๕๔. ปัจจุปปันนา ธัมมา ในบบที่ ๕๔ นั้น โดยพระบาลีว่า ปัจจุปปันนา ธัมมา แปลว่า
ธรรมทั้งหลายอันบังเกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยความอธิบายว่า
ธรรมที่เป็นปัจจุบันนั้นก็คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เห็นอยู่เฉพาะหน้านี้แลชื่อว่า ปัจจุบันธรรม โดยความเป็นจริงก็คือไม่เที่ยง มีความเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องมีความ
ดับไปเป็นธรรมดาและเป็นทุกข์เหลือที่
จะทน จนตั้งอยู่ไม่ได้ต้องดับไป ไม่มีวิสัย
ที่จะฝ่าฝืน และไม่เป็นไปตาม
อำนาจของท่านผู้ใด
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี้แลเป็นปัจจุบันธรรม แลเป็น
วิปัสสนาปัญญา เป็นธรรมที่คงทนต่อความเพียร เมื่อบุคคลผู้ใด
เห็นปัจจุบันธรรมคือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี้ให้
แจ้งชัดแล้ว บุคคลผู้นั้นก็จัดเป็นผู้สามารถ
จะยังศีล สมาธิ ปัญญา ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์
ขึ้นในตนได้ เพราะอารมณ์ของปัจจุบันธรรมนั้นน้อย ย่อมเป็นอารมณ์อันสะดวกดี
ปัจจุบันธรรมนี้ เมื่อบุคคลผู้ใดมา
รู้แจ้งเห็นชัดตามความเป็นจริงอย่างไรแล้ว บุคคลผู้นั้นก็เป็นผู้ไม่
ฝ่าฝืนและไม่ต้องแก้ไขยักย้าย
เมื่อเป็นอยู่อย่างไรก็รู้ตามเห็นตามไปอย่างนั้น ก็เป็นทาง
สัมมาทิฏฐิปฏิบัติอยู่เอง เพราะมารู้เห็นตามความเป็นจริงอย่างไร ย่อมถูกต้องตามพระพุทธประสงค์ซึ่งพระองค์ทรงบัณฑูรเทศนาไว้ว่า อะสังหิรัง อะสังกุปปัง แปลว่า
ธรรมไม่ง่อนแง่นคลอนแคลน และเป็นธรรมไม่กำเริบจลาจล เป็นธรรมทนต่อความเพียรจริงดังนี้ ปัจจุบันธรรมนี้แล เป็นมัชฌิมาปฏิปทา หนทางปฏิบัติอย่างกลาง เมื่อจะสันนิษฐานตามนัยพระสุตตันตโวหารแลวินัยบัญญัติ ปรมัตถ์ ๔ ธรรมทั้ง ๓ ปิฎก ที่พระองค์ทรงตรัสสอนพระปัญจวัคคีย์ภิกขุนั้น ก็มีพระพุทธประสงค์จะให้
เห็นตามความที่เป็นจริง โดยสภาพอันเป็นปัจจุบันนี้เอง เพราะฉะนั้นจึงสมกับพระบาลีว่า ปัจจุปปันนา ธัมมา ฉะนี้ แก้ไขมาในติกาติกาบทที่ ๕๔ ก็ยุติลงแต่เพียงเท่านี้ฯ