[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
25 เมษายน 2567 00:48:53 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อานิสงส์กรวดน้ำ  (อ่าน 519 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1012


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.124 Chrome 91.0.4472.124


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2564 16:19:37 »



อานิสงส์กรวดน้ำ

     ในครั้งหนึ่ง องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับอยู่ ณ เชตะวันมหาวิหาร พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ มีพราหมณ์ผู้หนึ่งอยู่ในเมืองสาวัตถีนั้น มีทรัพย์สมบัติอยู่ 80 โกฎิ พราหมณ์ผู้นั้นมีบุตรชายอยู่คนหนึ่ง เป็นที่รักมากเพราะมีบุตรคนเดียว พอบุตรชายมีอายุได้ประมาณ 17 ปี ก็เกิดโรคาพยาธิมาเบียดเบียน ก็ถึงซึ่งความตายไป พราหมณ์ผู้เป็นพ่อและแม่ บังเกิดความทุกขเวทยาโทมนัสเศร้าโศกเสียใจ เพราะอาลัยรักในบุตรที่ตายไปอย่างยิ่ง จึงให้สั่งคนใช้ที่เป็นบริวาร นำเอาศพไปเผาในป่าช้า และสั่งให้ปลูกศาลาขึ้นหนึ่งหลัง มีเสื่อสาดอาสนะ แล้วจัดทาสคนหนึ่งไปคอยปฏิบัติรักษาอยู่ในป่าช้านั้น เพื่อจะได้ส่งข้าวน้ำอาหารเข้าและเย็นให้แก่ลูกชายของตนทุกๆ วันมิได้ขาด ทำเหมือนกับบุตรชายของตนมีชีวิตอยู่ ทาสผู้นั้นก็ทำตามคำสั่งอยู่เสมอมิได้ขาดเลยสักวันเดียว

     อยู่มาวันหนึ่ง บังเอิญฝนตกหนักมากน้ำก็ท่วมหนทางที่จะไปนั้นทาสผู้นั้นจะข้ามไปก็ไม่ได้จึงกลับมาในระหว่างทางพบพระภิกษุรูปหนึ่งมาบิณฑบาตก็เลยเอาอาหารนั้นใส่บาตรให้เป็นทานแก่พระภิกษุ แล้วก็กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญนั้นส่งให้แก่ผู้ตาย ลูกชายที่ตายไปนั้นมานิมิตฝันให้พราหมณ์ผู้เป็นพ่อว่า ข้าพเจ้าได้ตายไปนานแล้วไม่เคยได้กินข้าวเลยสักวันเดียว เพิ่งจะมาได้กินข้าวแต่วันนี้วันเดียวเท่านั้น

      ครั้นพราหมณ์ผู้เป็นพ่อได้นิมิตฝันอย่างนี้ก็ใช้ให้คนไปตามทาสผู้ไปคอยเฝ้าปฏิบัติมาไถ่ถามดูทาสผู้นั้นก็ตอบว่าข้าพเจ้าไปส่งข้าวทุกๆ วัน แต่วันนี้ข้าพเจ้าไปไม่ได้ฝนตกหนัก น้ำท่วมก็กลับมาพบพระภิกษุรูปหนึ่งมาบิณฑบาต

      ข้าพเจ้าก็เลยเอาข้าวนั้นใส่บาตร แก่ภิกษุรูปนั้น แล้วอุทิศส่วนบุญนี้ไปให้บุตรของท่าน บุตรของท่านก็คงจะได้กินข้าวแต่วันนี้วันเดียวดังนี้แล ครั้นพราหมณ์ได้ฟังดังนั้นแล้วก็คิดว่าเราจะไปเฝ้าพระพุทธเจ้าเสียก่อน จะทูลถามพระพุทธเจ้าว่าเป็นอย่างไร พราหมณ์ก็ถือดอกไม้ธูปเทียนของหอมเข้าไปสู่สำนักพระพุทธเจ้าแล้วบูชาเครื่องสักการะนั้น แล้วนั่งที่สมควรแก่ตน ได้กราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า ข้าแต่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า คนหญิงชายทั้งหลายในโลกนั้นครั้นเขาตายไปปรโลกแล้วผู้อยู่ภายหลัง ได้แต่งข้าทาสชายหญิงให้ไปปฏิบัติแล้วปลูกศาลาไว้ให้ เอาเสื่อสาดอาสนะช้างม้าวัวควายไปในป่าชั้นนั้น จะเป็นอานิสงส์แก่ผู้ภายไปนั้นหรือไม่ พระพุทธเจ้าข้า

