29 มีนาคม 2567 15:03:29
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
.:::
มหาราชผู้สร้างอาณาจักรล้านนา ถูกฟ้าผ่าสวรรคต! เหตุผิดสาบาณจะมีมเหสีองค์เดียว!!
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: มหาราชผู้สร้างอาณาจักรล้านนา ถูกฟ้าผ่าสวรรคต! เหตุผิดสาบาณจะมีมเหสีองค์เดียว!! (อ่าน 258 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์
Thailand
กระทู้: 2304
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 105.0.0.0
มหาราชผู้สร้างอาณาจักรล้านนา ถูกฟ้าผ่าสวรรคต! เหตุผิดสาบาณจะมีมเหสีองค์เดียว!!
«
เมื่อ:
06 กันยายน 2565 14:59:29 »
Tweet
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ : พญางำเมือง (ซ้าย) พญามังราย (กลาง) และพญาร่วง (พ่อขุนรามคำแหง; ขวา)
มหาราชผู้สร้างอาณาจักรล้านนา ถูกฟ้าผ่าสวรรคต! เหตุผิดสาบาณจะมีมเหสีองค์เดียว!!
โดย: โรม บุนนาค
เผยแพร่ : ผู้จัดการออนไลน์ 5 ก.ย. 2565
ในบางตำราที่ยังไม่ได้รวมถึงรัชกาลที่ ๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กล่าวว่าประเทศไทยมีมหาราช ๑๐ พระองค์ มหาราชพระองค์แรกก็คือ พระเจ้าพรหมมหาราช แห่งอาณาจักรโยนกนคร ซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.๑๕๗๒-๑๖๓๒ และทรงสร้างเวียงปราการขึ้นเป็นนครหลวง ปัจจุบันก็คืออำเภอไชยปราการในจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนมหาราชองค์ที่ ๒ ก่อนพ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งสุโขทัย ก็คือ พญามังรายมหาราช แห่งล้านนา ซึ่งครองราชย์ระหว่าง พ.ศ.๑๘๐๕-๑๘๕๔ เป็นราชโอรสของพญาลาวเม็ง ผู้ครองเมืองหิรัญนครเงินยาง และเป็นพระสหายร่วมสำนักศึกษา ๒ สำนักกับพ่อขุนรามคำแหงและพญางำเมืองแห่งพะเยา โดยทรงไปศึกษากับเทพอิสิฤาษี ที่ดอยง้วน ซึ่งปัจจุบันก็คือดอยหัวง้ม หรือดอยงาม ในอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย จากนั้นได้ไปต่อยังสำนักสุกทันตฤาษีร่วมกับอีก ๒ สหายเช่นกัน เมื่อเรียนสำเร็จก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านกลับเมือง เจ้าชายทั้ง ๓ ได้สาบานจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป นั่นก็คือที่มาของอนุสาวรีย์ ๓ กษัตริย์ที่หน้าศาลากลางเชียงใหม่ในปัจจุบัน ใน พ.ศ.๑๘๓๔ เมื่อพญามังรายมหาราชจะสร้างเมืองหลวงใหม่ที่เชิงดอนสุเทพ ยังได้เชิญพระสหายทั้ง ๒ มาร่วมปรึกษาหารือด้วย และช่วยกันขนานนามเมืองใหม่ว่า นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่
พญามังรายได้ขึ้นครองราชย์เมืองหิรัญนครเงินยางต่อจากพระราชบิดาขณะมีพระชนม์ ๒๐ ชันษา ทรงเห็นว่าเมืองต่างๆที่อยู่โดยรอบนั้น มีเรื่องวิวาทแย่งชิงบ้านเมืองและส่วยอากรจากราษฎรเป็นประจำ จึงส่งสารไปถึงเมืองเหล่านั้นให้มาขึ้นกับพระองค์ มิฉะนั้นจะยกกำลังไปปราบ มีบางเมืองไม่ยอมอ่อนน้อมก็ทรงยกไปปราบจนราบคาบ และติดตามราษฎรที่แตกกระสานซ่านเซ็นไปให้กลับเข้ามาอยู่ในเมือง บ้านเมืองจึงได้สงบสุขร่มเย็น
