.

อาตมานอนอยู่บนเปือกตม  คือกามดิ้นรนอยู่  (เพราะตัณหา)  ลอยจากเกาะหนึ่งไปสู่เกาะหนึ่ง  ครั้งนั้นอาตมาได้เห็นพระสัมพุทธเจ้าผู้ทรงข้ามโอฆะได้แล้ว  ไม่มีอาสวะ.

(ในเวลาจบคาถานี้  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบความแก่กล้าแห่งอินทรีย์ของพระปิงคิยะและพราหมณ์พาวรีแล้ว  ประทับอยู่  ณ  นครสาวัตถีนั้นเอง  ทรงเปล่งพระรัศมีดุจทองออกไป  พระปิงคิยะกำลังนั่งพรรณนาพระพุทธคุณแก่พราหมณ์พาวรีอยู่  ได้เห็นพระรัศมีแล้วคิดว่า  นี้อะไร  เหลียวแลไป  ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าประหนึ่งประทับอยู่เบื้องหน้าตน  จึงบอกแก่พราหมณ์พาวรีว่า  พระพุทธเจ้าเสด็จมาแล้ว  พราหมณ์พาวรีได้ลุกจากอาสนะประคองอัญชลียืนอยู่  แม้พระผู้มีพระภาคเจ้า  เมื่อจะทรงแผ่พระรัศมีแสดงพระองค์แก่พราหมณ์พาวรี  ทรงทราบธรรมเป็นที่สบายของพระปิงคิยะและพราหมณ์พาวรีทั้งสองแล้ว  เมื่อจะตรัสเรียกแต่พระปิงคิยะองค์เดียว  จึงได้ตรัสพระคาถานี้ว่า)

ดูก่อนปิงคิยะ  พระวักกลิ  พระภัทราวุธะ  และพระอาฬวีโคดม  เป็นผู้มีศรัทธาน้อมลงแล้ว  (ได้บรรลุอรหัตด้วยศรัทธาธุระ)  ฉันใด  แม้ท่านก็จงปล่อยศรัทธาลง  ฉันนั้น  ดูก่อนปิงคิยะ  เมื่อท่านน้อมลงด้วยศรัทธา  ปรารภวิปัสสนา  โดยนัยเป็นต้นว่า  สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง  ก็จักถึงนิพพาน  อันเป็นฝั่งโน้นแห่งวัฏฏะอันเป็นบ่วงแห่งมัจจุราช.

พระปิงคิยะเมื่อจะประกาศความเลื่อมใสของตนจึงกราบทูลขึ้นว่า

            ข้าพระองค์นี้ยอมเลื่อมใสอย่างยิ่ง  เพราะได้ฟังพระวาจาของพระองค์ผู้เป็นมุนี  พระองค์มีกิเลสดุจหลังคาอันเปิดแล้ว  ตรัสรู้แล้วด้วยพระองค์เอง  ไม่มีกิเลสดุจเสาเขื่อน  ทรงมีปฏิภาณ  ทรงทราบธรรมเป็นเหตุกล่าวว่าประเสริฐยิ่ง  ทรงทราบธรรมชาติทั้งปวง  ทั้งเลวและประณีต  ด้วยพระอภิญญา  พระองค์เป็นศาสดาผู้กระทำที่สุดแห่งปัญหาทั้งหลาย  แก่เหล่าชนผู้มีความสงสัยปฏิญญาณอยู่  นิพพานอันกิเลสมีราคะเป็นต้นไม่พึงนำไปได้  เป็นธรรมไม่กำเริบ  หาอุปมาในที่ไหน ๆ มิได้.

ข้าพระองค์จักถึงอนุปาทิเสสนิพพานธาตุแน่แท้  ข้าพระองค์ไม่มีความสงสัยในนิพพานนี้เลย  ขอพระองค์จงทรงจำข้าพระองค์ว่า  เป็นผู้มีจิตน้อมไปแล้ว  (ในนิพพาน)  ด้วยประการนี้แล.





Credit by : http://www.oknation.net/blog/Aug-saraporn/2010/03/26/entry-1
ภาพจาก internet-ขออนุญาตใช้ภาพค่ะ

ขอบพระคุณที่มาทั้งหมดมากมาย
อนุโมทนาสาธุค่ะ
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 09 พฤษภาคม 2553 21:35:24 »



ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม





« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 พฤษภาคม 2553 21:40:39 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.85 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 22 กันยายน 2566 16:26:17