[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 07:57:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: แรกนาครั้งกรุงศรีอยุธยา  (อ่าน 465 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 5461


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 13 พฤษภาคม 2565 16:38:51 »



จิตรกรรมพระราชพิธีสิบสองเดือน วัดเสนาสนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แรกนาครั้งกรุงศรีอยุธยา

เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยานั้น กฎมนเทียรบาลระบุชื่อพระราชพิธีนี้ว่า “ไพศาขจรดพระอังคัล” ในพระราชพิธีนั้นพระเจ้าแผ่นดินงดเสด็ดออกขุนนาง และพระราชทานอาญาสิทธิให้แก่เจ้าพญาจันทรกุมารเป็นผู้แทนพระองค์มีพระราชอำนาจเต็มในช่วงพระราชพิธีสามวัน ในกฎมนเทียรบาลบุรายละเอียดไว้ว่า
“...เดือนไพศาขจรดพระอังคัล เจ้าพญาจันทกุมาร ถวายบังคม ณ หอพระ ทรงพระกุรณายื่นพระขรรค แลพระพลเทพถวายบังคมสั่งอาชญาสิทธิ ธรงพระกรุณาลดพระบรมเดช มิได้ไขหน้าล่องมิได้ตรัสคดีถ้อยความ มิได้เบีกลูกขุนมิได้เสดจ์ออก ส่วนเจ้าพญาจันทกุมารมีเกยช้างหน้าพุทธาวาสขัดแห่ขึ้นช้างแต่นั้นให้สมโพธ ๓ วัน ลูกขุนหัวหมื่นพันนา ๑๐๐ นา ๑๐๐๐๐๐ นา กรมการในกรมนาเฝ้า แลขุนหมื่นชาวสานทั้งปวงเฝ้าตามกระบวน...”

สำหรับ "พระยาพลเทพ" ที่ระบุว่าเป็นผู้สั่งอาชญาสิทธิ์นั้น เป็นเสนาบดีจตุสดมภ์กรมนา นาพระไอยการพลเรือนระบุว่า "ออกญาพลเทพราชเสนาบดีศรีไชยนพรัตนกระเสตราธิบดีอภัยพิรีบรากรมภาหุ ได้ใช้ตรา ๔ ดวง ถือศักดินา ๑๐๐๐๐"

การพระราชทานอาญาสิทธิ์แก่พระยาแรกนา ในสมัยกรุงศรีอยุธยานี้ ยังปรากฏอยู่ในจดหมายเหตุวันวลิต ซึ่งเก็บข้อมูลจากคำบอกเล่าของชาวกรุงศรีอยุธยาในขณะนั้นว่า ครั้งแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรมทรงแต่งตั้ง "ออกญาข้าว" เป็นพระยาแรกนา พร้อมพระราชทานเครื่องประกอบต่างๆ เป็นเกียรติยศสำหรับผู้ที่ "ถูกสมมติให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน" ความว่า

“...พระองค์ได้พระราชทานพระภูษาใหม่อันเป็นฉลองพระองค์ของกษัตริย์ และให้ใส่มงกุฎรูปกรวยแหลมลงบนศีรษะ ออกญาข้าวต้องนั่งในบุษบกเล็กๆ ทรงปิรามิด มีคน ๘ คนหามออกเดินจากพระราชวังไปตามถนน มีบริวารล้นหลาม พร้อมด้วยเครื่องดีดสีตีเป่าติดตามไปยังชนบท ทุกๆ คนแม้แต่เสวกามาตย์และชาววังคนอื่นๆ ถวายเกียรติยศทำนองเดียวกับที่ถวายพระเกียรติแก่พระเจ้าแผ่นดิน ทั้งนี้เพราะเขาได้ถูกสมมุติให้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ออกญาข้าวไม่ได้รับค่าตอบแทนอื่นใด นอกจากเงินที่เก็บจากค่าปรับไหมจากคนที่พบกลางทาง...พระยาแรกนาเมื่อมาถึงโรงพิธี ก็อนุญาต​ให้ทุกๆ คนเข้าโจมตีต่อสู้กับพรรคพวกและบริวารผู้ติดตาม มีกฎอยู่ว่าผู้ที่เข้าโจมตีจะแตะต้องตัวหรือองครักษ์ของพระยาแรกนาไม่ได้ และถ้าหากพระยาแรกนาได้ชัยชนะในการต่อสู้กับฝูงชนแล้ว จะเป็นสัญลักษณ์ว่าปีนั้นข้าวอุดมสมบูรณ์ และถ้าการณ์กลับตรงกันข้าม พระยาแรกนาต้องหนีกระเจิงก็ทำนายว่าเป็นลางร้ายและเกรงว่าภูตผีจะทำลายพืชผลของแผ่นดิน..."

ในจดหมายเหตุวันวลิต ยังกล่าวต่อไปอีกว่า ขณะนั้นพระเจ้าปราสาททองเมื่อครั้งยังเป็นจมื่นศรีสรรักษ์ ได้พาพรรคพวกเข้าโจมตีขบวนพระยาแรกนา ดังนี้

"...ขณะนั้นออกญากลาโหมเพิ่งมียศเป็นจมื่นศรีสรรักษ์และมีอายุประมาณ ๑๘ ปี วันหนึ่งเมื่อมีการทำพิธีนี้ เขาได้อยู่ที่ชนบทนั้นด้วย โดยมากับน้องชาย ...ทั้ง ๒ คนขี่ช้างมีบ่าวไพร่ติดตามมาหลายคนและได้เข้าโจมตีพระยาแรกนาอย่างดุเดือด ดูเหมือนว่ามีเจตนาจะฆ่าพระยาแรกนาและกลุ่มผู้ติดตามทั้งหมดด้วย ...จมื่นศรีสรรักษ์ก็ถอดดาบและโถมเข้าสู้อย่างดุเดือด จนพระยาแรกนาและองครักษ์จำต้องถอยหนี...”