      องค์สมเด็จพระบรมศาสดา ตรัสพระธรรมเทศนาว่า ดูกรพราหมณ์จะให้เป็นอานิสงส์แก่ผู้ตายนั้น ควรถวายสังฆทานให้แก่พระภิกษุสงฆ์สามเณร ตรวจน้ำอุทิศส่วนบุญกุศลที่ตนได้กระทำนั้นให้แก่ผู้ตาย จึงจะเป็นผลอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ไพศาลผู้ที่ตายไปแล้วนั้นครั้นได้รับส่วนอุทิศอันให้แล้วก็จะพ้นทุกข์ทั้งมวลนั้นได้อย่างแน่แท้

      ครั้นพราหมณ์ได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วก็ชื่นชมยินดีอย่างมาก แล้วทูลอาราธนาพระพุทธเจ้ากับทั้งพระภิกษุสงฆ์ไปสู่บ้านเรือนของตน เพื่อฉันภัตตาหารครั้นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้ากับพระภิกษุสงฆ์ ฉันภัตตาหารเสร็จ ได้ถวายปัจจัย 4 มี จีวร เป็นต้น แล้วตรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปให้แก่ลูกชายของตน องค์สมเด็จพระพุทธเจ้าได้ตรัสเทศนาว่า ดูกรพราหมณ์ตั้งแต่นี้ต่อไปอย่าได้ไปปฏิบัติ อยู่ในป่าช้านั้นอีกเลย ท่านจงรักษาศีลภาวนาอย่าได้ขาด บุตรของท่านก็จะได้พ้นทุกข์ ขึ้นไปเสวยสุขอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ พระพุทธเจ้าตรัสเทศนาจบลงแล้ว บุตรชายของพราหมณ์ผู้ตายไปแล้วนั้นก็พ้นจากเปรตวิสัย ได้ไปอุบัติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีวิมานทองสูง 12 โยชน์ มีนางฟ้าเทพอัปสรพันหนึ่งเป็นบริวาร พราหมณ์ผู้เป็นบิดาก็ตั้งอยู่ในศีล 5 ศีล 8 ตราบเท่าสิ้นชีวิตแล้วได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์มีปราสาททองและเทพกัญญาหนึ่งหมื่นเป็นบริวาร ดังนี้เป็นต้น

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 10
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1012


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 91.0.4472.124 Chrome 91.0.4472.124


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 13 กรกฎาคม 2564 16:28:04 »



กรวดน้ำตอนเช้า
สัพพปัตติทานคาถา

(หันทะ มะยัง สัพพะปัตติทานะคาถาโย ภะณามะ เส.)

ปุญญัสสิทานิ กะตัสสะ       ยานัญญานิ กะตานิ เม,

เตสัญจะ ภาคิโน โหนตุ       สัตานันตาปปะมาณะกา,

สัตว์ทั้งหลายไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ, จงมีส่วนแห่งบุญ
ที่ข้าพเจ้าได้ทำในบัดนี้, และแห่งบุญอื่นที่ได้ทำไว้ก่อนแล้ว

เย ปิยา คุณะวันตา จะ         มัยหัง มาตาปิตาทะโย,

ทิฏฐา เม จาปํยะทิฏฐา วา       อัญเญ มัชฌัตตะเวริโน

คือจะเป็นสัตว์เหล่าใด, ซึ่งเป็นที่รักใคร่และมีบุญคุณ เช่น
มารดา บิดาของข้าพเจ้าเป็นต้น ก็ดี ; ที่ข้าพเจ้าเห็นแล้ว
หรือไม่ได้เห็นก็ดี, สัตว์เหล่าอื่นที่เป็นกลางๆหรือเป็นเวรกันก็ดี,

สัตตา ติฏฐันติ โลกัสํมิง         เต ภุมมา จะตุโยนิกา,

ปัญเจกะจะตุโวการา         สังสะรันตา ภะวาภะเว,

สัตว์ทั้งหลาย ตั้งอยู่ในโลก, อยู่ในภูมิทั้งสาม, อยู่ในกำเนิดทั้งสี่ มีขันธ์ห้าขันธ์ มีขันธ์เดียว มีขันธ์สี่ขันธ์, กำลังท่องเที่ยวอยู่ในภพน้อยภพใหญ่ก็ดี