ต่อมาช้างพระที่นั่งซึ่งปล่อยไว้ในป่าได้หายไป ทรงออกติดตามพร้อมข้าราชบริพาร จนไปถึงดอยจอมทอง ริมแม่น้ำกก ทรงเห็นว่าภูมิประเทศแถบนั้นสมควรจะสร้างเป็นเมืองได้ ในปี พ.ศ.๑๘๐๕ จึงทรงสร้างนครหลวงแห่งใหม่ขึ้นที่นั่น ขนานนามว่า เมืองเชียงราย
พญามังรายทรงเป็นกษัตริย์ที่เข้มแข็งในการรบ อาณาจักรของพระองค์จึงกว้างใหญ่ ทิศเหนือจรดสิบสองปันนา ทิศใต้จรดอาณาจักรสุโขทัย ทิศตะวันออกจรดแคว้นลาว ทิศตะวันตกจรดแม่น้ำสาละวิน ทั้งยังทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ทอดพระเนตรเห็นบริเวณใดมีความอุดมสมบูรณ์ ก็ทรงสร้างเมืองขึ้นที่นั้น เช่น นครเชียงราย นครเชียงใหม่ และเมื่อยกทัพไปตีได้เมืองเชียงตุงแล้วก็ทรงสร้างเมืองเชียงตุงขึ้นใหม่ด้วย หรือเมื่อตีได้เมืองหริภุญชัยหรือนครลำพูน ก็ให้สร้างเวียงกุมกาม หรืออำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน
พญามังรายมหาราชยังได้ชื่อว่าเป็นยอดนักตุลาการ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ได้เรียบเรียงไว้ในหนังสือ “อนุสรณ์การสมโภชเมืองเชียงราย ๗๒๕ ปี” จากเอกสารใบลานเก่าที่เรียกว่า “กฎหมายมังรายศาสตร์” เขียนเป็นภาษาไทเหนือ ซึ่งได้ดัดแปลงเรียบเรียงมาจากหนังสือธรรมศาสตร์ คัมภีร์กฎหมายเก่าของอินเดีย และมอญได้ดัดแปลงให้เหมาะสมกับสภาพการของตนมาก่อนแล้ว ได้กล่าวถึงตัวบทกฎหมาย และมีคำอธิบายพร้อมเหตุผลประกอบ โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ไว้ดังนี้
๑.กฎหมายหมวดหนีศึก
๒.คนตายกลางสนามรบ
๓.รบศึกกรณีได้หัวและไม่ได้หัวข้าศึก
๔.เสนาอำมาตย์ตาย
๕.ให้ไพร่มีเวรผลัดเปลี่ยนกัน
๖.ไพร่กู้เงินทุน
๗.ไพร่สร้างไร่นา
๘.โทษสามสถาน
๙.โทษประหารชีวิต
๑๐.ลักษณะหมั้น
๑๑.ลักษณะหย่า
๑๒.การแบ่งสินสมรส
๑๓.ขอรับมรดก
๑๔.อายุความ ๒๐ ปี
๑๕.สาเหตุวิวาทกัน ๑๖ ประการ
ส่วนบทกำหนดโทษของแต่ละหมวดนั้น เช่น โทษประหารชีวิต ผู้กระทำความผิดคือ
๑.ฆ่าผู้ไม่มีความผิด
๒. เกาะกุมลูกท่าน หรือข้าท่าน ไปฆ่าเอาทรัพย์
๓.ทำลายกุฏิ วิหาร พระพุทธรูป
๔.รุกล้ำที่
๕.ชิงทรัพย์ท่าน
๖.รับผู้คนของท้าวพระยามาพักในบ้าน
๗.ลักของพระสงฆ์
๘.ลูกฆ่าพ่อ
๙.ลูกฆ่าแม่
๑๐.น้องฆ่าพี่
๑๑.ฆ่าเจ้า
๑๒.เมียฆ่าผัว
ส่วนความผิดร้ายแรง แต่ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ คือ
๑.ฆ่าชู้และเมียด้วยกันในที่รโหฐาน
๒.ฆ่าขโมยซึ่งไล่จับได้พร้อมของกลางในมือ
๓.เจ้าบ้านฆ่าผู้ถือหอกดาบเข้ามาถึงที่อยู่
๔.เจ้าบ้านฆ่าผู้ที่ลอบเข้ามาในบ้านผิดกาละ คือกลางคืน
๕.เจ้าบ้านฆ่าผู้ร้ายในขณะเข้ามาทุบซัดเรือนตอนกลางคืน
ทั้งยังระบุไว้ว่า ผู้ใดมีความผิดมากหรือน้อยก็ตามเมื่อเจ้าขุนไปเอาตัว หากมันใช้หอกดาบต่อสู้ หรือถือหอกดาบวิ่งหนีไปก็ดี ผู้ใดฆ่าตายไม่มีความผิด ถ้าหากมันยอม หรือวิ่งหนีด้วยมือเปล่า ห้ามมิให้ผู้จับฆ่ามัน ผู้ใดฆ่าก็มีความผิด
อนึ่ง ถ้าจับผู้กระทำความผิดมัดได้แล้ว ฆ่าเสียไม่นำมาให้เจ้าขุนพิจารณาดูก่อน ผู้ฆ่าก็มีความผิด ต้องเสียค่าสินไหม
กฎหมายเหล่านี้ตราเมื่อ ๗๐๐ กว่าปีมาแล้ว แสดงให้เห็นว่าพญามังรายทรงเป็นนักปกครองที่ล้ำยุคของสมัยนั้น ซึ่งกฎหมายมังรายศาสตร์นี้ได้เป็นพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน
พญามังรายยังทรงห่วงใยในทุกข์สุขของราษฎร วันหนึ่งในปี พ.ศ.๑๘๕๑ ขณะมีพระชนมายุ ๘๐ พรรษา ได้ทรงช้างพระที่นั่งไปทอดพระเนตรตลาดกลางเมืองเชียงใหม่ ตอนนั้นเป็นเวลากลางวันท้องฟ้าสว่างปราศจากเมฆหมอกใดๆ แต่แล้วก็เกิดเมฆฝนตั้งเค้า ลมพัดแรง และฝนตกลงมา ทันใดนั้นก็มีอสุนีบาตพุ่งมายังพระองค์ ทำให้พญามังรายมหาราชสิ้นพระชนม์บนหลังช้างกลางตลาดนั้น
ในสมัยนี้ก็ต้องว่าเป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่สมัยนั้นเชื่อกันว่าเป็นเหตุจากที่พระองค์ผิดคำสาบาณกับพระนางอั้วมิ่งเวียงชัย ว่าจะมีมเหสีเพียงองค์เดียว
ทั้งนี้เมื่อตอนที่เจ้าชายมังรายมีพระชนมายุ ๑๖ ชันษา พระบิดาได้แต่งตั้งให้เป็นทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับนครเชียงรุ้ง นครเชียงคำ นครเชียงเรือง ทำให้ได้พบรักกับพระนางอั้วมิ่งเวียงไชย พระธิดาของพญาเจืองฟ้า เจ้านครเชียงเรือง จนได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกันที่เมืองหิรัญนครเงินยาง และทรงสาบานกับพระนางอั้วมิ่งเวียงไชยว่าจะมีมเหสีเพียงองค์เดียว
เมื่อพญามังรายขึ้นครองราชย์ ได้แผ่พระบารมีออกไปอย่างกว้างขวางด้วยการยกทัพไปตีหลายเมืองมาอยู่ในพระราชอำนาจ ในปี พ.ศ.๑๘๓๑ ทรงยกทัพไปตีเมืองหงสาวดี พระเจ้ากรุงหงสาวดีสุทธโสมเกรงพระบารมี จึงแต่งเครื่องราชบรรณาการออกมาถวายขอเป็นไมตรี และยกนางปายโค พระธิดาให้เป็นบาทบริจาริกา พร้อมกับช่างฝีมือชาวมอญอีก ๕๐๐ คน ซึ่งพญามังราย นักสร้างเมืองพอพระราชหฤทัยอย่างมาก เพราะช่างฝีมือมอญโดดเด่นที่สุดในยุคนั้น จึงยกนางปายโคขึ้นเป็นมเหสีอีกองค์
ตอนนั้นพญามังรายมีโอรสกับพระนางอั้วมิ่งเวียงไชย ๓ พระองค์แล้ว ทรงส่งโอรสทั้ง ๓ องค์ไปครองเมืองต่างๆ ขุนเครือ โอรสองค์แรกไปครองเมืองเชียงราย แต่ถูกคนสอพลอที่ยกลูกสาวให้แล้วยุยงให้ปลงพระชนม์พระบิดา พญามังรายทราบเรื่องจึงส่งนายขมังธนูนักแม่นหน้าไม้ไปสังหารด้วยธนูอาบยาพิษ
การที่พ่อฆ่าลูกของตัวเองนี้ไม่มีแม่คนไหนรับได้ พระนางอั้วมิ่งเวียงไชยจึงตรอมพระทัยอย่างหนัก จนเมื่อพญามังรายนำนางปายโคมาเชิดหน้าชูตาเป็นมเหสีอีกองค์ ผิดกับคำที่เคยสาบาณกันไว้ พระนางอั้วมิ่งเวียงไชยจึงออกจากวังไปบวชเป็นชีที่เวียงกุมกาม จนตรอมใจตายในสภาพแม่ชี พญามังรายได้สร้าง “กู่คำ” ขึ้นที่เวียงกุมกาม เพื่อบรรจุอัฐิของพระนางอั้วมิ่งเวียงไชย
“กู่คำ” ก็คือเจดีย์ทรงเหลี่ยมที่วัดเจดีย์เหลี่ยม หรือวัดกู่คำ ที่อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยม มีพระพุทธรูปยืนด้านละ ๑๕ องค์ แต่ละด้านมีซุ้มพระด้านละ ๓ องค์ มี ๕ ชั้น รวม ๖๐ องค์ ประดับทองคำลงมาแต่ยอด ซึ่งหนุ่มสาวมักจะไปสาบานรักต่อกันที่เจดีย์นี้
โคลงนิราศหริภุญชัยซึ่งแต่งไว้ตั้งแต่สมัยโบราณ ได้กล่าวถึงเจดียกู่คำว่า
อารามรมเยศเมิ้นมังราย
นามกู่คำหลวงหลายเช่นท้าว
หกสิบสยมภูยายยังรอด งามเอ่
แปลงคู่นุชน้องน้าวนาฏโอ้โรทา
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...