ผลจากเหตุการณ์ครั้งนั้นพระเจ้าทรงธรรม ให้จับตัวจมื่นศรีสรรักษ์มารับพระราชอาญา โปรดให้สั่งจำขังคุกใต้ดินเป็นเวลา ๕ เดือน จนกระทั่งเจ้าขรัวมณีจันทร์ ชายาในสมเด็จพระนเรศวร มาทูลขอพระราชทานอภัยโทษให้

เหตุการณ์ในจดหมายเหตุวันวลิต จึงสะท้อนให้เห็นว่า การกระทำของจมื่นศรีสรรักษ์ เป็นการล่วงละเมิดพระราชอำนาจ เพราะพระยาแรกนา คือผู้แทนพระองค์พระเจ้าแผ่นดินอย่างแท้จริง

ส่วนตำราทวาทศพิธี กล่าวถึงรายละเอียดการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญครั้งกรุงศรีอยุธยาไว้ดังนี้

“...ครั้นถึงเดือน ๖ มีพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ให้ปลูกโรงพระราชพิธีใหญ่น้อยตามควร ตกแต่งประดับดังกาลก่อนนั้นทุกประการ ให้ชีพ่อพราหมณ์เชิญพระอิศวรพระนารายณ์ไปตั้งในโรงพระราชพิธี ให้กรมนาแต่งไถเอก ไถโท เทียมด้วยโคกระวิน (โคสีน้ำตาล) ให้พระยาพลเทพแต่งตัวโอ่โถง ใส่เสนากุฎมีกระชิงสัปทนกางกั้น ขี่คานหามบโทนแห่หน้าไปยังโรงพระราชพิธี ให้กรมนาสานกระเช้าใหญ่รอบ ๓ กำ มีสาแหรกคานหามครบ ลงรักปิดทองทาชาด สำหรับนางเทพีทั้ง ๔ คน เป็นกระเช้า ๘ ใบ หาบข้าวปลูกไปส่งพระยาพลเทพ แลนางเทพีทั้ง ๔ คน นุ่งห่มโอ่โถงผ้าสีต่างๆ ติดตีนยก นุ่งห่มผ้าสีต่างๆ ใส่โสร่งขโดง (ทรงผมสตรีแบบโองโขดง หรือโซงโขดง มีลักษณะเป็นการเกล้าผมบนขม่อมเป็นห่วงยาวๆ และมีเกี้ยวหรือพวงมาลัยสวม) ขึ้นคานหาม มีกระชิงหุ้มผ้าแดงกั้นแห่มายังโรงพระราชพิธี ครั้นได้ฤกษ์ดี พระยาพลเทพจึงจับไถเอกออกจรดพระนังคัล ๓ รอบ แล้วนางเทพี ๔ คนหาบข้าวปลูกไปส่ง พระยาพลเทพรับเอาข้าวปลูกไปหว่าน แล้วจึงเอาไถโทกลบ รอบสามแล้วกลับมายังโรงพระราชพิธี ให้กรมนายกเอาน้ำ เหล้า ข้าว ถั่ว งา หญ้า เข้ามาตั้งให้เสี่ยงทาย จึ่งให้พระโคทั้ง ๔ ตัวกิน ถ้าพระโคกระวินกินสิ่งใด ให้โหราพฤฒาจารย์พราหม์ทั้งหลาย ทายทุกข์สุขตามลักษณะโคกินนั้นเถิด แต่นางเทพทั้ง ๔ คน ได้รับพระราชทานคนละ ๓ ตำลึง ตามอย่างธรรมเนียมสืบมาแต่ก่อน..."

ครั้นถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้ตั้งพระราชพิธีพืชมงคลขึ้นอีกพิธีหนึ่งเป็นพิธีสงฆ์ กระทำขึ้นก่อนพิธีแรกนา ๑ วัน มีการนำเมล็ดพันธุ์พืชเข้าร่วมพิธีเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนพระยาแรกนาและเทพีเข้ารับศีลและฟังพระสวดมนต์ แล้วพระยาแรกนากับเทพีเข้าไปรับพระราชทานน้ำสังข์และทรงเจิมเพื่อความเป็นสิริมงคลเช่นกัน แล้วพระราชทานปฏัก พระธำมรงค์ แก่พระยาแรกนา สำหรับใช้ในพระราชพิธีวันรุ่งขึ้น

เดิมนั้นพระเจ้าแผ่นดินมิได้เสด็จพระราชดำเนินมาในพระราชพิธีแรกนา จนกระทั่งหลัง พ.ศ.๒๔๗๕ จึงยกเลิกพระราชพิธีนี้ไป ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงมีการฟื้นฟูพระราชพิธีนี้ใหม่ ด้วยทรงพระราชดำริว่า “...การพระราชพิธีนี้กระทำเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พืชพันธุ์ธัญญาหารและบำรุงขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนของพระองค์ซึ่งส่วนมากเป็นกสิกร จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ฟื้นฟูขึ้นใหม่...”


ขอขอบคุณที่มา เพจ ภาษาไทย มหาวิทยาลัยรามคำแหง

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.29 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 20 มกราคม 2567 00:33:34