[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 12:49:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ศกุนตลา : ตำนานความรักที่เกือบพินาศเพราะคำสาป  (อ่าน 996 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ฉงน ฉงาย
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 9
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 453


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 88.0.4324.190 Chrome 88.0.4324.190


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 11 มีนาคม 2564 10:12:13 »



ศกุนตลา : ตำนานความรักที่เกือบพินาศเพราะคำสาป

https://s3-ap-southeast-1.amazonaws.com/media.storylog/storycontent/590731b8d14d51701b40d4aa/14936439710929113974.jpg
ศกุนตลา : ตำนานความรักที่เกือบพินาศเพราะคำสาป


           "ศกุนตลา" หนึ่งในเรื่องราวเล็กๆที่แทรกอยู่ในมหาภารตะ  ซึ่งต่อมากลายเป็นวรรณกรรม classic ที่ทรงคุณค่าของโลก ด้วยความงดงามของภาษาและเนื้อเรื่องที่สะเทือนใจ วันนี้ผมก็เลยขอนำมาเล่าเรื่องนี้แบบง่ายๆให้ได้อ่านกัน......เรื่องของศกุนตลานั้น มีจุดเริ่มต้นจาก "ฤาษีวิศวามิตร" ซึ่งเป็นอดีตกษัตริย์ที่สละราชบัลลังก์เพื่อแสวงหาหนทางที่สูงกว่านั้น เขาได้บำเพ็ญตบะจนมีฤทธิ์แกร่งกล้า จนพระอินทร์รู้สึกไม่สบายใจด้วยเกรงว่าจะมีฤทธิ์เหนือกว่าตน จึงวางแผนทำลายตบะของวิศวามิตรเสียโดยส่งนางอัปสรนามว่า "เมนกา" ลงไปใช้มารยาหญิงยั่วยวนให้ตบะแตกให้ได้ ตอนแรกวิศวามิตรก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เวลาผ่านไปก็เริ่มหลงเสน่ห์ไปทีละน้อยๆ สุดท้ายวิศวามิตรก็ตบะแตกและได้เมนกาเป็นภรรยาในที่สุด
           
           เวลาผ่านไป เมนกาก็ตั้งครรภ์และได้ให้กำเนิดเด็กหญิงตัวน้อยๆ ทว่า วิศวามิตรซึ่งหมดช่วงข้าวใหม่ปลามันบวกกับสำนึกว่าตนผิดพลาดครั้งใหญ่ได้ขอแยกทางกับเมนกาและออกไปบำเพ็ญเพียรยังที่ๆห่างไกล ด้านเมนกานั้นก็ไม่สามารถนำลูกสาวของตัวเองกลับสวรรค์ได้ จึงต้องตัดใจทิ้งลูกของตัวเองไว้กลางป่า ในช่วงแรกได้มีนกคอยดูแลป้องกันอันตรายต่างๆให้ จนวันหนึ่ง "ฤาษีกัณวะ" เดินทางผ่านมา แล้วได้ยินเสียงเด็กน้อยร้องไห้ จึงเดินตามเสียงและได้พบกับเด็กหญิงตัวน้อย ด้วยความสงสารจึงตั้งใจจะเลี้ยงเด็กคนนี้ ซึ่งฤาษีกัณวะได้ตั้งชื่อว่า "ศกุนตลา"
เวลาผ่านไป ศกุนตลาก็เติบโตเป็นสาวแรกรุ่นที่มีความงดงามเป็นอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพรรณนาความงามของศกุนตลาได้อย่างงดงามและประณีตยิ่ง โดยทรงบรรยายไว้ว่า..
กะจิตกะใจจะบำเพ็ญเพียร ทั้งสองจึงครองคู่กัน จนกระทั่งมีธิด



"ดูผิวสินวลละอออ่อน
มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น
สองเนตรงามกว่ามฤคิน
นางนี้เป็นปิ่นโลกา
งามโอษฐ์ดังใบไม้อ่อน
งามกรดังลายเลขา
งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า
งามยิ่งบุปผาเบ่งบาน..."


