[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 16:24:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คนทรงเจ้า , ความพอดี , ช่วยคนคิดฆ่าตัวตาย , สวดมนต์เป็นการเจริญสติ?  (อ่าน 2108 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออนไลน์ ออนไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5075


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 16 พฤษภาคม 2553 14:32:17 »




คนทรงเจ้า
     
       ปุจฉา : กราบนมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพอย่างสูง ผมเคยพบคนทรงเจ้ามาคนหนึ่ง เขาสอนให้ผมและศิษย์ของเขาปฏิบัติธรรมตามแนวทางของพระพุทธเจ้า เทพที่มาลงเขาบอกว่าเขาคือพระอินทร์ และเท่าที่ได้ติดตามเขามา เขาทำกุศล สร้างวัดวาอาราม ศาลา และทำทานแก่ผู้ยากจนอยู่เป็นนิจ ผมสงสัยว่า เขาทรงจริงไหมครับ และเท่าที่ติดตามเขามา เขาก็ไม่เรียกร้องเงินทองอันใด ผมจะสามารถตรวจสอบอย่างไรว่าเขาทรงจริง หรือผมกำลังเดินผิดทางครับหลวงปู่ โปรดอนุเคราะห์กระผมด้วยว่าผมควรทำอย่างไรครับ
       ขอกราบนมัสการด้วยความเคารพยิ่ง
      
       วิสัชนา: คุณไม่จำเป็นต้องสงสัยว่า พระอินทร์จะมาเข้าทรงอยู่ในตัวเขาหรือไม่ ถ้าเขาสอนหรือแนะนำให้คุณคิด พูด ทำดี ก็ใช้ได้ เพราะมนุษย์ธรรมดาๆ ก็สามารถบอกแนะนำคุณให้คิดทำพูดดีได้ ไม่ต้องถึงอินทร์ พรหม เทวดา หน้าไหนหรอก
      
       การที่เขาอ้างเอาองค์อินทร์ มาเป็นผู้แนะนำให้คุณและผู้อื่นทำดี แสดงว่าเขาคงจะไม่ภูมิใจในตัวมนุษย์ที่มีอยู่กับเขา หรือไม่เขาก็ไม่มั่นใจในตัวเอง จึงต้องไปยกเอาฟ้า ขอร้องให้เทวดาให้มาเข้าทรง แล้วเช่นนี้จะเป็นผู้นำผู้อื่นได้กระนั้นหรือ
      
       คุณก็ต้องเลือกด้วยปัญญาของคุณเองแล้วว่า คุณจะเชื่อคนอ่อนแอ หรือเชื่อคนแข็งแรง
      
       ความพอดี

      
       ปุจฉา: กราบนมัสการหลวงปู่ ผมกราบเรียนถามหลวงปู่ว่าการที่เราเกิดมาแต่ละคนย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ได้สั่งสมกันมา ซึ่งขณะเดียวกันเราใช้ชีวิตอยู่ในสมมติบัญญัติ ซึ่งหลวงปู่ได้สอนสั่งเสมอมาว่า ให้รู้จักใช้สมมติให้เป็นประโยชน์ และสุดท้ายก็ไม่ยึดติดในสมมติ การดำเนินชีวิตของคนเราในโลกสมมตินั้น ดูเหมือนเราจะต้องมีความเพียรพยายามในการสร้างสมสิ่งต่างๆ มากมาย สร้างครอบครัว สร้างสังคม สร้างชาติ สร้างสมฐานะของเรา ของสังคม และของประเทศให้มั่นคง
      
       แต่ในขณะเดียวกันในทางธรรม เราก็ต้องมีความเพียรพยายามที่จะ ละ วาง ลด ซึ่งบ่อยครั้งมากที่ดูมันช่างเป็นสิ่งที่สวนทางกัน แต่ในความรู้สึกลึกๆ แล้ว ผมยังรู้สึกว่ามันย่อมต้องมีจุดดุลยภาพที่สองสิ่งนี้จะผสานกันได้อย่างพอเหมาะอย่างพอดี เพียงแต่ความพอดีที่ต้องไม่เกิน หรือน้อยไป แต่ดูมันไม่ง่ายเลย
      
