[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 เมษายน 2567 14:07:43 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ความเป็นมาที่ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภริยาได้ 4 คนตามกฎหมายของหลายประเทศ  (อ่าน 530 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2322


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.106 Chrome 91.0.4472.106


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 29 มิถุนายน 2564 11:55:41 »



ความเป็นมาที่ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภริยาได้ 4 คนตามกฎหมายของหลายประเทศ
รศ.โกวิท  วงศ์สุรวัฒน์

ความจริงในปัจจุบันหลายสังคมทั่วโลกการที่ผู้ชายมีภริยาได้หลายคนนั้นมักเป็นเรื่องข้อยกเว้นจะมีเฉพาะ แต่ในกลุ่มคนส่วนน้อยที่มีฐานะความเป็นอยู่มีเงินทองเหลือเฟือฟายและสังคมยอมรับได้ เป็นการทั่วไปผู้ชายส่วนใหญ่มักจะมีภริยาเพียงคนเดียวหรือทีละคนด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและสังคม

นี่คือเราพูดถึงตำแหน่งภริยาอย่างเป็นทางการนะครับ เราไม่นับกิ๊ก ชู้ เมียน้อย บ้านเล็ก เด็ก น้อง หรือชื่อเรียกใครก็ตามที่ผู้ชายจะสรรหามาสถาปนาผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์นอกสมรสกับตัวเอง

ใน 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ชาวไทยมุสลิมได้รับสิทธิพิเศษตามกฎหมายอิสลามว่าด้วยครอบครัวและมรดก หรือ "พ.ร.บ.ว่าด้วยการใช้กฎหมายอิสลามในเขตจังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และสตูล พ.ศ.2489"
ทำให้ชาวไทยมุสลิมในพื้นที่นี้สามารถแต่งงานหรือหย่าร้างกันได้ โดยไม่ต้องไปทำธุรกรรมจดทะเบียนสมรสหรือจดทะเบียนหย่าในที่ว่าการอำเภอหรือจังหวัด ขอเพียงมีผู้นำศาสนาอิสลามในชุมชนหรือคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเห็นด้วยแล้วออกใบอนุญาตให้ก็เพียงพอแล้ว

พูดง่ายๆ ว่าผู้ชายไทยมุสลิมในเขต 4 จังหวัดดังกล่าวสามารถมีภริยาได้ถึง 4 คนในเวลาเดียวกันตามกฎหมายนั่นเอง

แต่บรรดาผู้ชายมุสลิมที่ผู้เขียนรู้จักคุ้นเคยดีไม่มีสักคนเดียวเลยที่มีภริยาเกินกว่า 1 คนเมื่อผู้เขียนถามในเรื่องนี้ก็ได้คำตอบคล้ายๆ กัน คือ "มีเมียคนเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะหาเรื่องยุ่งยากใส่ตัวไปทำไม" ซึ่งเป็นข้อสังเกตที่น่าสนใจมาก
เพราะเรากำลังพูดถึงผู้หญิงที่มีฐานะเป็นภริยาอย่างเป็นทางการ ศาสนารับรู้ สังคมรับรู้ เพราะในศาสนาอิสลาม กิ๊ก เมียน้อย เมียเก็บ บ้านเล็ก เด็กไซด์ไลน์ เหล่านี้เป็นสิ่งต้องห้ามนะครับ เป็นความผิด เป็นบาป

เวลาที่เค้าใช้คำว่า ภริยา หมายถึงภริยาจริงๆ และความรับผิดชอบทุกสิ่งอย่างที่ตามมากับสถานะความเป็นภริยานั้น

ประวัติความเป็นมาที่ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภริยาได้ 4 คน อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นเกิดขึ้นในสมัยเมื่อศาสดามะหะหมัดยังมีชีวิตอยู่ท่านเห็นว่าบรรดาผู้ชายอาหรับต้องทำหน้าที่ออกรบและล้มตายไปเป็นจำนวนมากทิ้งให้ภริยาต้องเป็นหม้ายไม่มีใครคอยปกปักดูแลความปลอดภัย