     ญาตัง เย ปัตติทานัมเม       อะนุโมทันตุ เต สะยัง,

     เย จิมัง นัปปะชานันติ        เทวา เตสัง นิเวทะยุง,

สัตว์เหล่าใดรู้ส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์เหล่านั้นจงอนุโมทนาเองเถิด, ส่วนสัตว์เหล่าใดยังไม่รู้ส่วนบุญนี้, ขอเทวดาทั้งหลายจงบอกสัตว์เหล่านั้นให้รู้

     มะยา ทินนานะ ปุญญานัง        อะนุโฆทะเหตุนา

     สัพเพ สัตตา สะทาโหนตุ         อะเวรา สุขะชีวิโน,

     เขมัปปะทัญจะ ปัปโปนตุ         เตสาสา สิชฌะตัง สุภา.

เพราะเหตุที่ได้อนุโมทนาส่วนบุญที่ข้าพเจ้าแผ่ให้แล้ว, สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง, จงเป็นผู้ไม่มีเวร อยู่เป็นสุขทุกเมื่อ จงถึงบทอันเกษมกล่าวคือพระนิพพาน, ความปรารถนาที่ดีงามของสัตว์เหล่านั้นจงสำเร็จเถิด.



กรวดน้ำตอนเย็น
อุททิสสนาธิฏฐานคาถา
(หันทะ มะยัง อุททิสสะนาธิฏฐานะคาถาโย ภะณามะ เส.)


บทที่ ๑

        อิมินา ปุญญะกัมเมนะ                   ด้วยบุญนี้ อุทิศให้

        อุปัชฌายา คุณุตตะรา                   อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ

        อาจะริยูปะการา จะ                       แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน

        มาตา ปิตา จะ ญาตะกา                 ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ

        สุริโย จันทิมา ราชา                       สูรย์จันทร์ และราชา

        คุณะวันตา นะราปิ จะ                     ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ

        พรัหมะมารา จะ อินทา จะ               พรหม มาร และอินทราช

        โลกะปาลา จะเทวะตา                    ทั้งทวยเทพ และโลกบาล

        ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ                 ยมราช มนุษย์มิตร

        มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ                     ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ

        สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ                   ขอให้ เป็นสุขศานติ์ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
                                                           
ปุญญานิ ปะกะตานิ เม                    บุญผอง ที่ข้าทำจงช่วยอำนวยศุภผล

สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ                       ให้สุข สามอย่างล้น

ขิปปัง ปาเปถะ โวมะตัง                   ให้ลุถึงนิพพานพลัน

                                      บทที่ ๔

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ                    ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ

อิมินา อุททิเสนะ จะ                       แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์

ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ                     เราพลันได้ ซึ่งการตัด

ตัณหุปาทานะเฉทะนัง                    ตัวตัณหา อุปาทาน

เย สันตาเน หินา ธัมมา                   สิ่งชั่ว ในดวงใจ

ยาวะ นิพพานะโต มะมัง                  กว่าเราจะถึงนิพพาน

นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ                   มลายสิ้น จากสันดาน

ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว                   ทุกๆภพ ที่เราเกิด

อุชุจิตตัง สะติปัญญา                      มีจิตตรง และสติทั้งปัญญาอันประเสริฐ                                                   

สัลเลโข วิริยันหินา                         พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
                                                   
มารา ละภันตุ โนกาสัง                    โอกาส อย่าพึงมีแก่หมู่มารสิ้นทั้งหลาย                                                   

กาตุญจะ วิริเยสุ เม                         เป็นช่องประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม                                                 

พุทธาทิปะวะโร นาโถ                      พระพุทธะ ผู้บวรนาถ

ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม                   พระธรรมเป็นที่พึ่งอันอุดม

นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ                   พระปัจเจกะพุทธสม-

สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง                 ทบพระสงฆ์ เป็นที่พึ่งผยอง

เตโสตตะมานุภาเวนะ                      ด้วยอานุภาพนั้น

มาโรกาสัง ละภันตุ มา                    ขอหมู่มาร อย่าได้ช่อง

ทะสะปุญญานุภาเวนะ                     ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง

มาโรกาสัง ละภันตุ มา                    อย่าเปิดโอกาสแก่มาร (เทอญ)
บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.239 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 16 เมษายน 2567 08:52:43