           ซึ่งศกุนตลาก็ได้อยู่รับใช้ฤาษีกัณวะผู้เป็นบิดาบุญธรรมเป็นอย่างดีเสมอกัน   จนกระทั่งวันหนึ่ง "ท้าวทุษยันต์" กษัตริย์แห่งหัสตินาปุระได้มาเที่ยวล่าสัตว์ในป่าใหญ่ เมื่อมาถึงบริเวณของอาศรมฤาษีกัณวะก็ตั้งใจว่าจะแวะนมัสการ แต่เผอิญว่าฤาษีกัณวะไม่อยู่ในอาศรมในช่วงนั้นพอดี เนื่องจากได้เดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมืองอื่นพอดี ถึงกระนั้นทุษยันต์ก็ได้พบกับศกุนตลาพอดี ดั่งกามเทพได้แผลงศรรักปักเข้ากลางใจของทั้งคู่ในวินาทีแรกที่สบตากัน ทั้งสองต่างตกหลุมรักซึ่งกันและกันทันที ประกอบกับเหล่าพราหมณ์และฤาษีทั้งหลายเมื่อทราบข่าวว่าทุษยันต์อยู่ที่อาศรมฤาษีกัณวะจึงไปหาทุษยันต์เพื่อความช่วยเหลือเนื่องจากมีเหล่าอสูรคอยมาปั่นป่วนจนไม่เป็นอันบำเพ็ญสมณกิจ จึงจะขอแรงให้ช่วยจัดการเหล่าอสูรเหล่านี้ ซึ่งทุษยันต์ก็ตอบรับคำของฤาษี โดยในช่วงที่ว่างจากการปราบอสูรทุษยันต์ก็พยายามจีบศกุนตลาตลอดเวลาด้วย

          จนเมื่อทั้งสองหนุ่มสาวได้อยู่ตามลำพังในป่าใหญ่ ด้วยแรงปรารถนาจากความรักอันสุดจะหักห้ามใจได้ ในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงปลงใจเป็นสามีภรรยากัน (ในธรรมเนียมอินเดียโบราณจะเรียกว่า "คนธรรพวิวาห์") และได้เสพสมรสรักอันแสนหอมหวานและสุขสมในร่มไม้ภายใต้แสงจันทร์ ทว่า เวลาแห่งความสุขนั้นแสนสั้นนัก เมื่อทุษยันต์เสร็จสิ้นภารกิจปราบอสูรแล้ว ด้วยหน้าที่ของกษัตริย์จึงจำต้องกลับไปบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะจากกัน ทุษยันต์ก็ได้มอบแหวนวงหนึ่งแทนใจ พร้อมกับให้คำมั่นแด่หญิงผู้เป็นที่รักว่า "โปรดจงรอคอยพี่หน่อยเถิดยอดรัก เมื่อกลับไปยังหัสตินาปุระ พี่จะกลับมารับน้องให้ถูกต้องตามธรรมเนียม จงรักษาตัวให้จงดี แล้วพี่จะรีบกลับมา..." เมื่อทุษยันต์จากไป ศกุนตลาก็ได้แต่คิดถึงทุษยันต์และรอวันเวลาที่คนรักของเธอจะกลับมารับตัวเธอไปตามคำสัญญา

          แต่แล้วลางร้ายก็ได้มาถึง เมื่อฤาษีทุรวาส ฤาษีจอมหัวร้อนได้เดินทางมาในบริเวณอาศรมฤาษีกัณวะเพื่อรับบริจาคทาน ทว่า ทุรวาสเรียกเท่าใดก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากภายในอาศรม เพราะศกุนตลานั้นป่วยเป็นไข้ใจเฝ้าแต่คิดถึงคนรักของตนจนไม่เป็นอันทำอะไร และไม่ได้ต้อนรับแขกผู้มาเยือน ทำให้ทุรวาสเกิดหัวร้อนขึ้นมาทันที พร้อมกับสาปศกุนตลาว่า... 

"ในเมื่อเจ้าเอาแต่คิดถึงคนรักของเจ้าจนไม่ออกมาต้อนรับข้า ข้าจึงขอสาปให้คนรักของเจ้าจดจำอะไรเกี่ยวกับตัวเจ้าไม่ได้เลย!"


          ศกุนตลาตกใจกับคำสาปอย่างมาก จึงได้ออกมาแสดงความเคารพพร้อมกับบอกเหตุผลและกล่าวขออภัยทั้งน้ำตา ด้านทุรวาสซึ่งอารมณ์เย็นลงแล้วและด้วยเห็นใจในความรักของศกุนตลา จึงให้พรเพื่อล้างคำสาปไปว่า... "เมื่อใดที่คนรักของเจ้าเห็นสิ่งที่เขามอบให้กับเจ้า ความทรงจำของเขาจะกลับมาดังเดิม..."