ศาสดาจึงบัญญัติให้ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภริยาได้ถึง 4 คนเพื่อช่วยเหลือดูแลหญิงหม้ายเหล่านี้แต่ศาสดาได้บัญญัติไว้ในพระคัมภีร์อัลกุรอาน บทอันนิซาอ์ โองการที่ 3 ได้ระบุไว้ว่า "จงแต่งงานกับผู้ที่ดีแก่พวกเจ้า ในหมู่สตรี 2 คน หรือ 3 คน หรือ 4 คน แต่ถ้าพวกเจ้าเกรงว่าพวกเจ้าจะให้ความยุติธรรมไม่ได้ ก็จงมีแต่หญิงเดียว"

ในทางปฏิบัติก็คือ "หากคิดจะมีภรรยามากกว่าหนึ่ง สามีต้องให้ความเสมอภาคแก่ภรรยาทุกคนได้ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่าย เสื้อผ้า การร่วมหลับนอน และในเรื่องที่เป็นความต้องการจากปัจจัยยังชีพที่จำเป็น"

ดังนั้นจึงเป็นภาระหนักแก่ฝ่ายชายนะครับ เพราะความหมายของพระคัมภีร์อัลกุรอาน บทอันนิซาอ์โองการที่ 3 ดังกล่าวข้างต้นว่า การมีภริยาหลายคนนั้นแม้จะเป็นที่อนุญาต

แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขและขอบเขตที่เข้มงวด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมในขณะที่การมีภริยาคนเดียวเป็นเรื่องที่ศาสนาอิสลามส่งเสริมมากที่สุด ด้วยเหตุผลที่ว่าการจะให้ความยุติธรรมเท่าเทียมแก่ภริยาทั้งหมดในทุกๆ แง่มุมเป็นเรื่องที่ปฏิบัติยาก เพราะหลักการที่จะมีภริยาคนที่ 2 ภริยาคนที่ 3 หรือภริยาคนที่ 4 ก็ต้องกระทำตามหลักศาสนาอิสลามอย่างที่กระทำกับภริยาคนที่ 1

กล่าวคือ ต้องมีการสู่ขอ มีพิธีแต่งงาน (นิกะฮ์) อย่างถูกต้องตามหลักการศาสนา ภริยาคนที่ 2 ภริยาคนที่ 3 หรือภริยาคนที่ 4 ต้องได้รับสิทธิจากสามีอย่างเท่าเทียมกับภรรยาคนที่ 1 บุตรที่เกิดมาจากภริยาทุกคน ก็คือบุตรของสามีทุกคนมีการใช้นามสกุลบิดา มีการอบรมสั่งสอน การส่งบุตร เล่าเรียน รวมถึงค่าเลี้ยงดู (นะฟาเกาะฮ์) การแบ่งเวรในแต่ละวันให้แก่ภริยาแต่ละคน การออกงานสู่สังคม การใช้ชีวิตเยี่ยงสามีภริยา ฯลฯ
เรื่องอย่างนี้ทั้งหมดสามีต้องแบ่งสรรให้เท่าเทียมกัน ด้วยเหตุนี้ ในโลกมุสลิมจึงไม่มีคำว่า "เมียน้อย" หรือ "เมียหลวง" เพราะทุกคนมีสถานะภริยาเท่าเทียมกันทุกคน

บทสรุป คือ ภริยาของชายมุสลิมไม่มี เมียหลวง เมียน้อย เมียแบบเพื่อนเที่ยว เมียออกงาน เมียนอกบ้านหรือกิ๊ก ดังนั้นสตรีแต่ละคนจึงเท่าเทียมกัน ทรัพย์สินของสามี ผู้เป็นลูกก็มีสิทธิ์เท่าเทียมกันด้วยนั้นเอง

นี่คือความยุติธรรมที่ศาสนาอิสลามกำหนดมาสำหรับผู้ที่คิดจะมีภริยามากกว่า 1 คน และผู้ชายมุสลิมผู้คิดจะมีภริยามากกว่า 1 คนนั้น จำเป็นจะต้องคิดให้หนักว่าให้ความยุติธรรมแก่ภริยาและบุตรทุกคนอย่างเท่าเทียมกันได้หรือไม่? จึงเป็นผลให้สังคมอิสลามโดยทั่วไปจึงเป็นสังคมผัวเดียวเมียเดียวในทุกสังคมจะมีเพียงส่วนน้อยมากที่จะมีผู้ชายมุสลิมผู้มั่งคั่งมีเงินทองเหลือเฟือที่สามารถมีภริยาได้ถึง 4 คน


www.sanook.com

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.244 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 17 เมษายน 2567 01:15:28