       จึงกราบเรียนถามหลวงปู่ว่า ความพอดีของการที่จะอยู่ทั้งในโลกสมมติ คือ การมีหน้าที่ภาระต่อสังคมที่เราอยู่ และขณะเดียวกัน เรียนรู้เข้าใจในปรมัตถ์เพื่อละวาง ควรจะต้องทำอย่างไรถึงจะพอดี
      
       วิสัชนา: มันมิได้สวนทางกันอย่างที่คุณคิดหรอก เพราะเมื่อมีชีวิต เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่อิงอาศัยอะไรแล้วจะอยู่รอด สิ่งมีชีวิตก็ต้องอิงอาศัยสรรพสิ่ง สรรพชีวิต สรรพสัตว์ สรรพธรรมชาติ เพื่อให้ชีวิตนี้ตั้งมั่นดำรงอยู่ แล้วสุดท้ายเมื่อมีแรงกาย แรงใจพร้อมพอที่จะ ลด ละ วาง สรรพสิ่งทั้งภายนอกและภายใน เพื่อความผ่อนคลายโปร่งเบาสบายและอิสระ
      
       ช่วยคนคิดฆ่าตัวตาย

      
       ปุจฉา: กรณีคนที่เคยฆ่าตัวตายแต่ยังไม่ตาย และขณะนี้ก็กำลังคิดฆ่าตัวตายอีก กราบเรียนถามหลวงปู่ว่าจะใช้ธรรมะข้อใดหรือต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างไร จึงจะช่วยไม่ให้ เขาคิดฆ่าตัวตายอีกตลอดไป
      
       วิสัชนา: บอกให้เขารู้ว่า กว่าจะได้มาเป็นมนุษย์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องรักษาศีล บริจาคทาน ฟังธรรม เจริญสติ มีความปรารถนาที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ต่อก่อนตาย เมื่อตายแล้วจึงจะมาบังเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก
      
       แต่เพื่อนของคุณได้อัตภาพมนุษย์มาแล้วอย่างยากยิ่ง แทนที่จะนำอัตภาพมนุษย์มาเพียรพยายามสร้างคุณงามความดี สะสมเหตุที่จะทำให้ได้อัตภาพที่ดีในภพภูมิหน้า แต่นี่กลับปฏิเสธอัตภาพที่ได้มายากเช่นนี้
      
       บอกล่วงหน้าได้เลยว่า เมื่อฆ่าตัวตายแล้ว เขาจะไม่มีสิทธิ์ได้เกิดเป็นมนุษย์อีกตราบนานเท่านาน จนกว่าจะระลึกได้ว่าเคยทำดี พูดดี คิดดี แล้วตั้งความปรารถนาจะเป็นมนุษย์
      
       สวดมนต์เป็นการเจริญสติ?

      
       ปุจฉา: กราบนมัสการหลวงปู่ การสวดมนต์ถือเป็นการเจริญสติใช่หรือไม่ และถ้าใช่ แล้วจะสามารถทำจนถึงขั้นได้ฌานได้ไหม อย่างไร
      
       วิสัชนา: ใช่เป็นบางโอกาส ถ้าคุณสวดหรือสาธยายด้วยความตั้งใจจดจ่อจริงจัง จิตไม่ส่งส่าย ไม่หลุกหลิก หยุดนิ่งอยู่กับการสวด เช่นนี้ก็ถือว่าเจริญสติ เมื่อจิตนิ่งสงบก็เป็นสมาธิ จนถึงขั้นมั่นคงก็จัดได้ว่าเป็นองค์ฌานแล้วแหละคุณ ส่วนจะอยู่ที่ฌานไหน ก็ขึ้นอยู่กับกำลังของสมาธิขณะนั้น
      
       (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 114 พฤษภาคม 2553 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม)

 
http://www.manager.co.th/Dhamma/ViewNews.aspx?NewsID=9530000062198

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 พฤษภาคม 2553 14:37:30 โดย มดเอ๊ก » บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
ธรรมาวุธ :ความพอดี (หลวงพ่อชา)
ธรรมะจากพระอาจารย์
เงาฝัน 0 1325 กระทู้ล่าสุด 16 สิงหาคม 2555 20:52:26
โดย เงาฝัน
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.36 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 09 กุมภาพันธ์ 2567 21:36:03