[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
02 ธันวาคม 2567 20:42:03 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โซกุชินบุตสึ ที่สุดแห่งการบำเพ็ญเพียร จนกลายร่างเป็น "มัมมี่พระ"  (อ่าน 705 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2481


ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 101.0.4951.64 Chrome 101.0.4951.64


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 02 มิถุนายน 2565 12:22:57 »





โซกุชินบุตสึ
ที่สุดแห่งการบำเพ็ญเพียร จนกลายร่างเป็น "มัมมี่พระ"

กระบวนการที่ทำให้ร่างกายเป็น "มัมมี่พระ" นั้นแท้จริงคือการบำเพ็ญเพียรรูปแบบหนึ่งของพระญี่ปุ่น นิกายชินงอน ซึ่งเป็นพุทธสายวัชรยาน เรียกกระบวนการทำมัมมี่ด้วยตนเองว่า "โซกุชินบุตสึ" (Sokushinbutsu) ซึ่งพบมากในหลายที่ของญี่ปุ่น แต่ที่พบมากคือ ในแถบยามากะตะ(Yamagata) ทางตอนเหนือ ในช่วงศตวรรษที่ 11-19

การทำมัมมี่ด้วยตนเองนี้ไม่ถือว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เป็นรูปแบบหนึ่งของการ "บรรลุธรรม" โดยเชื่อว่าเพื่อให้ร่างกายเป็นอมตะดำรงอยู่ตลอดไป จนกว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับมายังโลกอีกครั้ง ซึ่งอาจจะหมายถึงยุคพระศรีอาริย์
หากพระรูปหนึ่งต้องการที่จะเป็น "มัมมี่พระ" ก็เท่ากับท่านตัดสินใจแล้วว่า จะสละโลกนี้ไป โดยพระรูปนั้นจะต้องเข้าสู่กระบวนการบำเพ็ญเพียร ซึ่งทั้งหมดอาจใช้เวลาราว 3,000 วัน หรืออาจยาวนานถึง 10 ปี โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง ช่วงละ 1,000 วัน

โดย 1,000 วันแรกนี้ พระต้องงดอาหารประเภทเนื้อสัตว์ แม้กระทั่งผักผลไม้ก็งดเว้น แต่ฉันเฉพาะเมล็ดพืชต่างๆ ที่หาได้ตามป่าตามเขาเท่านั้น นอกจากนี้ พระยังต้องไปบำเพ็ญเพียรหลายรูปแบบ อาทิเช่น ไปนั่งสมาธิในถ้ำลึกๆ มืดๆ ถ้ำใต้ดิน หรือบางทีก็ไปนั่งสมาธิอยู่ใต้น้ำตกที่หนาวเย็น ซึ่งนักวิเคราะห์ในปัจจุบันกล่าวว่า เป็นกระบวนการนำไปสู่การ "ทำลายไขมัน" ในร่างกายออกไปให้เหลือน้อยที่สุด เวลาเป็นมัมมี่ร่างกายจะได้ไม่เน่าเปื่อย

พอผ่าน 1,000 วันแรกไป (ราวเกือบ 3 ปี) ก็จะออกจากป่ามาจำวัด โดยจะเลิกฉันพวกเมล็ดพืช เปลี่ยนมาเป็นฉันแค่เปลือกและรากของต้นสนเท่านั้น เรียกว่า "โมกุจิคิเกียว"(Mokujikigyo) ซึ่งแปลว่ากินต้นไม้ โดยแต่ละวันจะนั่งวิปัสสนากรรมฐาน บำเพ็ญสมาธิอยู่ตลอดเวลา เป็นระยะเวลาอีก 1,000 วัน

ส่วนในช่วง 1,000วันสุดท้าย  พระจะฉันชาชนิดพิเศษ ซึ่งเชื่อกันว่ามีส่วนผสมของน้ำยางชนิดหนึ่งจากต้น "อุรุชิ" (Urushi) ซึ่งเป็นต้นไม้ที่เอาเปลือกมาทำน้ำยาเคลือบแบบจีน รวมถึงฉันชาที่มีส่วนผสมของเกลือจากน้ำพุร้อนศักดิ์สิทธิ์

พระบางแห่ง ในระยะสุดท้ายจะปฎิบัติไปเรื่อยๆ จนในที่สุดจะงดน้ำ จนร่างกายแห้งลงและถึงแก่ความตายในที่สุด แต่ในบางที่ พอช่วงท้ายๆ พระจะยอมรับความตายโดยให้ลูกศิษย์นำร่างกายในท่านั่งสมาธิไปฝั่งทั้งเป็น ไว้ในสุสานใต้ดิน ที่มีขนาดพอดีกับตัวคน พระจะนั่งวิปัสนาอยู่ใต้ดิน โดยจะทำไม้ไฝ่เป็นท่อไว้สำหรับหายใจ พระจะสั่นกระดิ่งวันละครั้งเพื่อให้ลูกศิษย์ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่ เมื่อใดที่ได้ยินเสียงกระดิ่งเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ลูกศิษย์ก็จะปล่อยสุสานเอาไว้อย่างนั้นอีก 1,000 วัน รวมเป็น 3,000 วันแล้วจึงขุดศพขึ้นมา

ถ้าขุดขึ้นมาแล้วร่างกายแห้ง ไม่เน่าไม่เปื่อย ก็จะได้รับการบูชาอย่างสูง ถือเป็น "พระมัมมี่ที่ศักดิ์สิทธิ์" สามารถบรรลุธรรมจริง และจะมีการแต่งกายให้พระมัมมี่ด้วยเครื่องแต่งกายของพระชั้นสูง












Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มิถุนายน 2565 12:32:18 โดย ใบบุญ » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.227 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 17 พฤศจิกายน 2567 22:38:44