          เวลาผ่านไป ศกุนตลาก็ยังรอคอยคนรักอยู่ และตอนนี้นางก็ได้ตั้งครรภ์อ่อนๆแล้วด้วย ฤาษีกัณวะผู้เป็นบิดาซึ่งทราบเรื่องทั้งหมดในภายหลังจึงดำริหากปล่อยไว้เห็นจะเป็นการไม่ดี จึงบอกให้ศกุนตลาเดินทางไปยังหัสตินาปุระเพื่อไปหาทุษยันต์เสีย พร้อมกำชับว่าให้รักษาแหวนของทุษยันต์ให้จงดี ทว่าในระหว่างทาง ศกุนตลาได้พักชำระร่างกายโดยที่ไม่รู้เลยว่าแหวนนั้นตกน้ำและลอยไปตามกระแสน้ำเสียแล้ว เมื่อศกุนตลาไปถึงหัสตินาปุระก็ได้พบกับทุษยันต์ที่ท้องพระโรง ทว่า ท้าวเธอนั้นจำนางไม่ได้เสียแล้ว ศกุนตลาจึงหาแหวนวงนั้นมายืนยัน แต่กลับหายไปแล้ว ทุษยันต์จึงต่อว่าศกุนตลาว่าเป็นหญิงแพศยา เที่ยวโกหกพกลมว่าเป็นเมียของกษัตริย์ทั้งๆที่ตัวเองเป็นพราหมณ์ และสั่งขับไล่ให้ออกไปจากท้องพระโรงเสีย

          ด้านศกุนตลาเมื่อได้ยินถ้อยคำที่ทำร้ายจิตใจจากคนรักของนาง ก็ได้แต่ร้องไห้เสียใจและหนีออกมาจากท้องพระโรงด้วยทนถ้อยคำผรุสวาทไม่ไหว เมนกาผู้เป็นมารดาของศกุนตลารู้สึกสงสารที่ลูกสาวของตนต้องเจ็บปวดจากความรัก จึงลงมารับตัวลูกสาวไปส่งทีาอาศรมฤาษีกัณวะและช่วยดูแลลูกสาวของตนเป็นอย่างดี ต่อมาศกุนตลาก็ให้กำเนิดบุตรชาย ฤาษีกัณวะได้ตั้งชื่อให้กับหลานชายของตนว่า "ภรต"

          วันหนึ่ง ชาวประมงได้จับปลามาได้ตัวหนึ่ง ขณะที่กำลังชำแหละปลาก็พบแหวนวงหนึ่งอยู่ในท้องปลา เมื่อทราบว่าแหวนวงนี้เป็นของทุษยันต์จึงขอเข้าเฝ้าและถวายแหวนคืนแก่เจ้าของ ทันทีที่ทุษยันต์ได้รับแหวน ความทรงจำเกี่ยวกับศกุนตลาก็กลับมาดังเดิมพร้อมกับภาพที่ตนเองต่อว่าคนที่ตนรักว่าเป็นหญิงแพศยาพร้อมทั้งขับไล่ไปอย่างไม่ไยดี จึงบังเกิดความเสียใจเป็นอย่างมากที่ได้ทำร้ายจิตใจของศกุนตลาไปถึงขนาดนั้น จึงรีบสั่งให้จัดกระบวนใหญ่ไปหาศกุนตลาโดยทันที เมื่อไปถึงอาศรมทุษยันต์ได้กล่าวขอโทษต่อศกุนตลาและขอให้ยกโทษกับความผิดของตน ด้วยความรักที่มีอยู่ศกุนตลาก็ยกโทษให้ และทั้งคู่ก็ได้กลับไปยังหัสตินาปุระและครองรักอย่างมีความสุข

          ส่วนเจ้าชายตัวน้อยผู้มีนามว่าม"ภรต" นั้น เมื่อเติบใหญ่เขาได้ครองนครหัสตินาปุระแทนผู้เป็นบิดา และเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมจักรพรรดิผู้เกรียงไกรมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อินเดียโบราณ และนามของเขาได้กลายเป็นคำเรียกขานดินแดนและชาวอินเดียว่า "ภารตะ" นับแต่นั้นเป็นต้นมา...


ที่มา https://storylog.co/story/590731b8d14d51701b40d4aa

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ศกุนตลา พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
สุขใจ ใต้เงาไม้
Kimleng 8 5457 กระทู้ล่าสุด 04 มิถุนายน 2563 18:56:52
โดย Kimleng
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.387 วินาที กับ 33 คำสั่ง

Google visited last this page 23 มีนาคม 2567 20:59:54